ช้อปปิ้งหนังสือลดราคา ตอนที่ 2


เล่มที่หก เร้นฟ้าจักรานิรันดร์ - ณ พิชา

"ผมจะไม่ห่วงอนาคต ไม่มองย้อนไปในอดีต ตอนนี้ผมอยู่กับคุณที่นี่"

อัสฌาไม่เคยคาดคิดว่านาฬิกาตายเพียงเรือนเดียวที่ได้รับจากลามะแห่งมองโกเลียจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปลี่ยนชีวิตเธอ นาฬิกาตายและรูปวาดกาลจักรมณฑลซึ่งถ่ายทอดคำสอนทางศาสนาอันลึกซึ้งนำทางเธอไปสู่เรื่องราวของนครในตำนานอย่างชัมบาลา ที่ซึ่งความรักยืนยงข้ามผ่านกำแพงแห่งกาลเวลา อัสฌาได้พบกับชายคนหนึ่งผู้เฝ้ารอจะได้พบเธออีกครั้ง จากจุดเริ่มต้นอันแสนไกลในอดีตกาล...จวบจนถึงวันนี้

บอกตามตรงว่าเราซื้อมาเพราะปกสวย และเห็นว่าได้รางวัลชมเชยจากแว่นแก้วด้วย เป็นชื่อรางวัลที่เราเองก็คุ้นหูอยู่ก็เลยเอามาด้วย การตัดสินใจซื้อรอบสองค่อนข้างรวดเร็วเพราะเรามีเวลาแค่ 15 นาทีในการเลือกและไปจ่ายเงิน อันไหนดูท่าว่าน่าสนก็หยิบๆมาใส่อ้อมแขนไว้ก่อน เป็นการเลือกซื้อหนังสือที่เร็วที่สุดในชีวิตแล้ว และด้วยความที่หลังปกมีคำว่าลามะ เราก็เลยตัดสินใจซื้อเพราะเราชอบหนังเรื่อง Seven Years in Thibet - เจ็ดปีโลกไม่มีวันลืม ที่เป็นเรื่องราวขององค์ดาไลลามะที่เราประทับใจมาก


เล่มที่เจ็ด เขียนฝันด้วยชีวิต ประชาคม ลุนาชัย

คิดดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ และยากยิ่งที่สรรพสิ่งอันน่าขบขันรอบกายผมในยามนี้ จะกลายเป็นจุดเริ่มของคนเขียนหนังสือผู้ประสบความสำเร็จ ผมกำลังต่อสู้อยู่กับความเป็นจริง งานเขียนที่ผมทำอยู่เป็นจริงเป็นจังยิ่งกว่าความฝันที่เคยวาดไว้ นี่คือของจริง เป็นภาพจริงของชีวิต และการส่งต้นฉบับไปยังนิตยสารก็เป็นความจริง ผมทดสอบตัวเองกับของจริง
.............................................................
บางคืนผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด มองเม็ดฝนกระทบผิวน้ำ ประกายที่กระทบแสงไฟและรอยแยกบนผิวน้ำที่เกิดขึ้นเพียงครู่ทำให้ผมฉุกคิด น้ำกระทบน้ำยังเกิดริ้วรอย สรรพสิ่งบนโลกใบนี้เมื่อขัดแย้งหรือกระทบกระแทกกัน ย่อมเกิดเป็นแผลลึกและเรื้อรังยาวนานยิ่งกว่า ความฝันกับชีวิตจริงของผมก็คล้ายกับเม็ดฝนกับผิวน้ำ ขัดแย้งบาดลึกเกิดเป็นแผลในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าม่านเม็ดฝนและน้ำเค็มใช้เวลาไม่นานก็ประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เหมือนความฝันในชีวิตของผมที่กลายเป็นเนื้อเดียวกับความจริงยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ผมอาจหนาวจนชาชิน เม็ดฝนที่กระหน่ำลงบนแผ่นหลังจึงกลายเป็นความอบอุ่น ราวกับว่าผมเดินฝ่าสายฝนมาตลอดชีวิต

แค่เห็นชื่อคนเขียน ชื่อเรื่องก็รับรู้ได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้ต้องออกแนวสู้ชีวิต พออ่านหลังปกก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องทรหด อดทน เจอกับปัญหานานาดาหน้าเข้ามาท้าทายชีวิตมหาศาลเลยทีเดียว เม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาถึงกลายเป็นความอบอุ่นได้ เราชอบงานเขียนเขามากเพราะทุกเรื่องจะมีความรันทด สลดหดหู่ของตัวละครที่ต้องพบเจอเรื่องราวแย่ๆ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเดียว มันมักจะซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สุดท้ายแล้วมันมีทางออกของชีวิต มันทำให้เรามองชีวิตตัวเราเองใหม่ ทำให้เราอยากใช้ชีวิตเราให้ดียิ่งๆขึ้น มีคุณค่ามากขึ้น เพราะเราเองไม่ได้ต้องประสบพบเจอเคราะห์กรรมหนักหนาอย่างเขา เราสามารถที่จะเริ่มได้ง่ายกว่า เป็นหนังสือที่เราพยายามตามอ่านให้ครบทุกเล่ม

เล่มที่แปด จุฬาตรีคูณ - พนมเทียน

อดีตกาลอันไกลโพ้น กระแสแพร้วเพริศเลื่อมเงาเงินประกายทองคู่หนึ่งไหลเรื่อยคู่ขนานกันมาจากดินแดนอันแสนไกล และวกใกล้เข้ามาบรรจบกันเป็นวังวนวิไลเงินและทองแซมไสวมิปะปน แหล่งนั้นบรรเจิดวิจิตรชวนฉงนเป็นยิ่งนัก คราใดเมื่อรัตติกาลไร้เดือน ก็ดูราวจะยิ่งเตือนให้งดงามเป็นทวีคูณ ด้วยว่าเห็นเป็นหัตถ์อสูรสอดศิลาเศวตมาทาบไว้กับฟ้าอินทนิล รวมกันเป็นสามกระแสสินธุ์ประเสริฐ ทิวาคล้อยผ่าน รัตติกาลเคลื่อนมาแทนที่ ธารน้ำทั้งสามเมื่อรับกับรัศมีดาว ก็ดูประหนึ่งจะสะท้อนระริกระเริงริ้วเล่นลมดึกอยู่ครึกครื้น บางครั้งสิเศร้าสลดสะอึกรันทดระทม ดั่งว่ามีวิญญาณวิปโยคสิงสถิตอยู่ ท่านผู้เจริญ แหล่งประหลาดนี้มีนามว่า จุฬาตรีคูณ

ในที่สุดเราก็ได้เล่มสุดท้ายของชุดจินตนิยายภารตะมาครอบครอง และเป็นเล่มแรกของชุดด้วย แค่อ่านหลังปกก็รู้สึกว่าท่าทางจะอ่านยากมาก เหมือนเป็นร้อยแก้วมากกว่านิยายเลย แต่ด้วยขนาดของเล่มที่บางเพียงนิดทำให้พอมีกำลังใจจะอ่าน (และเปลี่ยนหนังสือใน Book challenge จากปฐพีเพลิงเล่ม 1เป็นเล่มนี้ด้วยเลย)

เล่มที่เก้า แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี - เจ.เค โรว์ลิ่ง

แฮร์รี่ พอตเตอร์อยากจะหนีครอบครัวเดอร์สลีย์ไปดูควิดดิชเวิลด์คัพกับเฮอร์ไมโอนี่ รอน และครอบครัววิสลีย์ เขาอยากจะฝันถึงโช แชง (และบางทีก็อยากจะทำมากกว่าแค่ฝัน) เขาอยากจะรู้เหตุการณ์ลึกลับเบื้องหลังความบาดหมางระหว่างสองโรงเรียน และการประลองเวทที่ไม่ได้จัดมานานหลายร้อยปี เขาอยากจะเป็นเพียงพ่อมดอายุสิบสี่ปีธรรมดาๆ แต่โชคไม่ดีที่เขาแตกต่าง--แม้จะตัดสินด้วยมาตรฐานของพ่อมดก็ตาม และในกรณีนี้ ความแตกต่างอาจหมายถึงชีวิต

ที่เราซื้อมาเพราะตั้งใจว่าจะซื้อหนังสือเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ให้ห้องสมุดโรงเรียนที่บุรีรัมย์ เพราะเราเคยเอาหนังสือที่อ่านแล้วไม่ตรงใจฝากไปให้เด็กๆตั้งใหญ่ แล้วเมื่อเร็วๆนี้ผอ.โรงเรียนฝากบอกมาว่าหนังสือดีมากเลยมีอีกไหม ก็เลยว่าจะซื้อแฮร์รี่ให้เลยรอบนี้ เพราะเด็กๆคงจะชอบมาก แล้วดันมาเจอเล่มนึงลดราคาเหลือแค่ 120 เราก็ประหยัดงบไปได้เยอะเลย เหลือซื้ออีก 6 เล่มเท่านั้น

(เราเป็นพวกถ้าไม่ชอบหนังสือเล่มไหนก็ขอบริจาคดีกว่าเอาไปขายลด 50 เปอร์เซ็นต์ ทำใจไม่ได้ซื้อมาตั้งแพง อ่านทีเดียวใหม่กริบ ให้คนอื่นเอาไปอ่านยังจะดีซะกว่ามาขายลดราคา555)

เล่มที่สิบ กลองสังกะสี The Tin Drum - Gunter Grass

กึนเทอร์ กราสส์ นักเขียนชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เขียน The Tin Drum (กลองสังกะสี) เมื่อปี 1959 กราสส์ชำแหละประวัติศาสตร์ในช่วงปี 1925 - 1955 อย่างลึกซึ้งถึงแก่น ผ่านสายตาอันขมขื่นและกระตุ้นความรู้สึกของ ออสคาร์ มัทเซราท คนแคระ ผู้มีเสียงตีกลองอันบ้าคลั่งของวัยเด็กที่ถูกยับยั้ง ประสานเข้ากับความหวาดผวาที่เพิ่มขึ้นของชาวเยอรมนีและโปแลนด์ผู้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของนาซีได้อย่างเยี่ยมยอด

หนังสือจากนักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปี 1999 เล่มนี้ทำให้เราอยากอ่านขึ้นมาได้เพราะข้อแรกปกสวยดี สองอินกับหนังเรื่อง The book thief แล้วเล่มนี้ก็ตรงเผงเป็นเรื่องสงครามที่นาซีเข้ายึดครอง เราเลยอยากอ่านอยากรู้เรื่องราวเหตุการณ์ช่วงนั้นให้มากกว่าเดิม แต่ก็กลัวอ่านยาก อ่านนานกว่าจะจบ แต่ที่น่าสนใจคือมีคนแปลหนังสือระดับอาจารย์มาช่วยกันแปลถึง 3 ท่าน เพราะหนังสือเล่มนี้เขาว่าแปลยาก โอ้โห...จะไม่ให้เราอยากลองเอามาอ่านได้ยังไง

และแล้วก็จบครบสิบเล่ม เราก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เดินไปเมียงมองแล้วได้เล่มใหม่มาอีกเป็นรอบที่สาม! เรื่องการซื้อหนังสือไม่เคยเสียดายเงินเลย




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2562 10:34:24 น.
Counter : 811 Pageviews.

0 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - บุกคนสำคัญ : กะว่าก๋า
(1 ก.ค. 2568 04:20:36 น.)
๏ ... ตามเก็บงานเข้าบล้อกบ้านนกผี ... ๏ นกโก๊ก
(29 มิ.ย. 2568 19:45:12 น.)
19. รักพยศ : แสงหล้า ณ เวียงแก้ว สามปอยหลวง
(28 มิ.ย. 2568 16:10:46 น.)
สรุปรีวิว Home Lover ฤดูกาลแสนอบอุ่นกับคุณที่รักบ้าน สุดท้ายที่ปลายฟ้า
(24 มิ.ย. 2568 13:24:40 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด