พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
 
27 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
ขึ้นค่าไฟ!ยอดใช้ไฟพุ่งทุบสถิติรอบที่6

ขึ้นค่าไฟ!ยอดใช้ไฟพุ่งทุบสถิติรอบที่6กกพ.ประกาศขึ้นค่าเอฟที งวด พ.ค.-ส.ค. หน่วยละ 30 สต. โยน กฟผ.รับภาระต่อ 19 สต. คาดเกลี่ยคืนงวดหน้ายาว 1 ปี ส่งผลให้เอฟทีงวดต่อไปปรับขึ้นอย่างน้อยหน่วยละ 5 สต. ขณะที่ยอดใช้ไฟพุ่งทุบสถิติรอบที่ 6 นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกพ.มีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที งวดใหม่ของเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมนี้ ในอัตรา 30 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานจะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่ 3.53 บาทต่อหน่วย โดยต้นทุนค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น ซึ่งคิดเป็น 70% ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยงวดนี้เพิ่มขึ้น 8.63 บาทต่อล้านบีทียู มาอยู่ที่ 301.28 บาทต่อล้านบีทียู หรือเพิ่มขึ้น 2.95% คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้างวดใหม่จะปรับเพิ่มขึ้น 4% จากงวดที่ผ่านมาที่มีการใช้ไฟฟ้า 51,955 ล้านหน่วย และอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 30.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ค่าเอฟทีงวดใหม่ที่ปรับขึ้นเพียง 30 สตางค์ต่อหน่วย เป็นการปรับขึ้นต่ำกว่าอัตราที่แท้จริง จากต้นทุนอยู่ที่ 57.45 สตางค์ต่อหน่วย โดยแบ่งออกเป็นต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้างวดนี้ 38.40 สตางค์ต่อหน่วย และค่ารับซื้อไฟฟ้าเดิมที่ กฟผ.รับภาระงวดที่แล้ว (มกราคม-เมษายน) 19.05 สตางค์ต่อหน่วย โดย กกพ. มีมติให้ กฟผ. รับภาระ 19.05 สตางค์ต่อหน่วยต่อไปอีกในงวดนี้ และเมื่อหักลบกับต้นทุนการใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่ต่ำกว่าประมาณการในช่วงก๊าซพม่าหยุดส่งวันที่ 8-18 เมษายน ทำให้เอฟทีลดลงได้อีก 2.64 สตางค์ต่อหน่วย ในขณะที่ กกพ.ได้มีการนำเงินจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้า 3 แห่ง ระหว่างปี 2551-2553 จำนวน 3,100 ล้านบาท หรือประมาณเกือบ 6 สตางค์ต่อหน่วย มาหักออกจากต้นทุนเอฟที ทำให้เอฟทีงวดใหม่ปรับขึ้นเพียง 30 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ส่วนค่าเอฟทีงวดต่อไปเดือนกันยายน-ธันวาคมมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีก แต่มีลักษณะเป็นขั้นบันได ไม่ก้าวกระโดดแบบงวดนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันเริ่มชะลอการปรับขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่ กกพ.จะมีการเกลี่ยค่าไฟฟ้าที่ กฟผ.รับภาระ 19.05 สตางค์ต่อหน่วย หรือประมาณ 10,200 ล้านบาท ไปคืนในเอฟที 4 งวดข้างหน้า หรือตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 ถึงธันวาคม 2556 ซึ่งเท่ากับประชาชนจะมีค่าเอฟทีส่วนเพิ่มอีกเฉลี่ย 5 สตางค์ต่องวด "ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้ไฟฟ้าในงวดที่ผ่านมาสูงเกินแผน ซึ่งเดิมประมาณการว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.69% แต่ตัวเลขจริงกลับเพิ่มสูงถึง 11.32% หรือ 51,955 ล้านหน่วย เป็นผลมาจากอากาศร้อนจัด การใช้ไฟฟ้าของภาคครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 14% ขณะที่การฟื้นตัวของโรงงานอุตสาหกรรมก็มีผลต่อการใช้ไฟฟ้า แต่เพิ่มขึ้นเพียง 4% เท่านั้น ซึ่งหากประชาชนร่วมมือกันประหยัดก็จะประหยัดพลังงานไปได้มาก เพราะหากยิ่งใช้ไฟฟ้าน้อยลง การใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าก็จะลดลง ต้นทุนค่าเอฟทีจะไม่พุ่งสูงขึ้นด้วย" นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 เมษายน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีค ได้พุ่งสูงสุดถึง 25,682 เมกะวัตต์ทำลายสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ที่ 25,551 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติรอบที่ 6 จากสาเหตุสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยมีอุณหภูมิสูงถึง 38.4 องศาเซลเซียส จึงขอความร่วมมือประชาชนในการลดใช้พลังงาน นายสมมาตร ขุนเศรษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าเอฟที 30 สตางค์ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบกับภาคเอกชนอย่างมาก เพราะในช่วงที่ผ่านมาภาคเอกชนต้องแบกรับต้นทุนค่าแรง น้ำมัน และวัตถุดิบต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น การขึ้นค่าไฟฟ้าจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการอย่างรุนแรง และยังส่งผลกระทบกับประชาชนที่ต้องแบกภาระค่าครองชีพทุกอย่างที่เพิ่มขึ้น โดยการขึ้นค่าไฟฟ้าครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอย่างแน่นอน แต่จะมากหรือน้อยขึ้นกับว่าอุตสาหกรรมนั้นใช้ไฟฟ้ามาหรือน้อย หากผู้ประกอบการรับภาระไม่ไหวกระทรวงพาณิชย์ก็ควรจะอนุญาตให้ปรับราคา เพราะรัฐบาลเป็นผู้กดดันผลักภาระทุกอย่างให้ภาคเอกชนแบกรับ จึงควรจะปล่อยให้การปรับราคาเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะถ้าผู้ประกอบการรายใดขึ้นราคาไม่เป็นธรรมประชาชนก็ไม่ซื้อ และจะเกิดการแข่งขันจนทำให้ราคาอยู่ในภาวะสมดุล และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย "นโยบายรัฐที่ผ่านมามีแต่ซ้ำเติมภาคเอกชนอยู่แล้ว การขึ้นค่าเอฟทีนั้น รัฐบาลควรจะเข้าไปดูต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ. จริงๆ ว่าต้นทุนเท่าไร ถ้าไม่ขึ้นเอฟที กฟผ.จะขาดทุนหรือไม่ หรือกำไรลดลงและควรให้ กฟผ. ที่ผูกขาดผลิตไฟฟ้า และเป็นหน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยแบกภาระร่วมกับภาคเอกชนไม่ใช่ผลักภาระเพียงอย่างเดียว" นายสมมาตรกล่าว ด้านนายสัมพันธ์ ศิลปนาฏ ประธานสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า การขึ้นค่าเอฟทีกระทบกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์-ไฟฟ้าแบบเต็มๆ เพราะค่าไฟถือเป็นรายจ่ายสำคัญ เพราะโรงงานต้องใช้เครื่องจักรมาก ทุกโรงงานต้องใช้เครื่องปรับอากาศ เป็นรายจ่ายที่ต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน จากนี้คงต้องไปหารือกันว่า อาจจะต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ไปเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องอื่นๆ มาชดเชยรายจ่ายที่ต้องเสียเพิ่มไป "สิ่งหนึ่งที่อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ คือ ขอให้มีมาตรฐานการคำนวณที่ชัดเจน เพราะเราเห็นหลายครั้งการปรับขึ้นหรือลดลง ไม่ค่อยมีมาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่ต้นทุนของผู้ประกอบการถูกลง การไฟฟ้าก็ไม่ยอมลดราคา เพราะกลัวว่าจะขาดทุน แต่ปัจจุบันต้นทุนของผู้ประกอบการก็สูงขึ้นอยู่แล้ว ก็มาปรับขึ้น ผมมองว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหามาก" นายสัมพันธ์กล่าว นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและตลาด บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด กล่าวว่า ผลจากการปรับค่าเอฟทีในเบื้องต้นยังต้องรอดูผลกระทบค่าไฟที่จะเกิดขึ้นในเดือนถัดไป ซึ่งหากกระทบมากก็อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาที่เรียกเก็บจากร้านค้าภายในศูนย์การค้า โดยปัจจุบันอยู่ราว 4 บาท และมีค่าบริการเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามรักษาต้นทุนไม่ให้กระทบกับร้านค้ามากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาต้นทุนค่าไฟ 70% เป็นส่วนที่บริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเรียกเก็บจากร้านค้าในราคาต้นทุนบวกกับค่าบริการเล็กน้อย เช่น ต้นทุนค่าไฟ 4.2 บาทต่อหน่วยก็จะเรียกเก็บจากร้านค้า 4.5 บาท ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อราคาสินค้าไอทีในภาพรวม เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกไอทีมีน้อยมาก เพราะเป็นส่วนที่ตัวอาคารเป็นผู้รับผิดชอบมากกว่า


พระเครื่อง |ดูดวง |สถานที่ท่องเที่ยว|ก๋วยเตี๋ยวเรือ|กุมารทอง | เครื่องรางของขลัง | ผี | พระเครื่อง| สารบัญเว็บไซต์|ชมรมถ่ายภาพ |ราคาพระเครื่อง|พระเครื่อง|การ์ตูน|พระเครื่อง|วัตถุมงคล |ตะกรุด|กุมารทอง|กุมารทอง


Create Date : 27 เมษายน 2555
Last Update : 27 เมษายน 2555 1:20:31 น. 0 comments
Counter : 1233 Pageviews.
Share

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]





Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.