รีวิวหนังสือ "เฟอร์มิน หนู/รัก/หนังสือ - Sam Savage"

เรื่องราวของหนูตัวหนึ่งแห่งเมืองบอสตันที่มีพี่น้องสิบสามตัว และเขาเป็นน้องนุชสุดท้องที่กินนมแม่ได้น้อยกว่าเพื่อนเพราะความที่ตัวเล็กและเข้าไปไม่ถึง แถมน้ำนมแม่ก็มีแอลกอฮอล์จากการกินเครื่องดื่มที่หกตามรายทางเสมอ ซึ่งแถวนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นบาร์ต่างๆ แล้วกว่าที่เขาจะได้กินก็ตอนที่พี่น้องอิ่มแล้วเขาถึงจะได้ไปกินนมแม่บ้าง ซึ่งก็แทบไม่เหลืออะไรแล้วแต่ก็พอประทังชีวิตจนรอดมาได้ รังของเขาพวกเขาอยู่ในร้านหนังสือมือสองแห่งหนึ่งในห้องใต้ดินที่ชื่อว่า "เพมบรูกบุ๊กส์" มีชายที่ชื่อ "นอร์แมน" เป็นเจ้าของกิจการ

ในวัยเด็กแม่ของเขาจะฉีกกระดาษจากหนังสือมาทำเป็นรังให้พวกเขา และเฟอร์มินเองก็กัดแทะหนังสือไปบ้าง แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าหนังสือนั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย จึงเลิกแทะแล้วหันมาอ่านแทน และเขาก็ไล่อ่านหนังสือไปทั่วทั้งหนังสือดังๆ หนังสือหายาก หนังสือความรู้ หรืออื่นๆตามแต่ที่เขาสนใจ จนเขารู้ทุกซอกทุกมุมภายในร้านหนังสือแห่งนั้น และรู้ว่านอร์แมนเก่งแค่ไหนในการไปดูหนังสือเลหลังที่มีหนังสือดีๆมากมายแล้วเอามาขายที่ร้าน 

ช่วงแรกๆมีลูกค้าเข้ามาอย่างเนืองแน่น เพราะที่ร้านนี้มีหนังสือดีราคาไม่แพงเสมอ แต่แล้ววันหนึ่งย่านแห่งนี้ก็เริ่มซบเซาและกำลังจะถูกทำลาย โรงภาพยนตร์ริอัลโตที่เขาชอบไปดูโฉมไฉไล และเก็บเศษข้าวโพดคั่วตามพื้นมากินเริ่มมีคนมาน้อยลง ตามข้างทางมีถังขยะที่ล้นเพราะไม่มีใครมาเก็บ เศษอาหารข้างทางรวมทั้งขยะเต็มไปหมดจนมีประชากรหนูเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่เฟอร์มินชอบที่จะได้อ่านหนังสือมากกว่าและเขารู้สึกปลอดภัยกว่าการออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ซึ่งเขาก็จะออกไปบ้างเมื่อหิวหรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ

เฟอร์มินปราถนาอยากทำความรู้จักกับผู้คนเป็นอย่างมาก แต่จากประสบการณ์สุดแย่ที่เกิดขึ้นตอนที่เขาอยากผูกมิตรกับคน และโดยเฉพาะนอร์แมนก็ทำให้เขาจดจำและคอยเตือนใจตัวเองไว้เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับคนที่มาช่วยเขาในวันที่ยากลำบากและได้ผูกมิตรด้วย แม้ว่าสุดท้ายวันหนึ่งพวกเขาจะต้องจากกันก็ตามเพราะย่านนี้จะต้องถูกทำลายในที่สุด และมันก็ใกล้ตึกที่เป็นที่ตั้งของร้านหนังสือเข้ามาทุกที


เป็นหนังสือที่แปลกใหม่ดี หนูอ่านหนังสือ แถมอ่านงานยากๆเยอะแยะไปหมด ออกไปดูหนัง คิดอะไรเยอะแยะไปหมด อ่านแล้วก็แปลกๆดี แต่ที่ทำให้เรารู้สึกว่าอ่านไม่ราบรื่นเท่าไหร่ เพราะเฟอร์มินอ่านเยอะมาก แล้วก็จะมีชื่อหนังสือเยอะ มีคำอธิบายหนังสือแต่ละเล่มแยกที่ด้านล่างให้ ช่วงแรกเราก็อ่านคำอธิบายเพิ่มแต่สักพักก็เลิกเพราะรู้สึกว่ามันขัดอารมณ์การอ่าน แล้วหนังสือพวกนั้นเราก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ที่คอยติดตามคือเรื่องการทำลายอาคารที่จตุรัสสกัลลีย์ซึ่งอ่านแล้วก็เสียดายโดยเฉพาะร้านหนังสือนี่ล่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆเราไม่อินไปกับหนังสือเท่าไหร่




 



Create Date : 28 ธันวาคม 2566
Last Update : 28 ธันวาคม 2566 12:07:17 น.
Counter : 210 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด