รีวิวหนังสือ "ปลายเทียน - แก้วเก้า"

เรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่หลุดจากโลกในใบข่อยจากเรื่องขุนช้าง ขุนแผน นั่นคือ"เจ้าสร้อยสุมาลี" ลูกสาวเจ้าเมืองเชียงใหม่อีกคนหนึ่งที่หนีจากการต้องไปถวายตัวพระพันวษาในกรุงศรีอยุธยาหลังจากที่ขุนแผนสามารถชนะศึกได้ โดยหนีมาพร้อมนางพี่เลี้ยงสาวสองคน "นางหล้าและนางลูน" กับองครักษ์หนุ่มลูกชายแม่ทัพที่สู้จนชีพวายในสนามรบนามว่า "เพชรกล้า" ที่มีอาคมพอตัวทำให้สามารถหนีออกมาได้ แต่ก็ต้องระแวงระวังภัยในป่าและกลัวการถูกนำตัวกลับไป แต่พวกเขาได้พบกับ "วงศ์เมือง" ที่บังเอิญประมูลสมุดข่อยโบราณเล่มนั้นมาได้และหลุดเข้าไปในภพนั้นจนได้เจอกับพวกเขาและเสนอให้ทั้งหมดหลบมาอยู่ที่บ้านของเขา จนเกิดเรื่องวุ่นวายตามมาในภายหลัง

เมื่อเขาเล่าเรื่องนี้ให้ "วัจน์" น้องชายของเขาที่เป็นนักธุรกิจคนเก่ง ที่งานรัดตัวแต่ก็รักพี่ชายมากเพราะหลังจากพ่อแม่ตายก็มีพี่ที่อายุห่างกันมากคอยดูแลจนเรียนจบ แต่พอฟังเขาเล่าจบฝ่ายนั้นกลับคิดว่าเขาเพ้อเจ้อและเกิดอาการประสาทหลอนจนพาไปโรงพยาบาลและไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ "เกาลัด" หญิงสาวที่เป็นเพื่อนคนสนิทของ "เรวิทย์" ลูกชายของวัจน์ เมื่อได้รู้เรื่องนี้เข้ากลับสนใจมากเพราะเธอเป็นแฟนนิยายของวงศ์เมืองมาโดยตลอดและเมื่อได้ฟังว่าตัวละครจากนิยายออกมาอยู่ในโลกปัจจุบันเธอผู้เป็นหญิงสาวกล้า บ้าระห่ำยิ่งอยากไปดูด้วยตาตัวเองและใจเธอก็ไม่คิดว่าลุงวงศ์เมืองจะเป็นอย่างที่คนอื่นคิดกัน จึงอาสาไปดูที่บ้านเรือนไทยในต่างจังหวัดของเขาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงพร้อมกับ "คณาหรือพี่จือ" เลขาของวัจน์ จนได้พบกับกลุ่มคนที่แปลกประหลาดกลุ่มนั้น และหาทางเอาตัวลุงวงศ์เมืองออกมาจากโรงพยาบาลให้ได้ด้วยมนตร์ที่เพชรกล้ามี

แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ราบรื่นเพราะโหงพรายที่ขุนแผนส่งมาเพื่อให้ติดตามหาก็มาปรากฎตัวระหว่างที่พวกเขากำลังเล่นน้ำทะเล และเกือบได้ตัวเจ้าสร้อยไปถ้าเพชรกล้ามาช่วยไว้ไม่ทัน แล้วไหนจะการแสดงออกที่เพชรกล้าทำเป็นไม่ไยดี ไม่เห็นเกาลัดในสายตาและว่ากิริยา รวมถึงการแต่งตัวของเธอแปลกประหลาด แต่ก็มักแกล้งถึงเนื้อถึงตัวเธออยู่เสมอ แล้วไหนจะต้องระวังภัยว่าขุนแผนจะมาเอาตัวพวกเขาไปได้เมื่อไหร่เพราะวิชาเขาเก่งกล้ามากและเพชรกล้าก็ไม่อาจสู้ได้แน่ แต่สถานการณ์ที่ต้องเผชิญอยู่เสมอคือหลบหนีการติดตามโดยคนของพ่อเรวิทย์ หลังจากรู้ว่าพี่ชายคนเดียวของเขาถูกพาตัวออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกลุ่มคนแปลกประหลาด รวมถึงความรู้สึกดีๆที่เจ้าสร้อยและเรวิทย์มีต่อกันแต่เขาก็รู้ว่าเธอไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปไม่ว่าลักษณะภายนอกหรือการไม่ต้องกิน ไม่ต้องนอนก็อยู่ได้ปกติ

 

เป็นหนังสือที่แค่อ่านคำนำผู้เขียนก็ทำให้เราเอะใจว่าเรื่องชักจะแปลกๆไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด (ปีนี้ไม่รู้เป็นอะไรต้องเจอหนังสือที่ไม่เป็นอย่างที่คิดเยอะมาก) หยิบเรื่องนี้มาด้วยความรู้สึกสึกอยากอ่านอะไรที่มีกลิ่นอายย้อนยุค อ่านแล้วเย็นใจ ได้อารมณ์บ้านเมืองในยุคก่อน แต่นอกจากคำนำผู้เขียนที่บอกจุดประสงค์แน่ชัด ยังมีเรื่องการใส่บทเสภาเข้ามาในเรื่องอีก ซึ่งตอนแรกคิดว่าคงอ่านยากแน่แต่ไปๆมาๆอ่านไม่ยากแล้วก็ไม่ได้มีมากมายอะไรอย่างที่เรากังวล แต่พอคิดถึงสิ่งที่แก้วเก้าเขียนไว้ก็ทำให้มันอึดอัดใจเริ่มอ่านหน้าแรกไม่กี่บรรทัดเราก็พลิกด้านไปอ่านหน้าสุดท้ายเลย31 พออ่านแล้วก็สบายใจมันก็ดีนี่นา แต่พออ่านไปได้เยอะแล้วและกำลังติดลมมากๆเพราะการกระทำพ่อเพชรกล้านี่มันร้ายจริงๆ กำลังอินสุดๆก็เอะใจขึ้นมาอีกถึงสิ่งที่แก้วเก้าเขียนไว้ ก็เลยเปิดตอนจบใหม่อ่านอีกที อ้อ...มันก็ดีแหละ แค่ไม่ใช่อย่างที่คิดตอนแรก

เราชอบเรื่องนี้ตรงที่ตัวละครหลายตัวก็พูดกันตรงๆในหลายครั้ง บางทีก็ทำให้เขิน บางทีก็ทำให้ว้าว...ไม่คิดว่าตัวละครนี้จะกล้าพูดออกมาแต่ก็ทำให้เราได้คิดว่าว่าทำไมเขาถึงพูดแล้วได้เห็นว่าการที่เรื่องนี้ถูกพูดออกมาทำให้เรื่องมันดีขึ้นยังไง และบางครั้งก็ทำให้เราอ่านแล้วเจ็บปวดตามกับคำตอบ

 



Create Date : 22 กันยายน 2565
Last Update : 22 กันยายน 2565 14:50:53 น.
Counter : 289 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด