รีวิวหนังสือ "100 life lessons 100 บทเรียนชีวิต - นิ้วกลม"
รวมงานเขียนในรอบ 15 ปีของนิ้วกลมในช่วง 25-40 ปี ซึ่งได้นำมาร้อยเรียงและขัดเกลาเนื้อหาบางส่วนออกไปเพื่อให้อ่านได้ใจความและกระชับมากขึ้น และได้นำมาจัดเข้าหมวดหมู่ที่เนื้อหาไปในทางเดียวกันอย่าง โลกในแง่ดี, ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง, เป็นไปตามธรรมชาติ, หน้าตาของความรัก, ขอบคุณที่อยู่ข้างกัน, เข้าใจเพื่ออยู่ร่วม, กล้าฝันถึงโลกที่ดีกว่า, ความเป็นไปได้ในตัวเรา, สิ้นสุดเพื่อเริ่มต้น, ความหมายของชีวิต, ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง, ขัดเกลาชีวิตให้สวยงาม, รักษาความอ่อนโยนในหัวใจ, คำตอบผ่านเวลา, ชะลอและปล่อยวาง, ว่าง
ซึ่งเรื่องราวจะมีการพูดถึงคนรอบตัวอย่างเช่นครอบครัวที่มีป๊า ม๊า เจ้ และตัวพี่เอ๋เอง ซึ่งอ่านทีไรก็อบอุ่นใจไปกับครอบครัวนี้ทุกครั้ง, เพื่อนร่วมงาน, คนรัก, ข้าวของเครื่องใช้, ความคิดและเหตุการณ์ต่างๆรอบตัว หรือแม้กระทั่งการเขียนเหมือนเขียนจดหมายหาคนดังที่จากโลกไปนานอย่าง'รงค์ วงษ์สวรรค์, ดา วินชี, แวน โกะห์,จอห์น เลนนอน ซึ่งทำให้ได้คิดตามและหลายอย่างก็ทำให้เรียนรู้อะไรใหม่ๆและได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น
ซึ่งหนังสือเล่มนี้รวบรวมบทความจากหนังสือหลายต่อหลายเล่มที่พี่นิ้วกลมเคยได้เขียนไว้ ดังนั้นเวลาอ่านจึงมีทั้งเรื่องที่เราคุ้นเคยเพราะเคยอ่านเจอมาก่อนและส่วนที่ไม่เคยได้อ่านซึ่งทำให้เราได้อ่านเรื่องใหม่ๆ ส่วนเรื่องที่เคยอ่านมาแล้วพอกลับมาอ่านอีกทีก็ให้ความรู้สึกคิดถึงช่วงเวลา ณ ตอนที่เราเคยได้อ่านและความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านในตอนนั้นและความรู้สึกใหม่ที่ได้จากการอ่านรอบนี้ โดยเฉพาะกับบางเรื่องที่เราอ่านแล้วชอบและหลายครั้งที่พอเจอเหตุการณ์หรือสิ่งของพวกนั้นแล้วยังคงทำให้คิดถึงบทความเรื่องนั้นตลอดเช่น เสื้อผ้าเก่าที่เคยเป็นเสื้อตัวโปรดที่ยังคงมีประโยชน์และกลายมาเป็นผ้าขี้ริ้ว, ของใช้ไม่ใช่ของโชว์ต่อให้ซื้อมาแพงถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่, การจอดรถที่เราสามารถยอมให้คนที่แซงมาจอดตรงที่ๆเรากำลังจะจอดก็ได้เพื่อตัวเราเองที่จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียและทะเลาะกับใครจนทำให้ทั้งวันต้องเสียไปเพียงเพราะการกระทำของคนอื่น
การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้เราได้ย้อนไปพบเจอกับบทความที่เราชอบในรูปแบบการเขียนที่กระชับมากขึ้นแต่ยังคงความประทับใจ และพบกับบทความใหม่ๆที่ทำให้เราชอบเช่น ช่วงที่มีการเขียนจดหมายคุยกับคนดังที่จากไป ที่ทำให้เราคิดว่าเขาคิดได้ไงนะและพออ่านแล้วก็รู้สึกชอบ ได้เห็นอะไรใหม่ๆและได้รู้ประวัติชีวิตและผลงานของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมและได้เห็นมุมมองของนักเขียนอย่างพี่เขาต่อบุคคลเหล่านั้นด้วย เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีและทำให้เห็นว่านักเขียนเขาสามารถเขียนถึงอะไรก็ได้และทำให้มันน่าสนใจและออกมาได้ดีด้วย
การได้อ่านหนังสือของพี่นิ้วกลมเหมือนการเจอที่ปรึกษาสำหรับเรา เขาให้แง่คิดดีๆเยอะมากแล้วก็เป็นนักเขียนคนแรกที่เราชอบ (และตอบอาจารย์ตอนสัมภาษณ์ก่อนจบว่าเป็นนักเขียนคนโปรด ซึ่งจริงๆตอนนั้นอ่ะก็รักพี่แกแหละแต่ยังไม่ถึงขั้นโปรด แค่อ่านหนังสือพี่เขาแล้วชอบเลยไล่อ่านผลงานพี่เขาทุกเล่มที่มีในห้องสมุด พออาจารย์ถามเลยนึกออกชื่อเดียว
) และอ่านมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งปัจจุบัน อ่านทีไรก็อบอุ่นใจและรู้สึกเหมือนมีพี่คนหนึ่งที่โตมาด้วยกันคอยสอนนั่นสอนนี่ และทำให้เราเข้าใจชีวิต เข้าใจโลก และคอยเป็นกำลังใจให้เรา ซึ่งปัจจุบันก็เป็นนักเขียนคนโปรดจริงๆแล้วด้วย
(แต่เล่มดังของพี่เขาอย่าง "โตเกียวไม่มีขา" ยังไม่เคยอ่านเลย
สักวันแหละน่ะ กฎแห่งแรงดึงดูดยังไม่ดึงเข้ามามั้ง)
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [