นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดจอดรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ทำให้มีแนวคิดที่จะปรับระบบการบริหารจัดการรถแท็กซี่เช่นเดียวกับสนามบินสิงคโปร์ ที่มีการแบ่งกลุ่มตามระยะทางเป็น 3 กลุ่มหลักคือ เส้นทางระยะไกล ระยะกลางและระยะใกล้ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการปฏิเสธไม่ไปส่งผู้โดยสารในเส้นทางระยะใกล้ หรือมีการจัดเส้นทางระยะไกลให้กับแท็กซี่บางกลุ่ม ส่วนในทางปฏิบัติต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้องก่อนว่าเป็นไปได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องปรับปรุงพื้นที่และสภาพแวดล้อมบริเวณที่จอดพักรถแท็กซี่ โดย ทอท.ควรเข้าไปดูแลเรื่องนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาของแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ คือเสียเวลามาเข้าคิวรอ เมื่อถึงคิวส่งผู้โดยสารกลับได้เส้นทางระยะใกล้ซึ่งอาจไม่คุ้มกับเวลาที่รอ ดังนั้นหากปรับระบบแบบเดียวกับแท็กซี่ในสิงคโปร์ จัดกลุ่มแยกคิวให้ชัดสำหรับเส้นทาง เพื่อให้แท็กซี่ที่รับส่งระยะใกล้มีรอบหมุนเวียนหรือความถี่มากกว่า ซึ่งจะลดปัญหาแท็กซี่บ่ายเบี่ยงหาข้ออ้างไม่ไปส่งผู้โดยสารได้ นายชัชชาติกล่าวต่อว่า เรื่องจุดจอดรถแท็กซี่นั้นยังคงยืนยันว่าควรอยู่ภายในพื้นที่ของสนามบิน เพราะหากออกไปอยู่พื้นที่ด้านนอกจะทำให้ควบคุมได้ยาก และเปิดช่องให้บางกลุ่มเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ได้โดยง่าย ดังนั้นหากมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่จอดรถ และมีการบริหารจัดการที่ดีจะช่วยสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ เพราะรถแท็กซี่ถือเป็นด่านหน้าที่จะต้องติดต่อกับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวโดยตรง เป็นจุดสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย ต้องให้ความสำคัญกับแท็กซี่สุวรรณภูมิ เพราะเป็นด่านหน้าที่ต้องติดต่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวโดยตรง มากกว่าเจ้าหน้าที่ ทอท.เสียอีก ดังนั้น ทอท.มีรายได้จากการใช้สนามบินอยู่แล้ว ควรเข้ามารับผิดชอบจัดสรรงบประมาณดูแล ซึ่งไม่ได้มากหากเทียบกับผลที่ตามมาเรื่องภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ.