เป็นหนังสือเล่มบางๆที่บันทึกเรื่องราวการเดินทางของแฮร์มันน์ตั้งแต่ที่เขาออกจากบ้านอันเป็นที่รักในเยอรมนีข้ามแส้นพรมแดนไปยังสถานที่ตามประเทศต่างๆแล้วเขียนเล่าเรื่องถึงสิ่งที่ได้พบและห้วงอารมณ์ ความนึกคิดณ ขณะนั้นออกมาเป็นบทสั้นๆมีการภาพวาดประกอบที่เรียบง่ายรวมถึงบทกลอนที่สื่อถึงเรื่องราวที่พบเจอเช่น บ้านในอิตาลีที่ได้รับการสร้างให้ดูกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ หรือบ้านสีแดงที่เขาพบระหว่างทางแล้วทำให้รู้สึกคิดถึงบ้านน้อยอันอบอุ่นของตัวเองที่เยอรมนี หรือสะพานสวยตรงหน้าที่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยได้เดินทางผ่านมาแล้วในอดีตแต่ครั้งนั้นมาพบเมื่ออยู่ในสงคราม แล้วณ ที่นั้นก็ทำให้เขาได้คิดอะไรต่อไปอีกหลายอย่าง หรือในวันหนึ่งที่พบว่าสภาพอากาศครึ้มฝนออกไปข้างนอกไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจว่าจะออกไปเดินเล่นทำให้เขาต้องติดอยู่ในห้องพักและได้แต่ครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆแล้วเขียนระบายออกมา เริ่มตั้งแต่หงุดหงิด ทำใจกับมัน จนในที่สุดก็เข้าใจและยอมรับกับสถานการณ์และชีวิตของตัวเอง
เราชอบหนังสือเล่มนี้มากทำให้เราได้คิดตามกับเขาไปด้วยเขาเขียนสะท้อนอารมณ์ของคนเดินทางจริงๆที่ต้องอยู่กับตัวเอง บางทีก็คิดถึงบ้าน เหงา เบื่อ เศร้า อารมณ์หลากหลายที่ปะทะกันแต่ละวันบางวันก็อารมณ์ดี บางทีก็หงุดหงิด บางวันสับสนกับชีวิต บางวันก็ปลงตก สลับกันไปแต่เขาก็ทำให้เราเห็นว่ามันคือชีวิตและเขาก็เคารพธรรมชาติและคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง และชื่อเสียงต่างๆรางวัลมากมายความสำเร็จที่ได้มาก็ไม่ได้ติดตามเขาไปทุกที่เพราะณ ที่หนึ่งเด็กหญิงคนหนึ่งก็ไม่รู้จักว่าเขาคือใครเขาเป็นใครนอกจากลุงคนหนึ่ง อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจชีวิตดีแล้วก็อยากออกไปเดินทางแบบเขามาก
และเราอ่านถึงสองรอบด้วยกัน เพราะว่ารอบแรกอ่านครึ่งแรกระหว่างการเดินทางไปนครนายกกับเชียงใหม่มันอ่านแล้วไม่ซึมซับเท่าไหร่ พอได้อ่านตอนไปนครนายกรอบสองแล้วเริ่มอินเลยมานอนอ่านที่บ้านอีกทีแบบรวดเดียวจบตั้งแต่ต้นยิ่งอินกับห้วงอารมณ์คนแรมทางของแฮร์มันน์มาก