เอกลักษณ์ไทย เรารู้อยู่เต็มอกว่า "มีดี" แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรจึงจะหนีจากคำว่า "เชย" ได้อย่างสิ้นเชิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ...ทว่า  'Tareeya' แบรนด์ไทยแท้ๆ เขาสามารถ!

'Tareeya' เกิดขึ้นจากน้ำมือของสองหนุ่มสาวรุ่นใหม่  คือ คุณอัจฉรียา จิรายุส  (ต้า) กับคุณตรัยพัทธ์ จิรายุส  (เอ็กซ์) ทั้งสองได้ระดมไอเดียสุดบรรเจิดหยิบความเป็นไทยมาใส่ความร่วมสมัยเข้าไปจนกลมกล่อมลงตัว อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน

รถตุ๊กๆ ทำไมจะไม่ได้
คุณอัจฉรียา เปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า  ..."ก่อนหน้านี้ต้าทำงานประจำ อยู่ที่สถานทูตอังกฤษ) พอวันหนึ่งแต่งงาน (กับคุณตรัยพัทธ์ จิรายุส   หรือเอ็กซ์) จึงลาออกมา หลังจากนั้นก็เริ่มคิดว่าอยากจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างขึ้นมาเป็นของตนเอง ระหว่างนั้น สามีก็คิดไอเดียโน่นนี่นั่นมานำเสนออยู่เรื่อยๆ  กระทั่งมาเป็นโปรดักส์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เนื่องจากสามีเขาไปเห็นกระเป๋าแฮรอท ลายรถบัส รถแท็กซี่ เขาก็เกิดไอเดียว่า เฮ้ย ถ้าเป็นตุ๊กๆ เมืองไทยล่ะ มันก็น่าจะเก๋ดีนะ เขาก็เริ่มลงมือวาดการ์ตูนลายตุ๊กๆ ขึ้นมา

คุณเอ็กซ์ เล่าว่า "พอวาดลายตุ๊กๆ ขึ้นมาเสร็จ ต้าก็เสนอว่า โปรดักส์ที่ทำควรมีเป็นคอลเลกชั่นนะ ผมก็มาแตกความคิดไปอีกว่า คอลเลกชั่นมันน่าจะมีอะไรบ้าง  จากที่มีลายรถตุ๊กๆ ผมก็คิดไปถึงขนมหวานไทย อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมเบื้อง ไปจนถึงช้างไทย คือคอนเซปต์ผมต้องการดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย  ที่บางทีคนไทยหลายคนอาจจะไม่ค่อยสนใจกันแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราไปเห็นของฝากของที่ระลึกจากไทยมักเป็นอะไรเดิมๆ อย่างพวงกุญแจช้างอะไรพวกนี้ ในขณะที่เราเกิดไอเดียอยากทำอะไรขึ้นมาสักอย่างที่มันสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง จึงเป็นที่มาของโปรดักส์ผ้าพันคอ ,กระเป๋า  ด้วยการใช้ลายรถตุ๊กๆ เพราะรถตุ๊กๆ ทุกคนรู้จักว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทย และมันก็มีความน่ารักอยู่ในตัวเอง ผมก็เอามาออกแบบใหม่ในมุมมองของเราให้มันดูทันสมัย และใช้งานได้ทุกวันครับ"

มั่นใจว่าขายได้แน่!
"ถามว่ารู้ได้อย่างไรว่างานดีไซน์นี้จะขายได้ ต้องบอกว่า ส่วนตัวต้าค่อนข้างเชื่อมั่นอยู่แล้วว่าโปรดักส์เรามันสามารถขายได้แน่นอน เพราะแบรนด์เรามีเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างชัดเจนมาก ทั้งความเป็นไทย ประกอบกับลายเส้นที่ใช้ก็จะเป็นลายเส้นแนวร่วมสมัยผ่านการออกแบบโดยใช้กราฟิก อีกทั้งโปรดักส์ที่ออกมาก็จะเป็นโปรดักส์ที่คนใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน สามารถใช้ได้จริง ในชีวิตจริงค่ะ" คุณต้า กล่าวอย่างภูมิใจ

คุณต้า เล่าต่อไปด้วยว่า "โปรดักส์ที่แสดงออกถึงความเป็นไทยที่สามารถเป็นได้ทั้งของชำร่วย ของใช้จริงๆ นั้น ต้ามองว่าตลาดบ้านเรายังไม่มีใครทำ ซึ่งครั้งแรก ต้าคิดว่าจะเจาะตลาดคนต่างชาติเป็นหลัก แต่พอไปวางขายจริงๆ ที่ลอฟท์ ปรากฏว่ามีกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาให้การตอบรับดีมาก และจากฟีดแบ็กเวลาออกงานต่างๆ ก็จะมีลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจเข้ามาซื้อกลับไปไม่น้อย ที่ผ่านมามีลูกค้าบางคนติดตามแบรนด์เราเป็นขาประจำ ประมาณว่าถ้าเรามีสินค้าออกใหม่มาเมื่อไหร่เขาจะตามมาซื้อไปเก็บเป็นคอลเลกชั่น ทำให้เรารู้ว่าตลาดยังมีคนอีกกลุ่มที่เขาสนใจสินค้าที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย แล้วสามารถนำไปใช้ได้จริงๆ ฉะนั้น ลูกค้าเราจึงมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติค่ะ"

'Tareeya' เกิดขึ้นจากการแบ่งงานกันตามความถนัดระหว่างคุณเอ็กซ์ที่ถนัดเรื่องการออกแบบดีไซน์ ในขณะที่คุณต้า ใช้ความถนัดและสัญชาตญาณหญิงที่มีเซ้นส์เรื่องรสนิยมตลาดอยู่แล้วมาโฟกัสอีกทีว่าโปรดักส์ต้องมีอะไรบ้าง อย่างเช่น  การมองหาโปรดักส์ใหม่ๆ ที่คิดว่าคนน่าจะสนใจ อย่างตะกร้าผักตบชวา ก็มีที่มาจากที่วันหนึ่ง คุณต้าไปเที่ยวและเห็นกระเป๋าแนวนี้จากงานโอทอป จ.พะเยา  จากนั้นคุณต้าตัดสินใจซื้อกลับมาด้วย เนื่องจากเล็งแล้วว่าน่ารักดี ...ทว่าความน่ารักไม่ได้จบลงเพียงนั้น เมื่อคุณต้าและคุณเอ็กซ์ได้ ช่วยกันระความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดให้กระเป๋าสานธรรมดาแปลงโฉมกลับกลายเป็นกระเป๋าสานงามไฮโซด้วยการนำผ้ามาบุข้างใน ซึ่งผลตอบรับจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นชอบมาก ขณะคนไทยเองก็ชอบและนิยมซื้อไม่แพ้กัน

ด้านคุณภาพ เนื่องจากโปรดักส์ผ่านการพิมพ์ลงบนผ้าแคนวาส มีการเคลือบมาแล้วอย่างดี ส่งผลให้กระเป๋าใส่ของโดนน้ำได้ภายในไม่เปียก อีกทั้งการตัดเย็บดีไซน์สามารถใส่ของที่มีน้ำหนักมากได้ไม่ขาดง่าย  แต่ถ้าเป็นลายพิมพ์ไม่ผ่านการเคลือบ อย่างหมวก ผ้าพันคอ คุณภาพก็ตามเนื้อผ้า (ท้าพิสูจน์ของจริงเลยดีกว่า) 'Tareeya'  แบ่งสินค้าออกเป็น กระเป๋า หมวก ผ้าพันคอ  ฯลฯ  สนนราคาเริ่มที่ 135-2,450 บาท

พบกับไอเดียสุดเจิดบาย Tareeya  ได้ที่   LOFT Siam Discovery, King Power (สุวรรณภูมิและรางน้ำ), และมีวางที่ Emporium (Be Trend) และที่ร้านเอเชียบุคส์ สาขาเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี //www.tareeya.com จ้ะ.