ม็อบการเมืองซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำคนหมดอารมณ์ซื้อของขวัญรับปีมะเมีย ยอดขายพลาดเป้า ที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 ขณะที่กลุ่มของใช้ ราคาย่อมเยา ยังเป็นสินค้ายอดฮิต...

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน เทศกาลแห่งความสุขที่ใครหลายๆ คน รอคอยก็จะมาถึง ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายคนเลือกที่จะมอบของขวัญ หรือ ส.ค.ส. แทนคำอวยพร “ไทยรัฐออนไลน์” ได้ลงพื้นที่งานเทศกาลของขวัญส่งออกแห่งปี 2014 เพื่อสำรวจกระแสความนิยมในการเลือกซื้อของขวัญปีมะเมีย หรือ ปีม้า

ของขวัญยอดฮิตปีนี้ ยังเป็นของใช้ทั่วไป อาทิ แก้วน้ำ เข็มกลัด กระเป๋าใบเล็ก และ ส.ค.ส. แม้จะดูไม่แปลกตา แต่ดีไซน์เก๋ ทันสมัย บวกกับราคาที่ย่อมเยา ก็ดึงดูดใจผู้ซื้อได้ไม่น้อย

เทศกาลปีใหม่แต่ละปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินสะพัดหลักแสนล้านบาท แต่ว่าเทศกาลปีใหม่ 2557 คงต้องลุ้นสุดกำลัง เพราะยอดขายสินค้าของขวัญ ของที่ระลึกในช่วงปลายนี้ไม่สดใส แม้ผู้ค้าจะไม่ได้ปรับขึ้นราคา แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่เริ่มรุนแรง ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายเงียบเหงา ผู้ค้าเกือบทุกร้าน บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายลดลงประมาณ 10-50%

นายวิโรจน์ แซ่ขุ้น เจ้าของร้านหลุยส์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิก-เข็มกลัดกรอบรูป กล่าวว่า เงียบกว่าปกติ ประชาชนซื้อของในราคาถูกลง น่าจะเป็นเพราะการเมืองมีการชุมนุม ทำให้คนไม่กล้าออกมา และไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ยอดขายปีนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 50 ทางร้านต้องใช้กลยุทธ์ลดราคา เพื่อดึงดูดลูกค้า

เช่นเดียวกับ น.ส.คำหล้า ชาย พนักงานขายร้าน Barbizon France บอกกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ปีนี้ขายสินค้าไม่ค่อยดีเท่าปีก่อน ยอดขายลด ประชาชนจับจ่ายน้อย

"ขายเมืองทอง ต้องผ่านแจ้งวัฒนะ คนก็ไม่ไป จำนวนลดน้อยลงมาก ของแพงขึ้นด้วย ทำให้คนต้องประหยัด แต่ราคาขายที่ร้านไม่ได้ปรับขึ้น"

แต่ผู้ซื้อหลายคน ตัดสินใจที่จะมอบของขวัญ ส่งสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้กับบุคคลอันเป็นที่รักและเคารพ แต่ก็ปรับพฤติกรรมการซื้อ ให้สอดคล้องกับเงินในกระเป๋า ที่ดูเหมือนจะด้อยค่าลงเมื่อเทียบกับราคาสินค้า

นางมาลีวัลย์ ทรัพย์เจริญ หญิงวัย 70 ปี ที่มาพร้อมกับน้องสาว เพื่อเลือกซื้อ ส.ค.ส. บอกว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ของขวัญปีใหม่ จำเป็นต้องซื้อ และเลือกซื้อแบบที่ถูกใจ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงราคาด้วย

"ขนาดไซส์เล็ก ยังตั้ง 10 บาทเลย จะซื้อใหญ่ไปทำไม คนอ่านแล้วก็ทิ้ง อันเล็กก็เขียนได้เหมือนกัน คนรับก็ดีใจ ไม่ต่างกัน"

ขณะที่ นางเพียร์ผจง สงวนไพบูลย์ หญิงวัย 77 ปี มาพร้อมกับญาติ 3 คน มีวิธีการเลือกซื้อของขวัญ ให้เหมาะสมกับวัยผู้รับ และที่สำคัญราคาต้องไม่เกินกำลัง

"ยังไงก็ต้องซื้อ มีผู้ใหญ่ที่รู้จักหลายคน แต่ละปีก็เปลี่ยนรูปแบบของที่จะให้ปีก่อนซื้อผ้าพันคอ ปีนี้ซื้อเข็มกลัด ราคาไม่แพง อันละ 200 บาท ดูดีด้วย แต่ละปีจะซื้ออะไรก็ต้องดูเงินในกระเป๋า"

นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมของขวัญของชำร่วยและตกแต่งบ้าน ยังมีความหวังว่าช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ยอดขายจะกระเตื้องขึ้น เพราะปีนี้ประชาชนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าช้ากว่าปกติ

"ทุกปี ช่วงเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงการส่งออกสินค้า และเป็นการเตรียมสั่งซื้อสินค้าไปออกงานแฟร์ในต่างประเทศ ทางผู้สั่งซื้อเป็นห่วง และสอบถามว่า เราพร้อมจะส่งสินค้าหรือไม่ เขาเห็นข่าวการเมืองเลยไม่มั่นใจ เราก็เป็นห่วง ไม่อยากให้การเมืองมากระทบความเชื่อมั่นลูกค้า"

ทั้งนี้ ภาพรวมยอดขายอุตสาหกรรมของขวัญของชำร่วยปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 8% ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งปกติจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดขณะนี้ ที่ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ ลุ้นและไม่อยากเห็นคือ ภาพการเมืองที่รุนแรงในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข เพราะนอกจากจะทำให้อย่างหยุดชะงัก โดยเฉพาะความเชื่อมั่น ผลพวงที่เกิดขึ้น จะส่งผ่านไปยังการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2557 ที่หลายฝ่ายคาดหวังว่า จะสดใสกว่าปีนี้.