พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
14 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
"พีทีทีจีซี" แจงน้ำมันรั่ว ครม.จ่ายค่าเยียวยาผู้รับผลกระทบแล้ว 117 ราย

"พีทีทีจีซี" แจงน้ำมันรั่ว ครม.จ่ายค่าเยียวยาผู้รับผลกระทบแล้ว 117 ราย

บิ๊ก “พีทีทีจีซี” บุก ครม.รายงานการแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่ว เผยผลตรวจสอบจากทุกฝ่ายยังไม่พบกระทบระบบนิเวศน์ สัตว์น้ำกินได้ ไม่มีโลหะหนักปนเกินมาตรฐาน จ่ายเงินเยียวยารายละ 3 หมื่นบาทแล้ว 117 ราย “พงษ์ศักดิ์” ระบุมีตัวปลอมขอรับค่าชดเชยจำนวนมาก ส่วนกองทุนน้ำมันรั่วให้ศึกษารายละเอียด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอานนท์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี ได้รายงานการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลอ่าวมาบตาพุดและการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการต่อ ครม.หลังจากที่เกิดเหตุ โดยนายอานนท์เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานว่า ได้รายงานให้ ครม.รับทราบว่าที่ผ่านมาดำเนินการไปถึงไหนแล้วบ้าง ซึ่งเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาได้จ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบที่มาลงทะเบียนไว้จำนวน 400 ราย ส่วนความเสียหายกับบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อน

ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน  เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงสู่ทะเลจะแถลงข่าวในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ที่ตึกซี ชั้น 6 อาคาร ปตท. เวลา 11.00 น. สำหรับเรื่องการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คิดว่าไม่มีปัญหาได้รับการเยียวยาแน่ แต่ที่กังวลคือผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบมีการสอดแทรกเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจลำบากและมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในอนาคตด้วย

โดยช่วงแรกจะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงไปก่อน ส่วนการตั้งกองทุนดูแลเยียวยาเรื่องความเสี่ยงจากน้ำมันรั่ว ครม.ให้ไปหารือในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะการตั้งกองทุนจะเป็นภาระกับผู้ประกอบการ เพราะบริษัทน้ำมันทุกบริษัทต้องร่วมกัน จะเก็บเงินกันอย่างไร ต้องให้ทีมงานไปศึกษาดูจะตั้งอย่างไร ใครจะดูแล ขณะที่การดูแลสิ่งแวดล้อมจะต้องเก็บเงินจากผู้ประกอบการน้ำมันทั้งหมด พิจารณาตามปริมาณจำนวนน้ำมันที่ขายหรือนำเข้ามา

ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทางกระทรวงพลังงานได้รายงานให้ ครม.รับทราบสถานการณ์และการแก้ไขภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลในพื้นที่ ต. มาบตาพุด จ.ระยอง ว่า ทันทีที่เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วออกจากท่อรับน้ำมันดิบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 นิ้ว ของเรือขนถ่ายน้ำมันทางทะเลมายังทุ่นรับน้ำมันดิบ ทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล 50,000 ลิตร เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2556 เวลา 06.50 น. ทางบริษัทพีทีทีจีซี ได้ดำเนินการหยุดการรั่วไหลทันที โดยปิดวาล์วหยุดขนถ่ายน้ำมัน และประกาศเหตุฉุกเฉิน พร้อมตั้งศูนย์ควบคุมเหตุฉุกเฉินตามแนวทางปฏิบัติจากการซ้อมแผนฉุกเฉินรองรับภาวะวิกฤติ

สำหรับความคืบหน้าการกำจัดคราบน้ำมัน ขณะนี้สภาพในทะเลและชายหาดเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ โดยยังเหลือคราบน้ำมันบริเวณซอกหินเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินการทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้น้ำแรงดันสูง และมีการพลิกทรายเพื่อให้น้ำมันขนาดเล็กทำปฏิกิริยากับแสงแดดและสลายได้เองตามธรรมชาติ คาดว่าจะสามารถจัดการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่สองของเดือน ส.ค.นี้

ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานโดยมีรองผู้ว่าราชการ จ.ระยองเป็นประธาน ขณะนี้มีผู้ร้องเรียน 1,250 ราย แบ่งผู้ได้รับผลกระทบ 4 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มอาชีพประมง ผู้ร้องเรียน 400 ราย ผ่านหลักเกณฑ์การตรวจสอบเอกสารและได้รับอนุมัติจากจังหวัด 117 ราย โดยจ่ายเงินชดเชยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมารายละ 30,000 บาท คิดอัตราค่าชดเชย 1,000 บาทต่อวัน หรือ 3.51 ล้านบาท 2.กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม และร้านอาหาร มีผู้ร้องเรียน 600 ราย 3.กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ มีผู้ร้องเรียน 1 ราย และ 4.สุดท้าย กลุ่มอื่นๆ ทั้งอาชีพรับจ้าง ค้าขาย รถ-เรือเช่า ก่อสร้าง นวดแผนไทย ซึ่ง 3 กลุ่มหลังอยู่ระหว่างเจรจาในรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสภาพแวดล้อมทางทะเลในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานผลสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่รอบเกาะเสม็ดไม่พบคราบน้ำมันบนทะเล และไม่พบการตายของสัตว์ในแนวปะการัง กรมควบคุมมลพิษ พบว่า การใช้สารเคมีเพื่อขจัดคราบน้ำมันเป็นไปตามกฎระเบียบของกรมควบคุมมลพิษ  และสารเคมีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับสารเคมีขององค์กรน้ำมันชั้นนำทั่วโลก ขณะที่นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบของกรมประมงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.-11 ส.ค.2556 พบว่า คุณภาพสัตว์น้ำทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณโลหะหนักในเนื้อสัตว์น้ำมีค่าไม่เกินค่ามาตรฐาน  ค่าความเค็ม อุณหภูมิ ค่าความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ ปริมาณสารแขวนลอย และโลหะหนักในน้ำมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน.




Create Date : 14 สิงหาคม 2556
Last Update : 14 สิงหาคม 2556 7:04:08 น. 0 comments
Counter : 1743 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.