ซีอีโอ ปตท.อ้างกำจัดคราบน้ำมันอ่าวพร้าวเสร็จสิ้น ลุยเร่งฟื้นฟูทรายทุกเม็ดคืนดังเดิมใน 3 วัน โดยเปิดถ่ายทอดสดแบบเรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง ให้ประชาชนพิสูจน์ข้อเท็จจริง ระบุพีทีที โกลบอลฯมีเงินประกัน 50 ล้านดอลล์พร้อมจ่ายชดเชย...


เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุด ในการกำจัดคราบน้ำมัน บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำการกำจัดคราบน้ำมันที่ถูกพัดมาติดชายฝั่งที่อ่าวพร้าวเสร็จสิ้นหมดแล้ว โดยหาดทรายมีความสะอาดทรายมีสีขาว ซึ่ง ปตท.จะเร่งฟื้นฟูเม็ดทรายทุกเม็ดในอ่าวพร้าว ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 3 วันนับจากนี้ ส่วนคราบน้ำมันที่ติดอยู่ในโขดหิน ซอกหิน จะเร่งกำจัดให้หมดลงในอันดับต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงของการกลับคืนสู่ภาวะปกติของอ่าวพร้าว ปตท.ได้จัดทำการถ่ายทอดสดแบบเรียลริตี้ 24 ชั่วโมง ด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์ เพื่อถ่ายทอดสภาพแวดล้อม บริเวณอ่าวพร้าวทุกมุมมอง ผ่านเว็บไซต์ ปตท. www.pttgcgroup.com และผ่านโทรศัพท์มือถือของค่ายเอไอเอส เหมือนกับการถ่ายทอดสดเรียลลิตี้ โชว์ 24 ชั่วโมง ตามติด เจมส์จิ หรือจิรายุ ตั้งศรีสุข เพื่อให้ประชาชนที่มีความสงสัย ได้รับข้อมูลจากเหตุการณ์จริงทั้งหมด

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อม และรายได้ของประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้ ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ เพราะต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง แต่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว สามารถแจ้งเรื่องขอรับการช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์อำนวยการ ที่ จ.ระยอง ที่เป็นหน่วยงานหลักในการรับเรื่องร้องทุกข์ ส่วนเจ้าของธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตร้านอาหารในบริเวณอ่าวพร้าว แม้ว่าจะถูกยกเลิกจองห้องพักจากนักท่องเที่ยว แต่ยังไม่มีผลต่อรายได้ เนื่องจาก ปตท.ได้เหมาห้องพักทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปกำจัดคราบน้ำมัน เป็นระยะเวลา 1 เดือน พร้อมทั้งสั่งอาหารเพื่อแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ จึงไม่ทำให้รายได้จากธุรกิจเสียหายมากนัก

ส่วนความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน หลังจากการกำจัดคราบน้ำมัน พีทีที โกลบอลฯ มีเงินจากบริษัทประกันภัย ที่ทำประกันภัย ไว้ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่พร้อมจะนำมาจ่ายชดเชยและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งหมด แต่หากยังไม่พอ พีทีทีโกลบอลฯ ก็จะจัดสรรงบประมาณมาเพิ่มเติมให้จนกว่าการฟื้นฟูจะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนั้น ได้มีแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและวิถีชิวิตชุมชน โดย ปตท.จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำแผนและมาตรการฟื้นฟูเพื่อนำไปเสนอให้ประชาชนในพื้นที่ ร่วมแสดงความคิดเห็นก่อนจะนำไปสู่แผนปฏิบัติจริงต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าสารละลายที่ใช้ในการกำจัดคราบน้ำมันและน้ำมันบางส่วน หลังจากการกำจัดจะต้องจมลงสู่ทะเล ซึ่งสารละลายดังกล่าวจะเข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมี เพื่อย่อยสลายเม็ดน้ำมัน เพื่อเป็นอาหารของแบคทีเรียในทะเล เหมือนกรณีของการกำจัดคราบน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งจะไม่ทำให้สภาพแวดล้อมและปะการังและสัตว์น้ำในทะเล ได้รับผลกระทบในการดำรงชีพอย่างแน่นอน.