ประชุม ครม. วันที่ 4 ธ.ค. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอขออนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าแสตมป์ ยาสูบ พ.ศ.
หวังลดภาษีซ้ำซ้อน ช่วยชาวไร่ยาสูบ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 4 ธ.ค. กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ พ.ศ.
ทั้งนี้ กค.เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า สืบเนื่องจากการที่ กค. ออกกฎกระทรวง กำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ พ.ศ.2555 เพื่อปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาเส้นที่ซ้ำซ้อนในอุตสาหกรรมยาเส้น เนื่องจากพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 กำหนดให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบที่ทำยาเส้นจากใบยาที่ปลูกเองต้องเสียค่าแสตมป์ ยาสูบ (ภาษี) และเมื่อผู้ซื้อนำยาเส้นที่ได้ชำระภาษีแล้วดังกล่าวมาแบ่งบรรจุซอง เพื่อจำหน่ายก็ต้องเสียค่าแสตมป์ยาสูบ (ภาษี) อีกครั้งหนึ่ง
ทั้ง นี้ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวสมควรปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ เพื่อกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาเส้นให้เหมาะสมกับสภาวการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และไม่ส่งผลกระทบต่อ ชาวไร่ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบที่ทำยาเส้นจากใบยาที่ปลูกเอง และเพื่อบรรเทาภาระภาษีให้แก่เกษตรกรที่ผลิตยาเส้นที่ใช้เป็นวัตถุดิบให้แก่ ผู้ประกอบอุตสาหกรรมผลิตยาเส้นสำเร็จรูปและลดภาระภาษีซ้ำซ้อนในอุตสาหกรรมยา เส้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีดังนี้คือ 1. กำหนดให้ยาเส้น จัดเก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 10 อัตราภาษีตามปริมาณ 0.01 บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม 2. กำหนดให้ยาเส้นที่ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบทำจากใบยาที่ปลูกและหั่นเอง และได้ขายยาเส้นนั้นแก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ จัดเก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 0 อัตราภาษีตามปริมาณ 0 บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม.