รีวิวหนังสือ "Intution ปัญญาญาณ - Osho"
เป็นหนังสือที่พูดถึงเรื่องปัญญาญาณซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ลึกที่สุด โดยมีสัญชาตญาณเป็นการทำงานของส่วนร่างกาย เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ การย่อยอาหาร การไหลเวียนของโลหิต ปรีชาญาณเป็นการทำงานของส่วนหัว(สมอง) เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ใช้ในการประกอบอาชีพ ใช้ทำมาหากิน เกี่ยวข้องกับศาสตร์แขนงต่างๆ และปัญญาญาณเป็นการทำงานของส่วนจิตใจ เป็นบ่อเกิดของงานด้านศิลปะต่างๆ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสวย ความงาม ความรัก และมิตรภาพ โดยที่มีความเป็นตัวเราเป็นฉากอยู่เบื้องหลังทั้งสามสิ่งนี้
ปัญญาญาณมีส่วนที่คล้ายสัญชาตญาณ เพียงแต่มันเป็นขั้วที่อยู่คนละฝั่งกัน ปัญญาญาณไม่ใช่การคิด การคิดเป็นเรื่องของสมองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปรีชาญาณ ปัญญาญาณเป็นปรากฏการณ์ผุดบังเกิดผ่านช่องทางหรือสภาวะที่เรียกว่า "สมาธิ" จิตที่มีสมาธิเปรียบดั่งการเคาะประตูเพื่อเข้าสู่ปัญญาญาณ ปัญญาญาณเป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ขอเพียงแต่ให้เรารู้ตัวทั่วพร้อมเท่านั้น หากสัญชาตญาณสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ปัญญาญาณก็สามารถดำเนินการได้เช่นกันผ่านจิตใจที่สะอาด ว่าง และปล่อยวาง ปรีชาญาณเปรียบเหมือนสะพานที่ทอดผ่านเพื่อให้เราก้าวข้าม แต่ก็มีคนที่ไม่ยอมก้าวข้ามสะพานนี้ พวกเขาพากันยืนอยู่บนสะพานและก็คิดไปเองว่าได้เดินมาถึงบ้านแล้ว
การใช้ปัญญาญาณกับการสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ปัญญาญาณนั้นคล้ายกับการใช้กระจกเงาสะท้อนบางสิ่งบางอย่างออกมา มันไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาใหม่ มันแค่สะท้อนสิ่งที่อยู่แล้วเท่านั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร เป็นสิ่งที่โลกตะวันออกเรียกว่า "ตาที่สาม" ซึ่งก็หมายความว่าเป็นสิ่งที่ใช้ดูว่ามีอะไรอยู่บ้าง ดวงตาไม่สามารถสร้างอะไรขึ้นได้ มันมีไว้เพื่อมองดูเท่านั้น
เป็นหนังสือที่ตอนอ่านบทนำแล้วรู้สึกว่าเราน่าจะชอบหนังสือเล่มนี้นะ แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่านี่มันอะไรกัน...อ่านไปแล้วรู้สึกว่าเนื้อหามันขัดแย้งกันเองสำหรับเรา มันไม่ได้เป็นหนังสือที่อ่านแล้วจะรู้สึกว่าเข้าใจและเข้าถึงปัญญาญาณมากขึ้น แต่ว่างงกับการอธิบายและตัวอย่างที่แตกต่างกันไปหมดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกคิดว่าอ่านเล่มนี้แล้วคงรู้สึกจิตใจสงบ และเข้าใจเนื้อหาได้จากการอธิบายแบบละมุนละม่อม ผลคือไม่ใช่เลย โชคดีที่เราไม่ได้ซื้อเล่มอื่นๆของเขามาเพิ่มเพราะเห็นว่ามีหลายเล่มมาก ดีใจที่เชื่อตัวเองว่าให้ลองอ่านเล่มนี้ดูก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประโยคที่เราชอบค่ะ
- "ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะเหมือนกับคนอื่นคนใดได้หรอก แต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง นี่เป็นเรื่องธรรมชาติของเชาวน์ปัญญา คนแต่ละคนนั้นไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ จงอย่าเปรียบเทียบตัวท่านกับคนอื่น ท่านจะเปรียบเทียบได้อย่างไรในเมื่อท่านก็คือตัวท่าน และคนอื่นก็คือคนอื่น คนเราไม่มีทางที่จะเหมือนกัน ดังนั้นการเปรียบเทียบจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย การเปรียบเทียบแสดงว่าเราไม่เคารพตัวเอง หากเรายังคงเปรียบเทียบต่อไป ในการเปรียบเทียบเหล่านี้ก็จะบดขยี้เรา"
- "เมื่อใดก็ตามที่ท่านตกอยู่ในสถานการณ์ที่พิศวงงงงวย และมองไม่เห็นหนทางใดที่จะก้าวออกไป จงอย่าใช้ความคิด เพียงอยู่นิ่งๆ พยายามอยู่ในสภาวะที่ไม่คิด แล้วปล่อยให้ตัวนำทางทำหน้าที่ของมัน ตอนเริ่มต้นท่านอาจจะรู้สึกกลัว ไม่มั่นคง แต่ภายในไม่ช้าท่านก็จะได้มาซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง ท่านจะรู้สึกเหมือนกับว่าท่านได้เดินผ่านมาถูกประตู เพียงแต่ท่านจะต้องรวบรวมความกล้า และท่านก็จะเห็นว่าท่านสามารถไว้ใจมันได้
ปัญญามาจากหัวใจ มันไม่ได้มาจากสมอง ปัญญามาจากส่วนที่อยู่ลึกสุดในตัวท่าน มันไม่ได้มาจากการคิด
จงวางหัวของท่านลง จงเป็นคนเลิกพะวงเรื่องหัว แต่เพียงตามติดสิ่งที่เรียกว่าชีวิตนี้ไป ไปที่ไหนก็ได้ที่มันนำท่านไป แม้ในที่ที่เห็นว่าเป็นทางเดินที่อันตราย เพราะมันจะกลับกลายเป็นเส้นทางสำหรับการเติบโตของท่าน จงตามมันไป จงไว้ใจมันและเดินไปบนเส้นทางนั้น"
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [