กรุงเทพโพลล์ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ในฐานะอ่อนแอมากที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ประเมินครึ่งปีหลังเศรษฐกิจถดถอย และกลับมาฟื้นตัว ม.ค.57...
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 62 คน เรื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า โดยพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 34.40 จุด ลดลง 39.30% จากเดือนก่อนหน้า และอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในสถานะอ่อนแอและเป็นสถานะที่อ่อนแอมากที่สุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ รวมทั้งภาคส่งออกที่ปรับตัวลดลง มีเพียงภาคธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้นที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่นว่ายังอยู่ในฐานะแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องนับจากเดือน เม.ย.55
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับ 41.50 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 และลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะยังคงแย่ลงจากปัจจุบัน และเมื่อมองออกไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับ 55.27 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า 50 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน โดยมีการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ และ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่คอยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวลงไปมาก
อย่างไรก็ตาม จากผลวิจัยแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งจากค่าดัชนีบ่งชี้ให้เห็นว่าภาวะดังกล่าวจะกินเวลาประมาณ 6 เดือนหรือ 2 ไตรมาสก่อนที่เศรษฐกิจจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือน ม.ค. 57 โดยจะมีการใช้จ่ายและการลงทุนจากภาครัฐกับการท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ.