เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายหทัย อู่ไทย รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน ส.ค. ว่า อยู่ที่ระดับ 174.11 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.32% โดยมีสาเหตุมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออกของประเทศไทย มีกำลังการผลิตที่ลดลงตามคำสั่งซื้อของสหภาพยุโรป (อียู) ที่เผชิญปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในอียู แต่ยังถือว่าโชคดีที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัว และเมื่อรวมกับการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 350,000 ล้านบาท และการลงทุนตามแผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ที่จะใช้เงินลงทุนอีกกว่า 2.27 ล้านล้านบาท ทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อไป
สำหรับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมสาขาสำคัญๆ ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ปรากฏว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิต และการจำหน่ายขยายตัว 41.20% และ 38.18% ตามลำดับ เป็นผลมาจากยอดค้างส่งมอบรถยนต์จำนวนมาก (Back order) เนื่องจากน้ำท่วมในปลายปีที่ผ่านมา และนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ขยายตัวอย่างมาก อุตสาหกรรมชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ การผลิต และการจำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ปรับตัวลดลงใกล้เคียงกันที่ 38.42% และ 38.49% ตามลำดับ เนื่องจากบางบริษัท ยังไม่สามารถทำการผลิตและจำหน่ายสินค้าได้ เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำท่วม ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นอีกในปีนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ภาวการณ์ผลิตและจำหน่ายลดลง 24.56% และ 1.42%ตามลำดับ เนื่องจากความกังวลปัญหาน้ำท่วม
ทั้งนี้ สศอ.ประเมินสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจอียู แล้วคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะอุตสาหกรรมไทยอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 3 ดังนั้น ผู้ประกอบการที่มีตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศเหล่านี้ จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไปอีกระยะเวลาหนึ่ง.