นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จะเดินหน้าโครงการเสริมสร้างศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา วงเงิน 50,000 ล้านบาท ที่รับซื้อยางจากเกษตรกรในราคาสูงกว่าตลาด ขณะเดียวกันได้สั่งการให้แก้ไขข้อติดขัดแล้ว ทั้งการเช่าโกดังจัดเก็บยางเพิ่มเติม การชำระเบี้ยประกันภัยโกดังเก็บยางในโครงการที่ค้างจ่ายอยู่ 11 ล้านบาท และจะเร่งการเบิกจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่นำยางมาเข้าโครงการ ส่วนความคืบหน้าโครงการดังกล่าว ล่าสุดซื้อยางมาเก็บในสต๊อกรัฐแล้ว 170,000 ตัน ใช้เงินแล้ว 17,000 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการไปจนสิ้นสุดโครงการเดือน มี.ค.56 แต่หากราคายางดีขึ้น คงไม่ต่ออายุโครงการ โดยส่วนตัวอยากเห็นราคายางในประเทศเป็นเลข 3 หลัก
สำหรับการยกระดับราคายางพาราในประเทศนั้น จะประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมให้ติดต่อกับกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์หรูที่ประกอบในไทย แต่นำเข้าชิ้นส่วนยางจากต่างประเทศ ให้หันมาใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศให้หามาตรการเพิ่มการใช้ยางให้มากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามในเดือน ธ.ค.55 จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ+1 (ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม) เพื่อกำหนดมาตรการกระตุ้นราคายางพาราในตลาดโลกร่วมกัน หลังจากก่อนหน้านี้ ทุกประเทศได้ชะลอส่งออกยาง 300,000 ตัน ซึ่งในส่วนของไทยให้ผู้ส่งออกไทยเก็บยางไว้ในสต๊อก 120,000 ตันแล้วและเร็วๆ นี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปริมาณยางในสต๊อกของอินโดนีเซีย และมาเลเซียว่าทำตามข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่.