"ดร.โกร่ง" เตือนไทยระวังเศรษฐกิจโลกผันผวน จากมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ระบุโดยส่วนตัวมองว่าไม่ได้ผล และยังทำให้หุ้นทั่วโลกดิ่งตัวอย่างหนัก หลังเฟดอาจยุติคิวอีก่อนกำหนด ขณะยักษ์ใหญ่อย่างจีนยังระส่ำ...
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2556 นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนมาก เป็นผลจากการที่สหรัฐฯ ยังออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งมาตรการคิวอีของญี่ปุ่นที่เข้ามาเสริม จึงทำให้สภาพคล่องล้นระบบการเงินของโลก และสร้างความผันผวนให้กับทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดการเงินและตลาดหุ้นมีความอ่อนไหวตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบ เช่น ในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังจากที่มีข่าวว่าธนาคารสหรัฐฯ อาจจะยุติคิวอีก่อนกำหนด ดังนั้นภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน อยู่ระหว่างการทดสอบทฤษฎีที่ไม่เคยใช้มาก่อน ดังนั้นไทยจะต้องระวังให้มาก เพราะแม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน เศรษฐกิจยังอ่อนแรงลง
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่ามาตรการคิวอีจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้ มองว่าหากเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้จะต้องมีการค้นพบเทคโนโลยีใหม่ที่สำคัญ และสามารถผูกขาดตลาดได้ เช่น การค้นพบพลังงานจากเชลล์แก๊ส ซึ่งถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงมาหนุนหลังด้วย เปรียบเสมือนเป็นอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ที่ขาดไม่ได้ ขณะที่เงินเปรียบเสมือนเป็นเลือดที่ช่วยสูบฉีดให้ร่างกายสดชื่น แต่ต้องทำงานร่วมกับอวัยวะด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น นายวีรพงษ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "อุตสาหกรรมไทย ก้าวพ้นภัยพิบัติ" ว่า ขณะนี้สถานการณ์ภัยธรรมชาติจากภาวะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และการดำเนินงานกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติถือว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นบทบาทของกองทุนภัยพิบัติควรลดลง ไม่เช่นนั้นในอนาคตอาจประสบปัญหาได้ เพราะต้องไปแข่งขันกับประกันภัยของเอกชน