คอลัมน์ที่ 13

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค จากท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

แล้วเสด็จฯมาทรงทำพิธีเปิดโครงการชลประทาน ที่จัดสร้างขึ้นตามพระราชดำริ 5 โครงการ ที่กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ประทับเรืออังสนา เป็นราชพาหนะตลอดการเสด็จพระราชดำเนิน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยประทับเรืออังสนาที่กองทัพเรือจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 สะพานภูมิพล 2 และประตูระบายน้ำ คลองลัดโพธิ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553

'อังสนา' แปลว่า ดอกประดู่ ต้นไม้สัญลักษณ์ของกองทัพเรือ

เรืออังสนา เป็นเรือรับรองพิเศษของกองทัพเรือ เพื่อใช้รับรองพระราชอาคันตุกะ ประมุขของประเทศต่างๆ แขกระดับสูงของรัฐบาล ในสังกัดของกิจการหอประชุมกองทัพเรือ ใช้สำหรับเป็นเรือรับรอง และเป็นสวัสดิการของกองทัพเรือ

ปัจจุบันเปิดให้บริการเป็นที่จัดงานทั้งขณะเรือจอด และเรือเดินในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้การบริหารเป็นรูปแบบกิจการสวัสดิการภายในกองทัพเรือ

เรืออังสนา ต่อที่อู่บริษัท ไทยอินเตอร์เนชันแนล ด๊อคยาร์ด จำกัด วางกระดูกงู เมื่อ 28 ตุลาคม 2545 ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อ 6 ตุลาคม 2546 บริษัทส่งมอบให้กองทัพเรือ เมื่อ 8 ธันวาคม 2546

ลักษณะทั่วไป ตัวเรือเป็น เรือเหล็ก ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 49 เมตร สูงจากผิวน้ำ 5.50 เมตร กินน้ำลึก 2 เมตร ระวางขับน้ำเต็มที่ 413 ตัน เครื่องจักรใหญ่ เป็นเครื่องดีเซล MAN รุ่น D2824LE 12 สูบ กำลัง 600 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง

ทำความเร็วสูงสุด 12 นอต เครื่องไฟฟ้าดีเซล MAN ผลิตกระแสไฟฟ้า 380 โวลต์ 258 แอมป์ 136 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง ถังน้ำมัน เชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว บรรจุ 14 ตัน น้ำจืด 60 ตัน พลประจำเรือ 26 คน

ปี 2550 กรมอู่ทหารเรือร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทดลองใช้น้ำมันแบบไบโอดีเซล บี 100 โดยใช้ปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อลดมลพิษและควันดำปกป้องสิ่งแวดล้อม การทดลองเป็นระยะเวลา 3 ปีได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง

เรืออังสนา เป็นเรือรับรองที่ทันสมัย และโอ่โถงสวยงามมากลำหนึ่ง สามารถบรรจุผู้โดยสารที่ใช้บริการปกติได้ประมาณ 200 คน มีดาดฟ้ารับรอง 2 ชั้น ประกอบด้วยห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่

1. ดาดฟ้าชั้นบน เป็นห้องโถงรับรองวีไอพี เลานจ์ สามารถรับรองผู้ใช้บริการได้ ประมาณ 50 คน มีเครื่องเสียงพร้อมคาราโอเกะ ร่วมกับระบบโฮม เธียเตอร์ ครบชุด เพื่อความบันเทิงของผู้ใช้บริการ และยังมีดาดฟ้าเปิดหัวและท้ายเรือ ในการชมทัศนียภาพสองฝั่งลำแม่น้ำเจ้าพระยาในขณะเรือเดินได้อีกด้วย

2. ดาดฟ้าชั้นล่าง แบ่งพื้นที่รับรองผู้ใช้บริการออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนหัวเรือจัดเป็นห้องรับประทานอาหารของแขกผู้ใหญ่ ในห้องประกอบด้วยโต๊ะรับประทานอาหารแขกผู้ใหญ่ และโต๊ะผู้ติดตาม มีเครื่องเสียง พร้อมคาราโอเกะ และโฮมเธียเตอร์ เพื่อให้ความบันเทิงขณะรับประทานอาหาร หรือพักผ่อน

ตอนกลางลำเป็นห้องโถงใหญ่ เพื่อใช้รับประทานอาหารของคณะผู้ใช้บริการ จุผู้ร่วมงานได้ประมาณ 140 คน ในห้องจัดเป็นโต๊ะอาหารติดตั้งทั้ง 2 กราบตลอดลำ มีโต๊ะวางอาหารบุฟเฟต์ขนาดใหญ่ มีเวทีสำหรับวงดนตรีและการแสดงขนาดเล็กได้

ห้องรับรองต่างๆ บนดาดฟ้าทั้ง 2 ชั้น เป็นห้องปรับอากาศ เย็นสบายตลอดการเดินทาง ภายในห้องจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นสัดส่วน เหมาะสมกับพื้นที่การประดับตกแต่งภายใน สวยงาม ระดับเดียวกับห้องรับรองของโรงแรมชั้น 1 ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการมีความประทับใจในความงาม และความเป็น 'ราชนาวี' ในเวลาเดียวกัน

การบริการบนเรือ มีบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม กรมพลาธิการ ทหารเรือ ให้การสนับสนุน ทั้งการจัดเตรียมอาหารและเจ้าหน้าที่บริการ เจ้าภาพสามารถเลือกประเภท ชนิด และจำนวนของอาหารได้ตามต้องการ

เรื่องดนตรี กองดุริยางค์ ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ให้การสนับสนุนวงดนตรีขนาดพอเหมาะกับพื้นที่บนเรือ พร้อมกับเครื่องเสียง และนักร้องชาย-หญิง เพื่อให้ความสำราญแก่ผู้ใช้บริการ

หน้า 6

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์ 
คอลัมน์ที่ 13

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ