เปิดร่างทีโออาร์รถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10% ของวงเงินที่จะเข้าร่วมประมูลในแต่ละรายการ เปิดประชาพิจารณ์รอบแรกผ่านเว็บ ขสมก.-กรมบัญชีกลาง 19-28 ก.ค.นี้...
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.56 คณะกรรมการร่างทีโออาร์จัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ได้นำประกาศร่างทีโออาร์ฉบับดังกล่าวเผยแพร่เป็นครั้งแรก หลังจากร่างทีโออาร์ฯ ฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบและลงนามอนุมัติ โดยนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยนำเสนอผ่านเว็บไซต์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( //www.bmta.co.th/th/auction_detail.php?id=571) และเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง ก.คลัง โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ระหว่างวันที่ 19-28 ก.ค.นี้
สำหรับร่างทีโออาร์ประกวดราคาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,659 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,524 คัน ดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรายละเอียดในร่างทีโออาร์กำหนดให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาสามารถเสนอราคาในรายการหนึ่งรายการใดก็ได้ หรือจะเสนอราคาทั้ง 8 รายการก็ได้ ประกอบด้วย รายการที่ 1 รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 4 จำนวน 424 คัน, รายการที่ 2 รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 6 จำนวน 374 คัน, รายการที่ 3 รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 7 จำนวน 453 คัน, รายการที่ 4 รถโดยสารธรรมดา สำหรับเขตการเดินรถที่ 8 จำนวน 408 คัน, รายการที่ 5 รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 408 คัน, รายการที่ 6 รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 489 คัน, รายการที่ 7 รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 175 คัน และรายการที่ 8 รถโดยสารปรับอากาศ สำหรับเขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 452 คัน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ประสงค์จะเสนอราคาตามที่กำหนดไว้ในร่างทีโออาร์ฯ ต้องเป็นผู้มีอาชีพและมีวัตถุประสงค์ในการขายและซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารที่ประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกิจการร่วมค้า/กิจการร่วมทุน (Joint Venture) หรือกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน (Consortium) ซึ่งต้องกำหนดให้มีบริษัทหลักที่เป็นนิติบุคคลไทยเป็นผู้เข้าประกวดราคา และในการประกวดราคาแต่ละรายการ เมื่อยื่นประกวดราคาแล้วจะเปลี่ยนแปลงพันธมิตรที่ร่วมทุนในภายหลังไม่ได้
ทั้งนี้ผู้ประสงค์เสนอราคาต้องมีทุนจดทะเบียนชำระเต็มจำนวนไม่น้อยกว่า 10% ของวงเงินที่จะประมูลในแต่ละรายการ พร้อมเอกสารงบการเงิน งบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนย้อนหลัง 3 ปี (รอบบัญชีปีี 53-55) ไม่เคยมีรายชื่อติดในบัญชีผู้ทิ้งงานของทางราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ และต้องไม่ฮั้วกับผู้เสนอราคารายอื่น โดยเกณฑ์การประเมิน แบ่งเป็นข้อเสนอด้านเทคนิค คะแนนเต็ม 100 คะแนน พิจารณาจากคุณสมบัติด้านเทคนิคของรถโดยสารทั้งคันโดยละเอียด แผนงานอย่างละเอียด ทั้งการซ่อมบำรุง การประกอบรถ ซึ่งต้องระบุด้วยว่าจะใช้โรงงานใดในการประกอบรถโดยสาร
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจาก ขสมก.จะต้องมีคะแนนด้านเทคนิครวมกันไม่ต่ำกว่า 80% และคะแนนในแต่ละหัวข้อไม่ต่ำกว่า 50% จึงจะได้สิทธิ์เสนอราคา เมื่อชนะการประกวดราคาแล้วจะต้องส่งมอบรถโดยสารทั้งหมดภายใน 18 เดือน โดยส่งมอบงวดแรก ภายใน 6 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา งวดที่ 2-13 ส่งมอบทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม ขสมก.จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้ชนะประกวดราคา 15% ของวงเงินตามสัญญาซื้อขาย โดยผู้ชนะประกวดราคาต้องยื่นหนังสือค้ำประกันของธนาคารเป็นหลักประกัน ซึ่ง ขสมก.จะคืนให้เมื่อส่งมอบรถครบตามสัญญา และต้องรับผิดชอบค่าซ่อมบำรุง 3 ปี ในอัตราไม่เกิน 1,042.33 บาท/คัน/วัน
เมื่อครบกำหนดเปิดประชาพิจารณ์ในวันที่ 28 ก.ค.56 คณะกรรมการร่างทีโออาร์ฯ จะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุง ก่อนนำขึ้นประกาศบนเว็บไซต์อีกครั้ง เพื่อขอความเห็นจากประชาชน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาจัดซื้อรถ โดยจะมีคณะกรรมการประกวดราคาฯ ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่อีก 1 ชุด ทำหน้าที่รับผิดชอบขั้นตอนของการประกวดราคา.