สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้เหลือ 4.6% ​จากที่คาดว่าจะขยายตัว 4.9%​ พร้อมปรับคาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปลายปีนี้จาก 1,625 จุด เหลือ 1,569 จุด ...

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนครึ่งหลังของปี 2556 ว่า ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ลดลงเหลือ 4.6% ​จากเดือนมี.ค.ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.9%​ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากครั้งแรกที่ประเมินว่าจีดีพีในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ถึง 5%

นอกจากนี้ยังปรับประมาณการดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ ปลายปี 2556 เฉลี่ยเหลือ 1,569 จุด จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1,625 จุด ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นทั้งปีจะอยู่ที่ 20%​ จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 20.3% โดยกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธนาคาร

ส่วนราคาทองคำปีนี้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 18,157 บาทต่อบาททองคำ จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 24,334 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากสหรัฐฯ เตรียมลดและเลิกมาตรการ QE ประกอบกับเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และความเสี่ยงจากการเมืองในประเทศที่เกิดจากปัญหา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังขยายตัวได้ดี จึงคาดว่านักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศจะซื้อขายสุทธิช่วงครึ่งปีหลัง รวมกว่า 22,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ควรรอจังหวะที่ตลาดอ่อนตัว รวมทั้งเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ มีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นไม่สูงมาก และได้รับประโยชน์จากโครงการของรัฐ โดยควรทยอยสะสมแบบค่อยเป็นค่อยไปและขายเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้ยังควรติดตามข่าวสารทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะยังมีความน่ากังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการบริโภคในประเทศชะลอลงเร็ว การส่งออกขยายตัวต่ำกว่าที่คาด รวมทั้งการชะลอการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องเผชิญแรงขายในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เพราะเชื่อว่าสหรัฐฯ จะถอน QE แน่นอน ซึ่งสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จะมีการประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้.