"บรรหาร" ยันเขื่อนหลัก 33 แห่งทั่วประเทศรองรับน้ำได้อีกมาก เชื่อน้ำไม่ท่วมหนักเหมือนปลายปี 54 สั่งกรมชลฯ ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมรายงานสถานการณ์ต่อเนื่อง หลังคาดว่าฝนจะตกหนักช่วง 19-20 ก.ย. ...
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน พร้อมกับ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า จากการประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำในขณะนี้ ยังเชื่อแน่ว่าปีนี้จะไม่พบปัญหาน้ำท่วมขยายบริเวณกว้าง และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน เนื่องจากปริมาณฝนยังต่ำกว่าปริมาณน้ำฝนในปี 2555 ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 33 แห่งทั่วประเทศ มีปริมาณความจุน้ำเฉลี่ย 62% ซึ่งยังมีพื้นที่อีกมากในการรองรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯ
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ในการแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ล้นตลิ่ง เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในคลองโผงเผงและแม่น้ำน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำนอกเขตคันกั้นน้ำในเขต อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 0.601 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ และประชาชนในพื้นที่ก็ทราบดีถึงช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ รวมถึงให้กรมชลประทานติดตามปริมาณน้ำฝนที่มีการคาดการณ์ว่าจะตกมากในช่วงวันที่ 1920 ก.ย.นี้ด้วย แต่ก็เชื่อมั่นว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาในช่วงเวลาดังกล่าว จะไม่ทำให้แม่น้ำสายหลักล้นตลิ่งออกไปท่วมชุมชนได้
สำหรับการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรนั้น แม้ว่าปริมาณน้ำฝนที่จะตกในปีนี้จะมากกว่าค่าเฉลี่ย แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกไม่ได้ไหลลงอ่างเก็บน้ำฯ ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้ง ที่ต้องมีการปรับลดให้มีความเหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อการปลูกข้าวของเกษตรกร ซึ่งหากคาดการณ์จากปริมาณน้ำเก็บกัก ที่สามารถใช้การได้ขณะนี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถปลูกข้าวนาปรังได้ 2 ล้านไร่ เทียบกับปีที่แล้วปลูกข้าวนาปรังได้ 5 ล้านไร่ ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำฯ ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การปลูกให้มีความเหมาะสมกับปริมาณน้ำที่ใช้การได้ต่อไป.