ราคาทองคำดีดตัวขึ้น ในการซื้อขายช่วงกลางวัน โดยคาดว่าเป็นการดีดตัวจากแรงซื้อของนักลงทุนในเอเชีย ที่มักมีเข้ามามากในช่วงที่ราคาทองปรับตัวลงในปริมาณมาก แต่ในการซื้อขายช่วงค่ำ แรงขายยังคงมีกลับออกมามาก จนกดดันให้ราคาทองปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และกลับลงมาปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,220.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 21.96  ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,200 และ 1,244  ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,150 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 969.50 ตัน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ โดยรวมแล้วออกมาในด้านบวก จึงเป็นปัจจัยลบ กดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ในฐานะของการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 6.7% สู่ระดับ 112.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0% ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 0.3% ในเดือนเมษายน

ขณะเดียวกันรายได้ส่วนบุคคลปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเมษายน และสำหรับรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์นี้ ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 346,000 ราย  นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 345,000 ราย และจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ จึงเป็นแรงกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ให้ปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ว่า จะมีการยุติการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

ส่วนในสัปดาห์หน้าจะมีรายงานตัวเลขการจ้างงาน และอัตราการว่างงานของสหรัฐฯเดือนมิถุนายน โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นรายงานที่ธนาคารกลางสหรัฐฯให้ความสำคัญ และมีผลต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายในอนาคต ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองในวันนี้ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรการดีดตัวกลับอยู่ที่บริเวณ 1,185-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนกรณีที่ราคาดีดตัวกลับ ที่แนวต้านของวันบริเวณ 1,235-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับที่ต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมา และกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงต่อไป การถือครองทองคำแท่งควรใช้สถานะซื้อขายล่วงหน้าของทองคำเพื่อบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองเป็นขาลง

ส่วนการเก็งกำไรด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทองคำ ควรทยอยปิดสถานะขายลดความเสี่ยง เนื่องจากราคาทองปรับตัวลงมามาก และอาจมีการดีดตัวทางเทคนิคจากแนวรับบริเวณ 1,185-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และด้วยตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ หากไม่ต้องการรับความเสี่ยง ควรใช้วิธีซื้อและขายระหว่างสัญญาต่างเดือนหรือปิดสถานะที่มีอยู่ออกไปก่อนป้องกันความผันผวนในช่วงที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการ.