สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,619 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,615 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.47 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23, 950บาท กับ 24,050 บาท และกลับมาปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 165 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 582 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 1 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% Silver Futures เพิ่มขึ้น 1.4% GFQ12 ปิดที่ 24,250 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,360 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,240 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,360 บาท SVQ12 ปิดที่ 898 บาท

Ratio Gold / Silver 57 เท่ากับ ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

TheBullionDesk

-ราคาทองคำมีการแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านแคบๆ ประมาณ 10 เหรียญเมื่อคืนนี้ที่ตลาดลอนดอน โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,616 เหรียญโดยประมาณ ปรับตัวลดลงเพียง 2.32 เหรียญ ส่วนสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลง 0.4% ที่ระดับ 1,615 เหรียญในการซื้อขายที่ตลาดอิเล็กทรอนิก ทั้งนี้การซื้อขายเมื่อคืนมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากตลาดนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐอเมริกา และนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรออยู่นอกตลาดเพื่อรอผลการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในขณะที่ดูเหมือนว่า Bank of England จะขยายแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอีก 5 หมื่นล้านปอนด์ (3.2 หมื่นล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์ ในวันศุกร์นี้ ความสนใจจะมุ่งไปที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ Non-farm payrolls ของสหรัฐฯ ซึ่งหากมีการประกาศตัวเลขออกมาต่ำกว่าระดับ 92,000 ตำแหน่ง นั่นหมายถึงตลาดจะตีความว่าตัวเลขออกมาน่าผิดหวัง

Deutsche Bank กล่าวว่า ราคาทองคำอาจขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญในไตรมาสที่ 3 จากความหวังครั้งใหม่ในการแทรกแซงตลาดจากธนาคารกลาง เนื่องจาก ณ ขณะนี้เศรษฐกิจโลกมีความอ่อนแอ อีกทั้งราคาทองคำอาจมีการปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 2,000 เหรียญในปีหน้า ฝ่าจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,921 เหรียญที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี 2011 ได้

สำหรับในตลาดทองคำแท่ง ค่าพรีเมี่ยมของทองคำในอินเดียปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยกลุ่มนักลงทุนได้หวนกลับมาสู่ตลาดหลังจากราคาเคลื่อนตัวออกจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งค่าพรีเมี่ยมในอินเดียเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.5 — 2 เหรียญต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1 — 1.5 เหรียญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

Reuters

กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า ผลผลิตทองคำในจีนยังคงสูงขึ้นในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ แต่เป็นอัตราที่ชะลอลง โดยในเดือนมกราคม — พฤษภาคม จีนผลิตทองคำได้ 140.7 ตัน ส่วนการผลิตทองคำในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ระดับ 31.2 ตัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 28.8 ตันในเดือนเมษายน และเป็นระดับสูงสุดในปีนี้

สำหรับในเช้านี้ ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่บริเวณ 1,615 — 1,618 เหรียญ สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.5%

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 85 เซนต์ ลงมาอยู่ที่ระดับ 86.81 เหรียญต่อบาร์เรล ณ เวลา 8.00 น. น้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1 เซนต์ ที่ระดับ 99.76 เหรียญ

ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน โดยสื่ออิหร่านได้รายงานเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านได้คุกคามที่จะทำลายฐานทัพสหรัฐฝั่งตะวันออกกลาง และตั้งเป้าหมายไปที่อิสราเอลเพื่อโจมตีต่อไป ตามที่อิหร่านได้ทดสอบขีปนาวุธเป็นวันที่ 3 แล้ว สหภาพแรงงานได้รายงานเมื่อวานนี้ว่า การประท้วงของคนงานภาคน้ำมันในนอร์เวย์เข้าสู่วันที่ 11 ซึ่งส่งผลให้การขนส่งจากผู้ส่งออกน้ำมันรายที่ 8 ของโลกชะลอตัวลงและอาจมีการประท้วงต่อเนื่องไปอีกหลายสัปดาห์ หลังจากการเจรจากับกลุ่มผู้ว่าจ้างล้มเหลวเป็นรอบที่ 2

Infoquest

ธนาคารกลางไซปรัสกล่าวว่า รายงานข่าวที่ระบุว่ารัฐบาลไซปรัสอาจต้องการเงินสูงถึง 1 หมื่นล้านยูโรในการช่วยเหลือภาคธนาคารในประเทศ เป็นแค่การคาดการณ์ล้วนๆ เนื่องจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม troika ที่เดินทางเยือนไซปรัส ยังคงอยู่ระหว่างการประเมินว่าภาคธนาคารของไซปรัสต้องการเงินจำนวนเท่าใด

นายมูฮัมหมัด นาฮาวาเดียน ผู้อำนวยการหอการค้าพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านอาจจะใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของนายนาฮาวาเดียนสอดคล้องกับที่นายเอบราฮิม อากาห์-โมฮัมมาดี สมาชิกรัฐสภาอีกคน กล่าวว่า คณะกรรมาธิการนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของรัฐสภาอิหร่าน ได้เตรียมร่างกฎหมายสำหรับการปิดช่องแคบฮอร์มุซไว้แล้ว เพื่อเป็นการตอบโต้อียูที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน

นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีกล่าวหลังการพบปะกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีในกรุงโรมว่า อิตาลีและเยอรมนีสามารถร่วมกันช่วยให้ยุโรปพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะหมายถึงเครื่องมือด้านนโยบายเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทำให้อียูโดยรวมมีศักยภาพในการแข่งขัน โดยมีเยอรมนีเป็นตัวอย่างที่แข็งแกร่ง

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -1.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาที่0.6%

- Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.0% ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.0%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 133K คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 103K

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 386K คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 385K

- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 53.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 53.1

-Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.1M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ -1.6M

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold —ราคาทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนตัวในกรอบเพียงแคบๆเนื่องจากเป็นวันหยุดวันชาติของสหรัฐอเมริกา เคลื่อนตัวในกรอบ 1,615 — 1,620 โดยประมาณ มีบางช่วงที่ลงมาต่ำสุดที่ 1,613 เหรียญ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์เองยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยยูโรปรับตัวลดลงในเช้านี้มาอยู่ที่ 1.2530 ดอลลาร์/ยูโร ลดลงจากเมื่อวานประมาณ 40 pips อย่างไรก็ดีตอนนี้ตลาดเริ่มมีความกังวลใน 2 เรื่องคือ ประเด็นที่ 1 ในความตึงเครียดในอิหร่านที่ขู่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งประเด็นตรงนี้ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาทองคำยังคงยืนตัวอยู่ในระดับสูงได้ ประเด็นที่ 2 คือการที่นักวิเคราะห์มองว่าเฟดอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมาแย่อยู่เหมือนเดิม ก็จะไม่มีความชัดเจนแต่ว่าเป็นเรื่องของการใช้ข่าวคาดหวัง ทำให้ราคาทองคำในเช้านี้ดีดตัวกลับขึ้นมาจากเมื่อวานที่ปิดบริเวณ 1,614 เหรียญ ดีดกลับขึ้นมาที่ 1,618 เหรียญในขณะนี้ ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่ากราฟในระยะสั้นรายชั่วโมง โดยทั่วไปยังเป็นสัญญาณบวกอยู่ ราคายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไป และ Oscillator ยังอยู่ในแดนบวกในรายชั่วโมง ในขณะที่กราฟในลักษณะของรายวันยังมีแนวต้านที่สำคัญที่บริเวณ 1,625 เหรียญและ 1,640 เหรียญตามลำดับ โดยในเชิงเทคนิคยังเป็นการสับสนระหว่างนักลงทุนระยะสั้นกับนักลงทุนระยะยาว โดยที่นักลงทุนระยะยาวเป็นลักษณะของแนวโน้มขาลง ในขณะที่นักลงทุนระยะสั้นมากรายชั่วโมงเริ่มเป็นสัญญาณบวกในการเข้าซื้อจากข่าวดังกล่าวข้างต้น MTS Gold คาดว่าราคาในวันนี้จะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,610 — 1,625 และให้เก็งกำไรตามการแกว่งตัวของกรอบดังกล่าว

Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท

Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,260 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,480 บาท

Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 920 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)

เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,610 — 1,625 เหรียญ และคงต้องติดตามข่าวใกล้ชิดในการประกาศตัวเลขคืนนี้ ซึ่งคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจโดยทั่วไปจะออกมาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งหากออกมาไม่ดีจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในทิศทางขาขึ้น

นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)

เป็นลักษณะของการปรับ Portfolio ให้อยู่ที่ 0% ปิดสถานะ Short รอดูจังหวะของราคามากกว่า

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

ยังเป็นการรอความชัดเจนของทิศทางและข่าว

สรุปได้ว่า โดยหลักการน่าจะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ ซึ่งน่าจะทำให้มีความผันผวนของราคาทองคำ

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง