นักวิชาการหวั่นรัฐก่อหนี้หลังปรับโครงสร้างภาษี
นักวิชาการหวั่นรัฐก่อหนี้หลังปรับโครงสร้างภาษี นักวิชาการเตือนรัฐบาลเช็กความพร้อมก่อนปฏิรูปโครงสร้างภาษี ระบุเป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องแก้โจทย์เรื่องระยะเวลาคืนรายได้จากการปรับลดอัตราภาษี หวั่นกลายเป็นแรงกดดันให้รัฐต้องกู้เงินในภายหลัง เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ กล่าวในการจัดปาฐกถา ThaiPublica Forum ครั้งพิเศษ "ปฏิรูปโครงสร้างภาษีไทย เพื่อไทย หรือเพื่อใคร?" ว่า การปฏิรูปโครงสร้างภาษีประเทศไทยทั้งปรับภาษีเงินได้บุคคล ลดลงจากอัตราภาษีที่ 23% ลงเหลือ 20% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แล้วประเทศเราเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ แล้วถือว่าเรามีโครงสร้างทางภาษีค่อนข้างสูง แต่พอมีการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้ธรรมดา ภาษีนิติบุคคล เหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้เรามีโครงสร้างภาษีที่สามารถแข่งขันได้ แต่จุดสำคัญของการปรับโครงสร้างภาษีมันอยู่ที่เรื่องของความเพียงพอของราย ได้กับอัตราการจัดเก็บภาษีว่าสอดคล้องกันหรือไม่ และต้องดูสภาพสังคม ความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำ และสภาพเศรษฐกิจประกอบกันไปด้วย "การ ปรับโครงสร้างภาษีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวระยะหนึ่ง ซึ่่งการปฏิรูปนี้ส่งผลให้รายได้รัฐสูญเสียรายได้แล้วกว่า 150,000 ล้านบาท โดยรัฐเองคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาชดเชยในเศรษฐกิจรอบถัดไป แต่ปัญหาคือ รอบระยะเวลาของเงินภาษีที่หายไปจนกว่าจะมีรายได้เพิ่มเข้ามานั้น ต้องใช้เวลานานแค่ไหน มีความสมดุลกันหรือไม่ หากรัฐไม่สามารถแก้โจทย์นี้ได้ ย่อมจะกลายเป็นแรงกดดันที่รัฐจะต้องดิ้นเพื่อหารายได้อื่นเข้ามาทดแทน โดยอาจจะไปกู้เงินหรืออะไรก็ตามแต่ ฉะนั้นจึงอยากให้รัฐคำนึงถึงจุดนี้ด้วย" ดร.สกนธ์ กล่าว.
Create Date : 20 มีนาคม 2556 |
Last Update : 20 มีนาคม 2556 7:24:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1269 Pageviews. |
|
|
|
|
|