ธนาคารโลก เผยแพร่รายงานความยากง่ายการทำธุรกิจปี 56 พบไทยติด 1 ใน 20 ประเทศที่ง่ายต่อการทำธุรกิจ จากทั้งหมด 185 ประเทศทั่วโลก เหตุรัฐบาลลดการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่วนสิงคโปร์ รั้งอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. นางแอนเน็ต ดิ๊กซัน ผู้อำนวยการธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจปี 2556 : กฎข้อบังคับที่ดีกว่า สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Doing Business 2013: Smarter Regulations for Small and Medium-Size Enterprises) ที่ได้ร่วมจัดทำกับบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ ประเทศไทยยังคงอยู่ใน 20 ประเทศแรกที่ง่ายต่อการประกอบธุรกิจ โดยอยู่ในอันดับที่ 18 จากทั้งหมด 185 ประเทศ โดยสาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลไทยได้ลดการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลลง ส่งผลให้ต้นทุนด้านภาษีของผู้ประกอบการลดลงมาก
หน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยได้ร่วมมือกัน เพื่อเอื้อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการประกอบธุรกิจ เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงประเทศไทยยังได้ช่วยทำให้การจัดตั้งธุรกิจใหม่ง่ายขึ้น โดยอนุญาตให้นายทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้รับข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท ซึ่งช่วยลดขั้นตอนที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น การปรับปรุงการศึกษาและการสนับสนุนด้านนวัตกรรม จะช่วยให้ประเทศไทยดึงดูดนักลงทุนและรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันได้ นางแอนเน็ต กล่าว
ด้าน นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร เศรษฐกรอาวุโส ธนาคารโลก กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงความพยายามที่จะลดต้นทุน และเวลาในการประกอบธุรกิจ ซึ่งแนวทางนี้ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปฏิรูป โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะ และส่งเสริมให้มีการแข่งขันสูงขึ้นในภาคบริการ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มการลงทุนและปรับปรุงการดำเนินงานทางธุรกิจได้
สำหรับ 20 อันดับแรกของประเทศที่ทำธุรกิจง่ายในปีนี้ ได้แก่ อันดับ 1 สิงคโปร์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 อันดับ 2 ฮ่องกง ตามด้วยนิวซีแลนด์ สหรัฐฯ เดนมาร์ก นอร์เวย์ สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐเกาหลี จอร์เจีย ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ มาเลเซีย สวีเดน ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ ไต้หวัน แคนาดา ไทย ซึ่งตกจากปีก่อนที่อยู่อันดับที่ 17 มอริเชียส และเยอรมนี.