ค่าจ้าง 300 บาททำสภาอุตสาหกรรมร้าวหนัก เอสเอ็มอีต่างจังหวัดเคลื่อนไหวปลดประธานและกรรมการบริหารยกชุด หลังต่อสู้เรื่องค่าจ้าง 300 บาทล้มเหลว ด้าน กกร.เร่งหามาตรการเยียวยาเสนอรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกของกลุ่มอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีของ ส.อ.ท.ในต่างจังหวัดกำลังเคลื่อนไหวรวบรวมเสียงเพื่อปลดนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. และกรรมการบริหาร ส.อ.ท.อีก 69 คนยกชุด หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในการเรียกร้องและเจรจาให้รัฐบาลชะลอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ เนื่องจากเป็นนโยบายที่สร้างความเสียหายแก่ภาคอุตสาหกรรมอย่างหนัก เพราะการปรับขึ้นค่าจ้าง 80% เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาไม่มีประเทศใดเคยดำเนินการลักษณะนี้มาก่อน
ทั้งนี้ ในช่วงกว่า 1 ปีสมาชิก ส.อ.ท. ในต่าง จังหวัดประเมินว่าประธานและกรรมการบริหาร ส.อ.ท.บางกลุ่มไม่มีการดำเนินการเจรจากับรัฐบาลอย่างเต็มที่ ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนเหลือเพียง 45 วัน ก็จะมีการประกาศค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศวันละ 300 บาทแล้ว หรือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 56 แม้ว่าในระยะหลังผู้บริหารจะเร่งดำเนินการเรียกร้องรัฐบาล แต่อาจไม่ทันกาลแล้ว
นอกจากนี้ ยังมองว่าการบริหารงานใน ส.อ.ท. ในยุคของนายพยุงศักดิ์ ก็ยิ่งมีความแตกแยกกันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้มีการต่อสู้กัน 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่สนับสนุนเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดที่เดือดร้อนจากนโยบายค่าจ้าง 300 บาท ซึ่งกลุ่มนี้มีประมาณ 70-80% ของสมาชิกทั้งหมด 8,000 คน และกลุ่มนายทุนใหญ่ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของคนไทยและบริษัทข้ามชาติ ที่แต่ละปีจะมีกำไรระดับ 100-10,000 ล้านบาท
สำหรับผลกระทบของการปรับขึ้นค่าจ้างแบบก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดได้มีการทยอยปรับขึ้นค่าจ้างไปแล้วเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมา 39.5% ส่งผลให้หลายโรงงานปิดกิจการ หรือประสบปัญหาขาดทุนมากยิ่งขึ้น ส่วนการปรับในวันที่ 1 ม.ค. 56 จะเป็นการปรับค่าจ้างส่วนที่ยังไม่ครบ 300 บาทต่อวันอีก 70 จังหวัด หรือเฉลี่ยประมาณ 30-40% ยิ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงไปอีก เมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศแล้ว จะก่อให้เกิดแรงงานไหลไปอยู่ต่างจังหวัดทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในส่วนกลางเพิ่มขึ้นอีก หรือแรงงานหายไปประมาณ 30-40% จากปัจจุบันที่ขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว หากจะจูงใจให้แรงงานอยู่ในพื้นที่เดิมผู้ประกอบการก็ต้องปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นอีก เพื่อดึงแรงงานไว้จึงเป็นภาระที่จะตามมาอีก
นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก รองประธาน และประธานสภาอุตสาหกรรม กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ส.อ.ท. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. วันที่ 26 พ.ย.นี้ ผู้ประกอบการสายงานต่างจังหวัดจะขอให้นายพยุงศักดิ์ และกรรมการบริหารชุดปัจจุบันได้ชี้แจงถึงการบริหารงานของ ส.อ.ท.ซึ่งขณะนี้ภาพที่ออกไปมีความขัดแย้งประเด็นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วันทั่วประเทศ 1 ม.ค. 56 อย่างรุนแรง และในวันที่ 19 พ.ย. นี้ คณะทำงานภายใต้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะหารือรายละเอียดมาตรการลดผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงซึ่งรัฐบาลได้กำหนดไว้ 27 มาตรการ แต่เบื้องต้นมาตรการเหล่านี้แม้ปฏิบัติได้จริง และจะลดต้นทุนได้เพียง 10% ขณะที่ต้นทุนเฉลี่ยของผู้ประกอบการต่างจังหวัดจะเพิ่มถึง 70-80% ดังนั้นจึงเห็นว่าแนวทางการตั้งกองทุนชดเชยส่วนต่างจากการขึ้นค่าแรงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดหากรัฐบาลยังยืนยันจะขึ้นค่าแรง 1 ม.ค. 2556 ต่อไป.