"คลัง" พร้อมลุยโครงสร้างภาษีใหม่ 7 ขั้น ทำให้คนรายได้น้อยประหยัด 50% และยังยกเว้นเก็บภาษีคนรายได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทต่อไป ยันไม่กระทบรายได้รัฐ พร้อมเร่งรัฐบาลแก้ กม.สรรพากร ให้ทันเปิดประชุมสภาสมัยนี้...

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าโครงสร้างอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ จากเดิมที่มีอัตราภาษี 5 ขั้น เพิ่มขึ้นเป็น 7 ขั้น ทำให้กรมสรรพากรต้องสูญเสียรายได้ 25,000 ล้านบาท จะไม่ส่งผลกระทบผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2556 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยในปีงบประมาณนี้รัฐบาลประมาณรายได้ไว้ที่ 2.3 ล้านล้านบาท ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรก ของปีงบประมาณ (ต.ค.-มิ.ย. 56) รัฐบาลสามารถจัดเก็บได้ 1,616,683 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 81,998 ล้านบาท หรือ 5.3%

ทั้งนี้ การซอยอัตราภาษีจากเดิมที่มี 5 ขั้นคือ 5% 10% 20% 30% และ 37% มาเป็น 7 ขั้นคือ 5% 10% 15% 20% 25% 30% และ 35% จะทำให้ผู้มีเงินได้น้อยคือ รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท หรือปีละ 360,000 บาท เดิมมีภาระภาษีที่จ่ายให้แก่กรมสรรพากร 12,000 บาท ในปีหน้าจะลดลงเหลือ 6,000 บาท ประหยัดภาษี 50% โดยอัตราดังกล่าวจะทำให้คนที่มีรายได้น้อยเสียภาษีลดลงในอัตราส่วนที่มากกว่าคนที่มีรายได้

"ตัวเลขของประหยัดภาษีในเบื้องต้น เมื่อคิดเป็นสัดส่วนแล้ว คนที่มีรายได้น้อยจะประหยัดภาษีได้ถึง 50% ขณะที่คนที่มีรายได้สูงจะประหยัดภาษีได้น้อยกว่า เช่น รายได้ 40,000 บาทต่อเดือน หรือปีละ 480,000 บาท จะประหยัดภาษีได้ 31% จากเดิมเสียภาษี 24,000 บาท เหลือ 16,500 บาท ขณะที่คนมีรายได้สูง เดือนละ 400,000 บาท หรือปีละ 4.8 ล้านบาท จะประหยัด ภาษีได้ 6.49% จากเดิมเสียภาษี 1,279,700 บาท เหลือ 1,213,500 บาท .เป็นต้น"

สำหรับประชาชนที่มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 0-300,000 บาท ซึ่งอัตราใหม่กำหนดภาษีไว้ 5% นั้น กฎหมายเดิมยังคงยกเว้นภาษีเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกต่อไป เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้แก่ประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยอัตราภาษีใหม่ จะเริ่มใช้ในปี 2556 โดยผู้มีรายได้ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาระหว่างเดือน ม.ค. จนถึง มี.ค. 2557

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะพยามเร่งรัดรัฐบาลให้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายสรรพากรให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันกับการเปิดประชุมสภาฯ ในสมัยนี้ แต่หากไม่ทัน กระทรวงการคลังจะเสนอแก้ไข โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันที เพราะมาตรการบรรเทาภาระภาษีจะทำให้ประชาชนมีเงินเหลือในกระเป๋า และมีเงินจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น.