คณิศ ระบุ มาตรการไล่เงินออก-ขยายขอบเขตการลงทุน ธปท. เป็นส่วนหนึ่งของแผนลดผลขาดทุนธปท.ที่จะเสนอบอร์ดธปท.เดือนหน้า ยัน ไม่ห้าม ธปท.แทรกแซงค่าเงิน ยังทำได้ตามความเหมาะสม
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายคณิศ แสงสุพรรณ กรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ปัญหาการขาดทุนสะสมของธปท. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (กกธ.) ว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการธปท. ได้อนุมัติกรอบการลงทุนของทุนสำรองทางการระหว่างประเทศเพิ่มเติม โดยอนุญาตให้ ธปท.นำเงินสำรองทางการไปลงทุนเพิ่มเติมในพันธบัตรรัฐบาลของ ประเทศอินโดนีเซียได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้อนุญาตเพิ่มเติมให้ธปท.สามารถนำทุนสำรองทางการไปลงทุนในประเทศ ที่สถาบันจัดอันดับระดับโลกจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในประเทศที่
สามารถลงทุนได้ หรือ Investment Grade ได้ การเพิ่มประเทศที่จะนำทุนสำรองทางการระหว่างประเทศไปลงทุนได้ ก็เพื่อให้ธปท.มีทางเลือกที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนของการลดผลขาดทุนของธปท. ซึ่งคณะทำงานแก้ผลขาดทุนได้เสนอให้บอร์ดธปท.อนุมัติ โดยที่ผ่านมา ได้เคยขยายขอบเขตการลงทุนไปก่อนหน้าแล้ว จากเดิมที่ต้องลงทุนในประเทศที่มีอันดับน่าเชื่อถือสูงๆ ลดลงมาเป็นประเทศในระดับที่ สามารถลงทุนได้ อย่างก่อนหน้านี้ ก็เพิ่มให้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลบราซิล และกลุ่มที่ใกล้เคียงกันได้
นายคณิศ กล่วต่อว่า สำหรับแผนการลดผลขาดทุนของธปท. ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการต่อเนื่องมาครบตามเวลา 3 เดือนที่ บอร์ดธปท.กำหนดให้แล้วนั้น ในขณะนี้ได้ผลสรุปแล้ว และได้เริ่มดำเนินการไปแล้วบ้าง เช่น การขยายแหล่งลงทุนของทุนสำรองเพื่อหาผลตอบแทนเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น การที่ธปท.ออกมาตรการผ่อนคลายให้การนำเงินทุนออกนอกประเทศในจำนวนที่มากขึ้น และสะดวกขึ้น ก็เป็นมาตรการที่ทำตามแผนการลดผลขาดทุนของ ธปท.เช่นกัน เพื่อช่วยลดจำนวนเงินตราต่างประเทศที่ ธปท.ต้องแบกภาระอยู่ ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการธปท.ในช่วงสิ้นเดือนหน้า จะมีการรายงานแผนการลดผลขาดทุนของ ธปท.ทั้งหมดอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการ ธปท.อีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงกันว่า คณะทำงานฯต้องการให้ ธปท.ลดการแทรกแซงค่าเงินบาท หรือยุติการแทรกแซงค่าเงินบาท เพื่อลดผลขาดทุนของธปท.นั้น นายคณิศ ยืนยันว่า ไม่มีข้อเสนอนี้ในแผนการลดผลขาดทุนดังกล่าวแน่นอน เพราะคณะทำงานฯเข้าใจดีถึงความจำเป็นของธปท.ที่จะต้องดูแลค่าเงิน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งการแทรกแซงค่าเงินยังทำได้ตามความเหมาะสม
ด้านนายศิริ การเจริญดี กรรมการธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่บอร์ดธปท.อนุญาตเพิ่มเติมให้ลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเทศที่มีการขยายตัวเศรษฐกิจที่ดี และมีอนาคตที่ดีในช่วงต่อไป นอกจากนั้น ยังมีผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่ดีด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในการอนุญาตครั้งนี้ถือเป็นการอนุมัติกรอบการลงทุนเพิ่มเติม ธปท.จะลงทุนหรือไม่ ลงทุนทันที หรือรอระยะเวลาที่เหมาะสมนั้น เป็นเรื่องของธปท. บอร์ดธปท.จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ส่วนการปรับลดประมาณการ เศรษฐกิจไทยในปีหน้านั้น นายศิริ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก และการปรับลดการประมาณการเศรษฐกิจเป็นไม่ได้น่าเป็นห่วงว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่เติบโต แต่อาจจะโตน้อยลงกว่าที่คาดเท่านั้น ในขณะนี้ กรณีที่เป็นห่วงกัน และที่คุยกันในบอร์ดธปท.คือ จะต้องจับตาการสู้ค่าเงินของฮ่องกงให้ดี เพราะมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก เพราะฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้น หากฮ่องกงประสบปัญหา หรือสู้ไม่ไหว อาจจะกระทบต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจทั่วโลกได้
ขณะที่ นางสุชาดา กิระกุล ที่ปรึกษาผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า ประเทศที่อยู่ในระดับ สามารถลงทุนได้ หรือ Investment Grade นั้น จะดูจากระดับความน่าเชื่อถือของมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ เป็นสำคัญ ถ้าประเทศใด สถาบันทั้ง 2 สถาบัน ให้ระดับ สามารถลงทุนได้ บอร์ดธปท.ก็อนุญาตให้นำทุนสำรองไปลงทุนได้ อย่างที่ผ่านมา ธปท.ได้เพิ่มการลงทุนในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม กรณีอินโดนีเซียนั้น มูดีส์ปรับระดับให้เป็นเกรด สามารถลงทุนได้ แต่เอส แอนด์ พี ยังไม่ได้ปรับระดับขึ้น ธปท.จึงขออนุมัติบอร์ดเพื่อขอลงทุนเป็นกรณีพิเศษ