ความแม่นยำของห้องปฏิบัติการที่ใช้ตรวจสอบสารตกค้างในข้าวถุง กลายเป็นประเด็นสำคัญขึ้นมา หลังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ประกาศผลการตรวจสอบข้าวถุง 46 ตัวอย่าง และพบสารเมทธิลโบรไมด์ ที่ใช้ในการรมยาเพื่อป้องกันแมลงตกค้างเกินมาตรฐาน 1 ตัวอย่าง ในข้าวสารยี่ห้อ โค-โค่ หรือ ข้าวขาวพิมพา โดยปนเปื้อนสูงถึง 67.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือ codex ที่กำหนดไว้ให้มีการตกค้างไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
แต่เมื่อกรมวิชาการเกษตร ตรวจซ้ำกลับไม่พบสารเมทธิลโบรไมด์ตกค้าง พบเพียงสารโบรไมด์อื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งกระจายตัวอยู่ในอากาศทั่วไป นายดำรงค์ จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ระบุว่า ห้องปฏิบัติการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบสารตกค้างมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น คือ ห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตร และบริษัทโอมิกซ์ ที่เป็นของเอกชน
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของห้องปฏิบัติการกรมวิชาการเกษตร ซึ่งการทำงานของที่นี่จะเป็นไปตามคู่มือคุณภาพห้องปฏิบัติการ ตามมาตรฐาน ISO 17025 ที่กำหนดวิธีการปฏิบัติงาน และกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงจะต้องใช้เครื่องมือให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งสำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร จะเข้ามาตรวจสอบความพร้อมของห้องปฏิบัติการทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน
สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบสารตกค้างในข้าว ทำได้ 2 วิธี หากตรวจสอบเฉพาะสารเมทธิลโบรไมด์ เพียงชนิดเดียว เจ้าหน้าที่จะนำข้าวสารตัวอย่างไปแช่ในน้ำเกลือ โดยปิดฝาให้สนิท ก่อนดูดไอระเหยในขวดไปตรวจสอบในเครื่อง Gas Chromatograph Mass Spectrometer ซึ่งสามารถตรวจสอบในระดับโครงสร้างโมเลกุล จึงมีความแม่นยำในชนิดของสารและปริมาณสูง โดยทั้งกระบวนการจะใช้เวลาเพียง 15 นาที
ส่วนอีกวิธีจะใช้สำหรับการตรวจสอบสารตกค้างทุกชนิดในข้าว โดยจะนำตัวอย่างข้าวไปบด ก่อนเติมสารเคมีเพื่อแยกสารตกค้างออกจากเนื้อข้าว จากนั้นนำไปตรวจสอบด้วยเครื่อง Gas Chromatograph Mass Spectrometer โดยจะใช้เวลาทดสอบ 30 นาที และจะมีการตรวจสอบซ้ำ เพื่อความแม่นยำ
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะค่ามาตรฐานที่ปลอดภัยในการตกค้างของสารเมทธิลโบรไมด์ จะแตกต่างจากค่าการตกค้างของกลุ่มของสารโบรไมด์ชนิดอื่นๆ โดยกรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน ทั้งชนิดของสารโบรไมด์แต่ละประเภท ผลที่มีต่อร่างกาย ก่อนที่จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า และหากข้อมูลเกิดจากความเข้าใจผิดเรื่องชนิดของสาร ผู้ผลิตข้าวถุงยี่ห้อโค-โค่ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกคืนข้าวถุง 3,000 ถุงออกจากท้องตลาด.