สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราอ่านเรื่อง "รัตนโกสินทร์" แล้วอินกับการเขียนของ ว.วินิจฉัยกุลเอามากๆ เราเลยหยิบหนังสือเล่มล่าสุดที่สั่งซื้อมาอ่านต่อทันที นั่นคือ "เจ้าสาวในสายลม" ตอนแรกก็ว่าจะไม่ซื้อเล่มนี้เพราะอ่านหลังปกแล้วดูท่าว่าไม่เหมาะกับแนวเรา แต่ก็ซื้อมาจนได้
และติดหนึบด้วยพอจบเล่มนี้เราก็เอาอีกเล่มของ ว.วินิจฉัยกุลมาอ่านต่ออีก

หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของ ชลัยหรือน้ำ นางเอกที่มีเพื่อนรักชื่อ รสสินีหรือรส ซึ่งรูปร่างหน้าตา และฐานะทางบ้านแตกต่างกันมาก รสสินีหน้าตาสะสวย ตากลมโต ดูน่ารักน่าเอ็นดู ในขณะที่น้ำนางเอกของเราหน้าตาพื้นๆผิวออกสีน้ำผึ้ง ทั้งคู่เจอกันที่บริษัทที่ไปเริ่มงานวันแรกเหมือนกัน รสชอบใจน้ำคนเดียวคนอื่นๆเธอไม่ชอบใครเอาซะเลย ตอนแรกทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันแต่หลังจากที่ "สรวง"ผู้จัดการร่างใหญ่ ผิวเข้มแต่ใจดีที่เคยสอนงานให้น้ำตั้งแต่ที่มาฝึกงานที่นี่ต้องออกไปดูแลธุรกิจทางบ้านที่ใต้ ก็มีผู้จัดการคนใหม่เข้ามาคือ "วัชร" ผู้ที่ถือตัว เย่อหยิ่ง ไม่ทำตัวสนิทสนมกับลูกน้องที่ต่ำกว่าตน ยกเว้นเฉพาะ รสสินี สาวหน้าตาน่ารัก ทั้งคู่ไปกินข้าวด้วยกัน ไปรับไปส่ง โดยปิดเป็นความลับกับเพื่อนร่วมงาน ทำให้รสไม่ได้ไปไหนมาไหนกับน้ำอีกนัก จนกระทั่งเธอไปทำอาหารให้คนที่บ้านรสกินเพราะรสชวนไป จนได้เจอกับปริเยศ หรือพี่ปรี หนุ่มน่าตาดี เป็นนักเทคนิคการแพทย์รุ่นน้องที่รพ.ของพิม พี่สาวรสสินีที่มาส่งพิมตอนที่รถต้องไปเข้าอุู่ พอเจอหน้ารสสินีครั้งแรกก็เกิดถูกใจ แต่รสสินีก็ไม่ได้เล่นด้วย ออกจะไม่ชอบเพราะเห็นว่าไม่รวย ความฝันของเธอคือการมีสามีรวย! แต่น้ำเห็นว่าพี่ปรีเป็นคนดีและรักเพื่อนของตนจริงๆจึงคอยเอาใจช่วยเขาเสมอ และเห็นว่าเพื่อนเธอไม่ควรยุ่งกับวัชร เพราะเขาก็เพิ่งหมั้นไป แต่แล้วก็ต้องมาพบว่ารสสินีตั้งท้องกับวัชรและแต่งงานกันไปอย่างเสียไม่ได้ เธอจึงเห็นใจพี่ปรีมากขึ้นไปอีกคอยดูแลและรับฟัง จนทั้งคู่รักกัน กำลังจะแต่งงานกัน แต่แล้วก็มีรสสินีก็กลับเข้ามาอีก รสสินีเป็นรักที่ตราตรึงใจของปริเยศ จนทำให้งานแต่งงานล้มไม่เป็นท่า น้ำเสียใจมากเธอทั้งต่อว่า ทั้งอ้อนวอนคนทั้งคู่ก็ไม่เป็นผล ว่าที่เจ้าบ่าวที่เคยแสนดีของเธอกลับต่อว่าต่อขานเธออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนและปกป้องรสสินีทุกทาง น้ำเสียใจอย่างมากจึงตัดสินใจไประนอง เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่นหลังจากที่ผู้จัดการคนเก่ามาชวนเธอไปทำงานด้วย เพราะทางนั้นกำลังมีปัญหาขาดนักบัญชีพอดี ที่นั่นเธอก็ต้องเจอปัญหาอีกเพราะ "สรวง"ที่คนเรียกกันว่า"นาย"ก็มีปัญหากับภรรยาที่เอาแต่ไปกรุงเทพฯทิ้งลูกให้พี่เลี้ยงดูอย่างเดียว เธอจึงต้องดูแลเด็กน้อยลูกสาวเขาไปด้วย ทำงานบัญชีที่ต้องหาว่าเงินหายไปไหนมากมาย ทุจริตจากใคร ทางไหนไปด้วย จนเกิดเรื่องเมื่อภรรยาเขากลับมาและพบเธอ รวมกับเรื่องที่สามีภรรยาทั้งคู่นั้นทะเลาะกันเป็นประจำ น้ำก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อยของสรวง เพราะลูกสาวของสรวงก็ได้เธอมาเลี้ยงดูหลังจากพี่เลี้ยงออกไปอยู่ต่างจังหวัด เธอคอยดูแลเด็กน้อย อีกทั้งเธอมีฝีมือในการทำอาหารทำให้เด็กน้อยที่เคยผอมแห้งกลับมาสมบูรณ์สดใสอีกครั้ง รวมถึงสรวง นายของเธอก็ได้กินอาหารฝีมือเธอยามที่กลับมาจากการทำงานอันเหนื่อยล้า อีกเรื่่องที่ทำให้คนงานเข้าใจว่าเธอคือ "ผู้หญิงของนาย" ก็เพราะว่าชาวบ้านเห็นว่าสรวงเข้านอกออกในบ้านเธอเสมอ นั่นเป็นเพราะเขาคอยมาดูลูกสาวตัวน้อยหลังกลับจากการทำงาน เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอหนักใจจนขอลากลับบ้านมาหาพ่อกับแม่ และลังเลใจว่าจะกลับไปดีหรือไม่ ที่นี่เธอได้เจอกับพิม พี่สาวของรสสินีที่เธอเคยคลางแคลงใจเมื่อครั้งที่ไปขอร้องให้พูดกับรสสินีว่าให้เลิกกับปริเยศว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ แต่เธอกลับไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่คิด แม่และพี่สาวของรสสินีไม่เคยว่ากล่าวหญิงสาว พวกเขารักและเอาอกเอาใจลูกสาวคนเล็กมาก ทำผิดอย่างไรก็ยังเข้าข้างกัน ครั้งนี้พิมได้พูดกับเธออย่างเปิดอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จนทั้งสองเข้าใจกัน นอกจากนั้นเธอยังได้รู้ว่ารสสินีทิ้งปริเยศกลับไปหาสามี น้ำก็คิดว่าเขาได้รับผลกรรมที่ทำกับเธอไว้แล้ว เขาทิ้งเธอไปก่อนวันแต่งงานไม่กี่วัน ทีนี้เขาคงเข้าใจหัวอกเธอบ้าง แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้ง ปริเยศทำท่าเหมือนจะง้อเธอ แต่เธอก็ไม่สานต่อเพราะขนาดจะแต่งงานกันอยู่ไม่กี่วันเขายังตัดเธออย่างไม่มีเยื่อใย แล้วถ้ารสสินีกลับมาอีก เธอก็อาจถูกทิ้งอีก แล้วเธอก็ได้จดหมายจากเด็กสาวตัวน้อยที่เขียนมาถึงเธอว่าคิดถึง จึงตัดสินใจกลับระนอง และใช้ชีวิตที่ดีอยู่ที่นั่น ต่างจากเพื่อนและคนรักเก่าของเธอ
หนังสือเปิดเรื่องมาเหมือนเรื่องอื่นส่วนใหญ่ของว.วินิจฉัยกุลที่ให้เรื่องเริ่มจากวัยสูงอายุ ค่อยๆเปิดภาพความทรงจำของตัวละคร อ่านๆไปก็จะมีบทที่เหมือนสปอยนิดๆในตัวว่าเรื่องจะหักเห หรือตัวละครเหล่านั้นจะเจออะไรที่แตกต่างไปจากเดิมซึ่งมีในทุกเล่ม มันทำให้เราวางไม่ลงเข้าไปอีกเพราะลุ้นต่อไปเรื่อยๆ เรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าคงธรรมดาๆ อ่านเรื่อยๆ พอบทนางเอกปรี๊ดแตกขึ้นมาเราก็สาแก่ใจสุดๆเหมือนกัน มีตบมีกระชาก นางเอกฉันนิ่งๆ เรียบๆแต่ก็ไม่ยอมถ้าใครจะมาแย่งว่าที่เจ้าบ่าว ทั้งอิน ทั้งสงสารเจอครอบครัวรสสินีเข้าไปอีก เพื่อนก็ร้าย ผู้ชายก็เลว พอปริเยศไม่ใช่พระเอกเราก็งง เอ้านี่พระเอกอยู่ไหนล่ะ อ่านมาครึ่งเรื่องแล้ว จนกว่าจะพบว่าคือ "สรวง" เราก็ลืมไปแล้วไงเพราะว่าอ่านมาตั้งแต่ต้นเรื่องออกนิดเดียว ซึ่งความรักของทั้งคู่ก็ไม่หวือหวาตามสไตล์ว.วินิจฉัยกุลที่พระนางของเรื่องจะรักแบบเข้าอกเข้าใจกันมากกว่า ในเรื่องนี้เราได้ข้อคิดเรื่องการพยายามทำให้ถึงที่สุดของนางเอกตอนที่ง้อปริเยศให้มาแต่งงาน คือทำให้ดีที่สุดทุกทางก่อนจะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง และการให้อภัยของนางเอก รวมถึงการเก็บปากเก็บคำไม่พูดเรื่องคนอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่เราคาใจคือภาพหน้าปก ทำไมนางเอกผิวขาวล่ะ น่าจะลงสีให้นางเอกผิวสีน้ำผึ้งไปด้วยเหมือนในเรื่องจะดีมาก