ธปท.ชี้เศรษฐกิจซึมยาว

ธปท.ระบุเศรษฐกิจไทยส่อเค้าซึมยาวๆ ยังไม่เห็นจุดฟื้นตัว เดือน ต.ค.แม้เห็นสัญญาณดีขึ้นในบางตัว แต่คาดผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองในเดือน พ.ย.คงมีกระหน่ำจนกลับทรุดต่อเนื่องไปอีก

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะซึมๆต่อเนื่อง และยังเห็นความเสี่ยงไปข้างหน้าที่จะมีผลต่อบรรยากาศการใช้จ่ายและการลงทุนของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทำให้ยังไม่เห็นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ ดังนั้น แม้เศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.จะมีบางตัวที่เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นบ้าง

ทั้งนี้  ภาพรวมของการใช้จ่ายในเดือน ต.ค.เริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ดัชนีอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.2% เทียบกับเดือนก่อนหน้า และขยายตัว 0% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ดีขึ้นจากดัชนีที่ติดลบต่อเนื่องมาหลายเดือน แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องเตรียมใจรับบรรยากาศที่ไม่ดีของการใช้จ่ายในเดือน พ.ย.ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากผลจากความไม่สงบทางการเมือง

“การส่งออกของไทยในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น โดยการส่งออกในเดือนนี้ขยายตัวติดลบ 0.5% ดีขึ้นจากติดลบ 4.3% ในเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าประมง และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกยังมีข้อจำกัด โดยคำสั่งซื้อที่ลดลงในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และกุ้งที่ยังมีปัญหาโรคระบาด ส่งผลต่อเนื่องให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวลดลงจากปีก่อน 4%”

นางรุ่งกล่าวต่อว่า เมื่อการส่งออกยังเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก การใช้จ่ายในประเทศยังอยู่ในภาวะทรงตัว ภาคการผลิตยังชะลอตัวลง ส่งผลให้ภาคเอกชนยังไม่จำเป็นต้องเร่งลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งก็เลื่อนการลงทุนออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ ส่งผลให้ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเดือน ต.ค.ขยายตัวติดลบ 4.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อน และติดลบ 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ยังคงขยายตัวได้ในอัตราที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยในเดือน ต.ค.ขยายตัวอยู่ที่ระดับ 10.6%

“กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาลง ส่งผลให้การนำเข้าชะลอลงในทุกหมวด โดยในเดือน ต.ค.การนำเข้าขยายตัวลดลง 4.6% ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยเกินดุล 337 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ดุลบริการกลับมาเกินดุลเล็กน้อย หลังจากขาดดุลต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ทำให้เดือน ต.ค.ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยกลับมาเกินดุลที่ 376 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ดุลการชำระเงินขาดดุล 378 ล้านเหรียญฯ”

นางรุ่งกล่าวด้วยว่า สำหรับภาคท่องเที่ยวที่ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยมาตั้งแต่ต้นปี ในเดือนนี้เริ่มชะลอตัวลงบ้างจากผลของเกณฑ์การกำหนดคุณภาพของแพ็กเกจทัวร์ของรัฐบาลจีน ซึ่งทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนที่มาประเทศไทยลดลงบ้าง แต่ภาพรวมแล้วยังขยายตัวในอัตราที่ดีอยู่ที่ 14.7%.