"อ.ต.ก" เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพข้าว 400 โกดัง 30 จังหวัด ลั่นข้าวที่ได้รับไฟไหม้ โกดังจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ส่วน ปชช.ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการเยียวยา พร้อมยืนยันไม่มีการทุจริต...

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จะเริ่มตรวจคุณภาพข้าวเกือบ 400 โกดัง จาก 30 จังหวัด ที่อยู่ในความดูแล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้าวเสื่อมคุณภาพและนำไปสู่การเผาไหม้ คาดว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ โดยหากโกดังใดไม่ได้คุณภาพ จะทำบัญชีรายชื่อไว้ และอาจถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมเก็บข้าวของรัฐต่อไป พร้อมกับจะเสนอคณะอนุกรรมการระบายข้าว ให้เร่งระบายข้าวเก่า เพื่อป้องกันปัญหาข้าวเสื่อมคุณภาพ

นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. กล่าว่า ความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ข้าวในโกดังของบริษัท เกษตรไพศาลธัญกิจ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ทางเจ้าของโกดังจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามสัญญาเช่า ทั้งในส่วนของมูลค่าข้าวที่ถูกเผาไหม้ จำนวน 1,497 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท การส่งมอบข้าวให้กับผู้ซื้อที่ไม่ได้รับข้าวครบจำนวนที่สั่งซื้อ และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง อ.ต.ก.ได้ตั้งคณะทำงานลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับประเมินความเสียหาย ก่อนจ่ายเงินเยียวยาในกับประชาชน

เมื่อถามว่าข้าวที่เกิดไฟไหม้ นายธเนศพล กล่าวว่า เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ เกิดจากการติดไฟของสารเมทธิลโบรไมด์ที่ใช้ในการรมควันข้าว หรือข้าวที่มีความชื่นมาก จะเกิดการระอุ มีแก๊สเกิดขึ้น จึงทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงจะต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ แต่มั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการจงใจเผาเพื่อทำลายหลักฐานนำข้าวคุณภาพต่ำมาเวียนเทียนสวมสิทธิ์ ตามที่มีนักการเมืองตั้งข้อสังเกต เพราะทำเช่นนั้นจะไม่มีข้าวที่จะนำไปเลือกเปลี่ยน

"ยืนยันว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น และรัฐบาลไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากได้รับการชำระเงินจากรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งเป็นผู้สั่งซื้อเต็มจำนวน 13,464 ตัน และนำเงินส่วนนี้ส่งให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว
โดย อ.ต.ก.ทำหน้าที่เก็บรักษาข้าวให้กับรัฐบาล คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนข้าวในสต๊อกรัฐบาล หรือปริมาณ 4 ล้านตัน และได้ทยอยระบายออกต่อเนื่อง เหลือเก็บอยู่ร้อยละ 10 หรือไม่เกิน 4 แสนตัน ส่วนโกดังข้าวของบริษัท เกษตรไพศาลธัญกิจ ที่ถูกเผาไหม้ คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.01 เท่านั้น.