พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 
6 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
"ชัชชาติ"ลั่นฆ้อง2ล้านล้าน นำร่องถนน4เลน-รถไฟทางคู่

"ชัชชาติ"ลั่นฆ้อง2ล้านล้าน นำร่องถนน4เลน-รถไฟทางคู่

คอลัมน์ รายงานพิเศษ



หลังจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งประเทศผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

ขณะนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา รัฐบาลคาดว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน และมั่นใจว่าจะสามารถผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้

ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงเปิดตัวโครงการ "สร้างอนาคตไทย 2020" อย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 26 ก.ย. 2556 ที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าชี้แจงให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจวัตถุ ประสงค์ของโครงการ

นายกฯ ย้ำชัดว่างานนี้จัดขึ้นเพราะรัฐบาลต้องการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐาน ไปยังประชาชนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ให้คนไทยทุกคนรวมพลังวาดภาพอนาคตประเทศไทยปี 2020 ว่า อยากจะเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร ขณะที่รัฐบาลก็พร้อมจะนำโครงสร้างพื้นฐานไปเชื่อมโยงกับภาคประชาชนไม่เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงการเชื่อมโยงทางสังคม ที่จะสามารถเชื่อมโยงความอบอุ่น ความสุขของคนไทย

ที่สำคัญคือการเชื่อมโยงความรู้สึก ระหว่างคนรุ่นปัจจุบันที่จะวางอนาคตให้กับลูกหลานในอนาคตอีก 7 ปีข้างหน้า ว่าลูกหลานจะมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นได้อย่างไร รัฐบาลจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานเป็นอนาคตของประเทศที่ทุกคนจับต้องได้

สำหรับการโรดโชว์นโยบาย ได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบจัดเสวนาและนิทรรศการ รวมถึงชี้แจงที่มา ที่ไป กับประชาชนใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ

โดยเริ่มนำร่องที่ จ.หนองคาย เป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ ตามมาด้วย จ.นครราชสีมา วันที่ 11-13 ต.ค.2556 จ.ชลบุรี วันที่ 15-17 ต.ค.2556 จ.อุบลราชธานี วันที่ 18-20 ต.ค.2556 จ.ขอนแก่น วันที่ 25-27 ต.ค.2556 จ.นครสวรรค์ วันที่ 1-3 พ.ย.2556

จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 1-3 พ.ย.2556 จ.เพชรบุรี วันที่ 8-10 พ.ย.2556 จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8-11 พ.ย.2556 จ.เชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย.2556 จ.นคร ศรีธรรมราช วันที่ 22-24 พ.ย.2556 และ ปิดท้ายที่ จ.สงขลา วันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.2556

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ระบุว่า การชี้แจงข้อมูลให้ภาคประชาชนได้รับรู้ และเข้าใจถือเป็นหัวใจสำคัญในความสำเร็จของโครงการ ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส

หลายๆ ข้อเสนอแนะมีประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมปฏิบัติ เช่น การจัดทำกระบวน การตรวจสอบจากภาคเอกชน การคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างที่เหมาะสม การประเมินราคากลางการก่อสร้างให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง รวมไปถึงการพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการก่อสร้างต่างๆ

ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และมีแนวโน้มที่จะเป็น รูปธรรมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นแค่ก้าวแรกในการทำงานของรัฐบาล ยังมีอีกหมื่นก้าวที่ต้องเดินต่อไปกว่าจะถึงจุดหมาย ต้องเดินให้ตรง หนักแน่น ถึงจุดหมายให้ตรงเวลา ต้องไม่ทำให้คนไทยทุกคนผิดหวัง

และเชื่อว่าความตั้งใจดีของรัฐบาลจะทำให้ร่างพ.ร.บ.กำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา จะผ่านการพิจารณาได้ภายใน 2 เดือน จากนั้นเป็นขั้นตอนการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่ากระบวนการพิจารณาจะเสร็จปลายปีนี้

นายชัชชาติกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อม โดยเร่งจัดทำแผนการก่อสร้างและแผนประชาพิจารณ์ ระบบขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ คู่ขนานไปกับการรอผ่านกฎหมาย เนื่องจากประชาพิจารณ์ต้องใช้เวลานาน

รวมทั้งทุกโครงการยังจะต้องนำเสนอ เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส ถูกต้องและเป็นธรรม

นอกจากนี้ ยังสั่งให้จัดตั้งสำนักงานพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่ติดตามและประเมินผล ความคืบหน้าโครงการ โดยมอบหมายให้นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพ จัดทำดัชนีชี้วัดความสำเร็จของโครงการ 2 ส่วนคือ 1.การดำเนินโครงการตามเป้าหมาย และ 2.ผลการดำเนินงาน ของโครงการ โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย

"ผมสั่งให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม หากกฎหมายผ่านเราจะเดินหน้าเปิดประมูลก่อสร้างทันที เพราะโครงการเหล่านี้มีความสำคัญกับการสร้างอนาคตประเทศไทย ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมแก่ประชาชนทั้งในชนบท พื้นที่เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญรวมไปถึงรอบภูมิภาคด้วย"

ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณถือเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้นเพื่อให้โครงการเดินหน้าไม่สะดุด กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไว้ชัดเจนแล้ว โดยแบ่งการใช้เงินเป็น 7 ปี (2557-2563) ปีที่ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ปีที่ 2 วงเงิน 2.9 แสนล้านบาท ปีที่ 3 วงเงิน 4.2 แสนล้านบาท ปีที่ 4 วงเงิน 4.7 แสนล้านบาท ปีที่ 5 วงเงิน 3.7 แสนล้านบาท ปีที่ 6 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท และปีที่ 7 วงเงิน 1 แสนล้านบาท

นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับโครงการเร่งด่วนในปีแรก จะเน้นการก่อสร้างทางบกก่อนตามมาด้วยทางน้ำ โดยในปี 2557 ตั้งเป้า 4 โครงการ คือ 1.โครงการขยายถนน 4 เลน และซ่อมแซมถนนที่ชำรุดทั่วประเทศ 2.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-โคราช วงเงิน 84,600 ล้านบาท

3.โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง คือ สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร, นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร, สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร, นครราชสีมา-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร และ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร รวมระยะทาง 767 กิโลเมตร

และ 4.โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงแบริ่ง-สมุทร ปราการ เป็นต้น ส่วนการก่อสร้างระบบขนส่ง ทางน้ำจะเร่งรัดในปีถัดไปและจะทยอยก่อสร้างให้ครบ 53 โครงการ รวม 533 สัญญา ให้แล้วเสร็จทันตามเป้าหมายในปี 2563

ขณะที่ นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม ซึ่งรับผิดชอบโครงการก่อสร้างทางน้ำทั้งระบบ ประกาศเร่งเดินหน้าเต็มสูบ ซึ่งโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการคือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพขนส่งในแม่น้ำป่าสัก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการเดินทางและขนส่งสินค้าภายในและต่างประเทศ โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล เพื่อเป็นประตูการค้าทางทะเลฝั่งอันดามันเชื่อมโยงการขนส่งไปยังฝั่งเอเชียใต้ ตะวันออก กลางและทวีปยุโรป

โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง

โครงการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 จ.เชียงราย และโครงการก่อสร้างท่าเรือที่จ.ชุมพร

"รัฐบาลใช้งบประมาณ 2 หมื่นล้านปฏิวัติการคมนาคมทางน้ำครั้งใหญ่ เพื่อให้ประชาชน และผู้ประกอบการเอกชน มั่นใจว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เกิดความสะดวกใน การเดินทางและขนส่งของประชาชนและ ผู้ประกอบการ รวมทั้งสร้างความมั่นใจในความสามารถแข่งขันด้านต้นทุนโลจิสติกส์ ให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ" นายพ้องกล่าว

จากนี้เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องช่วยกันลุ้นว่าภาพอนาคตประเทศไทยจะสวยงามมากน้อยแค่ไหน




Create Date : 06 ตุลาคม 2556
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 6:35:59 น. 0 comments
Counter : 1044 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.