สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเข้าใกล้แนวต้าน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเฉพาะคืนวันพุธเพิ่มขึ้นอย่างแรงหลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 18-19 มิ.ย. และคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่ชะลอโครงการ QE ในเร็ววันนี้
โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จำนวนมากต้องการความมั่นใจมากขึ้น เกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการจ้างงานก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดขนาดมาตรการ QE ขณะที่การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อที่ประชุม ที่จัดโดยสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอัตราว่างงานยังสูง และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง ส่วนทางด้านยุโรปในวันจันทร์กลุ่มทรอยก้า อนุมัติเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซวงเงิน 6.8 พันล้านยูโร ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยุโรป ที่กลัวจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ถ้ากรีซไม่ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือ
สัปดาห์หน้ามีประเด็น ที่ต้องติดตามคือการประกาศจีดีพีไตรมาส 2 ของจีน ที่ตลาดประเมินว่าจะขยายตัว 7.5% ชะลอตัวลงจากที่ไตรมาส 1 ขยายตัว 7.7% เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่บริโภคทองคำรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเช่นกัน ทำให้มีผลต่อความต้องการทองคำ ซึ่งในช่วง 5 เดือนของปีนี้การนำเข้าทองคำจากจีนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 410 ตันเนื่องจากราคาทองคำที่ถูกลง ขณะที่สหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด ทั้ง 12 เขต หรือรายงาน Beige Book ในคืนวันพุธ คาดจะมีการแถลงว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราปานกลาง แต่คาดว่ายังคงเป็นห่วงเรื่องตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งถ้าออกมาในรูปแบบนี้คาดว่า ยังคงช่วยหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ คืนวันพุธสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มสร้างบ้านเดือน มิ.ย.
สัปดาห์หน้าราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,240-1,250 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่คาดว่าราคาทองคำยังเผชิญกับแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1,300 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,335-1,340 ดอลลาร์ ต่อออนซ์.