"ปธ.เครือสหพัฒน์" จี้รัฐบาลยกเลิกรับจำนำข้าว ชี้ทำเศรษฐกิจไทยเสียหาย แนะนำเงินจ่ายตรงถึงเกษตรกร กระตุ้นเศรษฐกิจปี 57 คาดจีดีพีปีนี้เหลือ 0%...

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายบุญชัย โชควัฒนา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้ น่าเป็นห่วงกำลังซื้อของประชาชนฝืดเคือง การเมืองขาดเสถียรภาพ และนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจ ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่แท้จริง (จีดีพี) ปีนี้ เป็น 0% และหากรัฐบาลยังดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวต่อไป เศรษฐกิจจะเสียหาย

ทั้งนี้ มองว่ารัฐบาลควรนำเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนถึงปีละ 2 แสนล้านบาท ไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบอื่น เช่น นำไปปล่อยเงินกู้ให้กับเกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดการก่อหนี้นอกระบบ หรือนำเงินไปจ่ายตรงให้กับครอบครัวเกษตรกร เหมือนการจ่ายเช็ค 2,000 บาท จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนได้เร็ว และเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว

"อยากให้รัฐบาล รับฟังความคิดเห็นของคนกลุ่มต่างๆ แล้วนำไปปฏิบัติ แต่นี่รัฐบาลไม่รับฟังอะไรเลย และดื้อที่จะทำตามใจตนเอง จนเศรษฐกิจแย่ลง" นายบุญชัย กล่าว

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า การชุมนุมทางการเมือง น่าเป็นห่วง เพราะจำนวนผู้ชุมนุมมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จึงยากที่จะคาดเดาสถานการณ์ ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้อต่อไปอีก 6 เดือน เศรษฐกิจจะแย่ลง แต่หากรัฐบาลตัดสินใจยุบสภา จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะทำให้การชุมนุมยุติลง ความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับคืนมา เศรษฐกิจจะเริ่มตัวดีขึ้น

ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีหน้า นายบุญชัย กล่าวว่า ยังยากที่จะประเมิน เพราะขึ้นอยู่กับการแก้ไขของรัฐบาล หากไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนโยบายรับจำนำข้าว ก็ยังมองไม่เห็นหนทางฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจ จำเป็นต้องเตรียมพร้อม ปรับตัวด้วยการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ เพื่อรับมือกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ตกลง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าฟุ่มเฟือย ที่ยอดขายหายไป 50%

สำหรับการเติบโตของธุรกิจในเครือสหพัฒน์ นายบุญชัย คาดว่า ปีนี้จะเติบโต 7% จากปีก่อน ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% หรือยอดขายอยู่ที่ 29,350 ล้านบาท จากเดิมคาดว่าอยู่ 30,000 ล้านบาท หรือหายไป 1,000 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อฝืดเคือง และการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้น ส่วนปีหน้า เครือสหพัฒน์ ตั้งเป้าเติบโตที่ 10% .