น้ำท่วม 8 จังหวัด ทำทางหลวงอ่วม 26 สายทาง อีก 11 สายทางใน 4 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว พังยับ ใช้งานไม่ได้ ส่วนทางหลวงชนบทเสียหาย 238 สายทาง ใน 21 จังหวัด วิ่งผ่านไม่ได้ 32 สายทาง...
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 56 นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน ยังส่งผลให้เส้นทางการจราจรทางบกบางส่วน ถูกน้ำทะลักเข้าท่วม จนไม่สามารถใช้สัญจรไปมาตามปกติได้ ซึ่งจากสรุปรายงานการเกิดอุทกภัย กรมทางหลวง พบว่า ขณะนี้น้ำท่วมพื้นที่ 8 จังหวัด ถนนทางหลวงเสียหายจำนวน 26 สายทาง แบ่งเป็นถนนที่เสียหาย แต่ประชาชนยังใช้สัญจรผ่านไปมาได้ 25 แห่ง และเป็นถนนที่เสียหายหนัก จนประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ใน 11 แห่งใน 11 สายทาง
ทั้งนี้ เส้นทาง 11 สายทางที่ผ่านไม่ได้ ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังนี้ คือ 1. จ.ฉะเชิงเทรา 1.1 ทางหลวงหมายเลข 3076 วังขอน - พนมสารคาม ท้องที่ อ.พนมสารคาม ช่วง กม.ที่ 43-53 ระดับน้ำสูง 10-35 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ดังนี้ ทางหลวงหมายเลข3200 - ทางหลวงหมายเลข 3124 - ทางหลวงหมายเลข 3481 ตรงไป อ.บ้านสร้าง เข้าปราจีนบุรี 1.2 ทางหลวงหมายเลข 3076 พนมสารคาม - อ่างฤาไน ท้องที่ อ.พนมสารคาม ช่วง กม.ที่ 63 - 65 ระดับน้ำสูง 30 - 40 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ดังนี้ ทางหลวงหมายเลข 304 ทางหลวงหมายเลข 331 ไป อ.บ้านสร้าง เข้า จ.ปราจีนบุรี 1.3 ทางหลวงหมายเลข 3304 บ้านโพธิ์ - แปลงยาว ท้องที่ อ.บ้านโพธิ์ ช่วง กม.ที่ 9 - 14 ระดับน้ำสูง 45 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ดังนี้ ทางหลวงหมายเลข 315 ทางหลวงหมายเลข 304 ทางหลวงหมายเลข 331 บริเวณสี่แยกเก็ตเวย์
2. จ.ลพบุรี ประกอบด้วย 2.1 ทางหลวงหมายเลข 205 ม่วงค่อม - คลองห้วยไผ่ -เทศบาลลำนารายณ์ ท้องที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 58 - 69 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25-50 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทางสาย ทางหลวงหมายเลข 21 ม่วงค่อม คลองกระจัง
3. จ.ปราจีนบุรี 3.1 ทางหลวงหมายเลข 33 ปากพลี - ประจันตคาม ท้องที่ อ.ประจันตคาม ช่วง กม.ที่ 82 - 83 ระดับน้ำสูง 20-40 เซนติเมตร ให้ประชาชนให้ไปใช้เส้นทางสาย ทางหลวงหมายเลข 33 เข้าทาง อบต. 3.2 ทางหลวงหมายเลข 319 ปราจีนบุรี - ไผ่ชะเลือด ท้องที่ อ.เมืองปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 12 - 18 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทางสาย ทางหลวงหมายเลข 3481 บางขนาด บ้านสร้าง และ 3.3 ทางหลวงหมายเลข 3076 บางหอย - วังขอน ท้องที่ อ.บ้านสร้าง ช่วง กม.ที่ 40-43 ระดับน้ำสูง 60 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทางสาย ทางหลวงหมายเลข 3481 ไปปราจีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 319 ไปพนมสารคาม 3.4 ทางหลวงหมายเลข 3078 ระเบาะไผ่ - ประจันตคาม ท้องที่ อ.ศรีมหาโพธิ ช่วง กม.ที่ 23 24 ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร ไม่มีเส้นทางเลี่ยง 3.5 ทางหลวงหมายเลข 3079 ปราจีนบุรี - ศรีมหาโพธิ ท้องที่ อ.ศรีมหาโพธิ ช่วงกม.ที่ 18 - 19 ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร ให้ใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข ทช.4018 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 3069 บ้านโคกขวาง
และ 4. เส้นทางใน จ.สระแก้ว 4.1 ทางหลวงหมายเลข 33 พระปรง - โนนจิก ท้องที่ อ.เมืองสระแก้ว ช่วง กม.ที่ 141 - 151 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 80 เซนติเมตร ให้ใช้ทางเลี่ยง คือ ทางหลวงหมายเลข 359 เข้า หินซ้อน สระแก้ว อรัญประเทศ 4.2 ทางหลวงหมายเลข 3366 ท่าข้าม - โนนสาวเอ้ ท้องที่ อ.อรัญประเทศ ช่วง กม.ที่ 0 - 5 ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร ให้ใช้ทางเทศบาลอรัญประเทศ
ขณะที่ นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน ทำให้ถนนและสะพานในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบจำนวน 21 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง คือพิจิตร เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชลบุรี นครนายก ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง ลพบุรี สระแก้ว สุพรรณบุรี และอุทัยธานี โดยถนนทางหลวงชนบท เสียหาย 238 สายทาง แบ่งเป็นถนนที่เสียหายแต่ยังสัญจรผ่านได้ 206 สายทาง ผ่านไม่ได้ อยู่ระหว่างดำเนินการ 32 สายทาง
อย่าไรก็ตาม ขณะนี้ ได้สั่งการให้สำนักทางหลวงชนบท, สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ร่วมกับจังหวัด ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกกรณี โดยให้การสนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักร ในการรับ-ส่งประชาชนและสิ่งของ โดยเส้นทางที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง อีกทั้งได้แจกถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ กรมทางหลวงชนบทได้บูรณาการข้อมูลกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โดยผ่านคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ซึ่งมี ดร.รอยล จิตรดอน เป็นประธาน รวมทั้งศูนย์ประสานความปลอดภัยคมนาคม เป็นประจำทุกวัน.