พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
7 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ครม.อัดยาโด๊ป 20 มาตรการ "โต้ง" หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโตเพิ่ม 1%

ครม.อัดยาโด๊ป 20 มาตรการ "โต้ง" หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโตเพิ่ม 1%

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ 4 ด้าน รวม 20 มาตรการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ชี้แจงใน ครม.ว่า มาตรการที่ออกมาจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยสูงขึ้น 1%

โดยจากที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2556 จะขยายตัวได้ 4.5% ในกรณีฐาน และมีโอกาสสูงที่จะอยู่ในกรณีต่ำที่ 4% จะเพิ่มขึ้นเป็น 5-5.5% ประกอบด้วย  1.มาตรการด้านการบริโภค  2.มาตรการด้านการลงทุน 3.มาตรการด้านการใช้จ่ายภาครัฐ 4.มาตรการด้านการส่งออก โดยทุกมาตรการได้มอบหมายให้หน่วยงานระดับกระทรวงรับผิดชอบ

นายกิตติรัตน์ เปิดเผยถึงสาระสำคัญของทั้ง 4 มาตรการว่า มาตรการที่ 1.มาตรการด้านการบริโภคภาคเอกชน ประกอบด้วย 1.1 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดสัมมนาในประเทศ โดยให้นิติบุคคลสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า ในปีภาษี 2556 และ 2557 สำหรับการจัดสัมมนาในประเทศ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าจัดการ ค่าขนส่ง ค่าอาหาร ค่าวิทยากร และค่าวัสดุอุปกรณ์ 1.2มาตรการสนับสนุนให้ผู้บริโภคใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน ในรูปแบบของมหกรรมสินค้าประหยัดพลังงานราคาถูก

มาตรการที่ 2.ด้านการลงทุนภาคเอกชน 2.1 มาตรการภาษีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ซื้อหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ในปีภาษี 2556 และ 2557 สามารถหักค่าเสื่อมในอัตราเร่งที่ 50% ของมูลค่าในปีแรก ส่วนที่เหลือทยอยหักใน 5 ปี 2.2มาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโค คาร์) ระยะที่ 2 ผ่านสิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยเพิ่มผู้ผลิตรายใหม่ และมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนการผลิตอีก 500,000 คัน

2.3 มาตรการสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร ทั้งด้านอาหารและพลังงาน รวมทั้ง ผ่อนปรนกฎระเบียบการจัดตั้งโรงงานผลิตอาหาร โรงงานน้ำตาล และโรงงานเอทานอล ซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับเกษตรโซนนิ่ง  2.4 มาตรการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยเร่งรัดโครงการประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในวงเงินเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้ 240,000 ล้านบาท ในช่วง 1 ม.ค. 2556 ถึง 31 ธ.ค. 2558 และโครงการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในวงเงินเดิมที่อนุมัติไว้ 20,000 ล้านบาท ช่วง 24 เม.ย. 2555 ถึง 31 ธ.ค. 2558 พร้อมกันนี้ ได้มีมาตรการค้ำประกันสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ให้กับผู้ประกอบการโอทอปและวิสาหกิจชุมชนและมีมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ด้วย

มาตรการที่ 3.ด้านการใช้จ่ายภาครัฐ 3.1 มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2556 โดยเร่งรัดการเบิกจ่ายงบพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่มีวงเงิน 18,090 ล้านบาท แต่จนถึงวันที่ 26 ก.ค. 2556 เบิกจ่ายได้เพียง 7,817 ล้านบาท และให้เร่งรัดการเบิกจ่ายขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (อปท.) ให้เข้าสู่เศรษฐกิจเร็วขึ้น รวมทั้งเร่งรัดเบิกจ่ายเงินกองทุน เช่น กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กองทุนเอสเอ็มแอล กองทุนเศรษฐกิจพอเพียง กองทุนพัฒนาสตรี กองทุนตั้งตัวได้ กองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค

3.2มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในปีงบ ประมาณ 2557 โดยกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายให้สูงกว่าอัตราที่กำหนดในปีงบประมาณ 2556 และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายเหลื่อมปีของปีงบประมาณ 2556 และก่อนหน้าให้ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของงบประมาณ 2557 และเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินรางวัลข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปีงบประมาณ 2555 ให้ได้ภายในปี 2556 ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบอบรมสัมมนาในประเทศให้ได้ไม่น้อยกว่า 50% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร โดยจัดสัมมนากระจายไปตามจังหวัดต่างๆ อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต ภายในไตรมาสที่  1 ของปีงบประมาณ 2557

4. มาตรการด้านการส่งออก 4.1 การส่งออกสินค้าและการค้าสินค้าระหว่างประเทศ โดยเร่งส่งเสริมการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (CLMV) และมณฑลย่อยของจีน รวมทั้งให้สนับสนุนการใช้เงินบาทในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่อนคลายกฎระเบียบการถือเงินบาทเข้าออกประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าชายแดน

ทั้งนี้ จะให้มีการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวจากต่างชาติ โดยสนับสนุนการจัดทำวีซ่าประเภทเข้าออกหลายครั้ง (Multiple-Entry Visa) ที่มีระยะเวลาหลายปี โดยให้สามารถมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2556 ก่อนฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญปลายปี และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอย (Shopping Paradise) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและมีผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศน้อย.




Create Date : 07 สิงหาคม 2556
Last Update : 7 สิงหาคม 2556 8:04:50 น. 0 comments
Counter : 1281 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.