นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลัง ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) สำหรับการคำนวณเงินได้สุทธิการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 5 ขั้นอัตรา เป็น 7 ขั้นอัตรา มีผลบังคับใช้สำหรับการยื่นแบบภาษีเงินได้ปี 56 ซึ่งมีกำหนดยื่นต้นปีหน้า ทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้ราว 27,000 ล้านบาทนั้น เพื่อเป็นการหารายได้ชดเชยส่วนที่ขาดหายไป จึงมีนโยบายดึงผู้มีเงินได้ที่ยังอยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ที่ 10 ล้านราย โดยจะประสานไปยังสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อขอข้อมูลผู้มีเงินได้ที่มีอยู่กว่า 30-40 ล้านคน มาเชื่อมโยงข้อมูลกับฐานภาษีของกรมสรรพากร โดยจะเร่งให้ทันภายในปีภาษีหน้า ส่วนจะทำให้ยอดผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าใดนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่มั่นใจว่าจะเพิ่มขึ้นได้แน่นอน แต่ที่ผ่านมามีช่องว่างคือ มีผู้มีเงินได้บางรายที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี ไม่ยอมยื่นแบบแสดงรายการภาษีกับกรมสรรพากร ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ที่มีเงินได้ทุกรายมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ซึ่งกำลังคิดหามาตรการเพื่อจูงใจให้คนเข้าสู่ระบบภาษี โดยทำให้การยื่นแบบการเสียภาษีเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา.