ครม.เห็นชอบ ธ.ก.ส. เพิ่มทุนจาก 5 หมื่นล้านบาท เป็น 6 หมื่นล้านบาท ชี้โครงการพักหนี้ดีของรัฐ ทำรายได้ปี 2555 สูญ 2,800 ล้านบาท ส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/55 ไม่ระบุขาดทุน กำไร ชี้แค่มีสินทรัพย์หมุนเวียน 119,156 ล้านบาท...
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอขยายทุนเรือนหุ้นหรือเพิ่มทุนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากเดิม จำนวน 50,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท เนื่องจาก ธ.ก.ส. มีทุนเรือนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว ณ สิ้นปีบัญชี 2554 หรือ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 จำนวน 49,243 ล้านบาท และตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญของผู้ถือหุ้นของ ธ.ก.ส. เห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลจำนวน 1,846 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นส่วนของกระทรวงการคลัง 1,842 ล้านบาท ประกอบกับในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ธ.ก.ส. ได้รับงบประมาณเพิ่มทุน 750 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องขยายทุนเรือนหุ้น จากจำนวน 50,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 60,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. รองรับการขยายทุนเรือนหุ้นที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งข้อมูลผลประกอบการของ ธ.ก.ส. ที่แยกชัดเจนระหว่างผลประกอบการที่เกิดจากการดำเนินโครงการตามนโยบาย และมาตรการของรัฐบาลและที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติ รวมทั้งแนวทางในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ ธ.ก.ส. เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธ.ก.ส.ได้สรุปคาดการณ์ผลประกอบการ ธ.ก.ส. ตามปกติในปีบัญชี 2555 (ปิดบัญชี 31 มี.ค. 2556) คาดว่ามีรายได้รวม 61,684 ล้านบาท มีต้นทุนเงิน 18,902 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 33,784 ล้านบาท และมีกำไร 8,998 ล้านบาท และมีเงินกองทุน 91,673 ล้านบาท มีสินทรัพย์เสี่ยง 877,377 ล้านบาท ส่วนการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลระหว่างปีบัญชี 2555 ธ.ก.ส.ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการพักหนี้ให้กับลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ โดยให้ลดดอกเบี้ยแก่เกษตรกร 3% ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี และรัฐบาลชดเชยให้ ธ.ก.ส. 1.5% ต่อปี ซึ่งโครงการนี้ทำให้รายได้ลดลงสูงสุด 4,800 ล้านบาทต่อปี เฉพาะปีบัญชี 2555 รายได้ลดลง 2,800 ล้านบาท รวมทั้งนโยบายกระทรวงการคลัง เรื่องการนำส่งเงินค่าธรรมเนียมเงินฝาก 0.47% เข้ากองทุนเพื่อการสนับสนุนและพัฒนาสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 4,700 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มขึ้นทุกปี ตามยอดเงินฝากคงเหลือส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/55 มีส่วนของทุน 89,578 ล้านบาท มีหนี้สิน 29,577 ล้านบาท ทำให้สินทรัพย์หมุนเวียน 119,156 ล้านบาท.