"ประสาร" ระบุ ธปท.ติดตามความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลกอย่างใกล้ชิด ยันนโยบายการเงินมีช่อง พร้อมลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มได้หากจำเป็น...
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมนา AIT Charity Dinner Talk เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ในหัวข้อ ระบบเศรษฐกิจการเงินโลกและการปรับตัวของไทย ว่า ประเด็นสำคัญประเทศไทยจะต้องปรับตัวในขณะนี้มีด้วยกัน 2 เรื่องหลัก คือ ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยสามารถเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกได้อย่างมีเสถียรภาพ และเราจะเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจ หรือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย เพื่อยกระดับรายได้และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในระยะยาวได้อย่างไร เพราะเศรษฐกิจไทยในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ได้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ตามกระแสโลกาภิวัตน์ที่เพิ่มขึ้นมาก
ดังนั้น เมื่อวิกฤติเศรษฐกิจการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของประเทศเหล่านี้เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างหนีไม่พ้น ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยต้องพยายามรักษาเสถียรภาพจากการเติบโตให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการดูแลเงินเฟ้อ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการเคลื่อนย้ายเงินทุน ตลอดจนความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ และความมั่นคงของสถาบันการเงิน
ในขณะนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลัก และแนวคิดการลดการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ กำลังสร้างความผันผวนให้กับระบบการเงิน และเศรษฐกิจโลก ซึ่ง ธปท.ยังต้องระมัดระวังและคอยติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลความผันผวนไม่ให้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคเศรษฐกิจจริง เพราะการตัดสินใจในการยกเลิก หรือไม่ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของสหรัฐฯ ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเลิกจริงหรือไม่ และเมื่อไร ดังที่ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท.พยายามรักษาความยืดหยุ่นของนโยบายที่มีอยู่ โดยมีกระสุนที่เพียงพอ โดยในแง่ของนโยบายการเงิน ก็คือความสามารถที่จะลดดอกเบี้ยได้อย่างเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการมีเครื่องมือและมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน และในแง่ของนโยบายการการคลัง ก็คือความสามารถในการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจำเป็นต้องรักษาการขาดดุลและระดับหนี้สาธารณะไม่ให้สูงเกินไป ขณะที่ทางการจำเป็นที่จะต้องสื่อสารให้นักลงทุนและตลาดมีความเข้าใจอย่างชัดเจน และป้องกันตัวเองไม่ให้มีจุดอ่อนที่จะทาให้เกิดการสูญเสียความเชื่อมั่น ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศได้ ทั้งนี้ ธปท.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะชะลอลงบ้าง แต่คงไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย
ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับว่าแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยเองไม่ได้สดใส ในระยะสั้นจึงจำเป็นต้องดูแลปรับปรุงเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนการเติบโต ควบคู่ไปกับการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจ และรากฐานที่ดีให้กับเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะสามารถดูแลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพในระยะสั้น แต่การยกระดับเศรษฐกิจไทยที่จาเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก โดยหัวใจสาคัญของการยกระดับเศรษฐกิจของไทย คือการปรับตัวไปสู่การเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม และการวางโครงสร้างเศรษฐกิจที่เหมาะสมที่จะเติบโตต่อไปว่าจะไปในทางใด
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในด้านการขนส่งคมนาคม มีพื้นฐานโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และยืดหยุ่นสามารถรองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก แต่ความเข้มแข็งและยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยในอนาคตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจการเงินโลก จำเป็นจะต้องอาศัยการปรับตัวของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน หรือภาครัฐ รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย มาต่อยอดให้กับเศรษฐกิจของเราก้าวข้ามไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดย นวัตกรรม เพื่อให้เราสามารถเติบโตอย่างสมดุลและเข้มแข็งอย่างยั่งยืน.