BOOK HAUL เปิดตัวหนังสือไตรมาสที่สองของปี - หนังสือมือสองและหนังสือจากshopee
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีหนังสือที่ซื้อมาในไตรมาสที่สองของปีตั้งแต่เมษายนถึงมิถุนายนมาให้ชมกันค่ะว่าเราไปได้หนังสือเล่มไหนมาบ้าง ซึ่งรอบนี้ได้มาเยอะมากเพราะไปเจอบูธหนังสือลดราคาพอดีเลยซื้อมาเรื่อยๆจนงานวันสุดท้ายเลยทีเดียว แถมรอบนี้ยังเป็นช่วงที่เราต้องซื้อหนังสือครั้งใหญ่ประจำปีอีก รวมๆแล้วเราซื้อหนังสือรอบนี้ทั้งหมด ๕๔ เล่ม!!467 อ่านให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย มาดูกันค่ะว่าเราไปได้หนังสือเล่มไหนมาบ้างและทำไมเราถึงตัดสินใจซื้อมา289287
 
หมวดแรก หนังสือมือสอง ๘ เล่ม
 

เล่มแรก ทักษะความสุข - นิ้วกลม
จากพอดแคสต์ยอดนิยม 'ความสุขโดยสังเกต' ถูกเรียบเรียงและขัดเกลาใหม่เอี่ยมเป็นเล่มนี้ หนังสือที่จะพาคุณผู้อ่านไปสำรวจ 'ความสุข' ในหลายแง่มุมว่า ด้วยเหตุผลกลใดเราจึงสุขและทุกข์ผ่านมุมมองของจิตวิทยา วิทยาศาสตร์ สารเคมีในสมอง ความรัก กิเลส การจัดการเวลา สังคม ไปจนถึงดีเอ็นเอ เพื่อให้เห็นว่า ในส่วนหนึ่ง ความสุขฝึกกันได้ เราสามารถสร้างนิสัยของความสุขให้กับตัวเอง แต่ก่อนอื่น ต้องรู้ก่อนว่า 'ทักษะ' ที่ว่านั้นคืออะไร

เราเป็นแฟนหนังสือของพี่เขามานาน แล้วเล่มนี้หน้าปกก็ดึงดูดใจมาก ปกสวย สีโทนอบอุ่นกับภาพวาดน่ารักๆเหมาะกับชื่อหนังสือ แล้วเหตุผลที่ทำให้เรามีความสุขและทุกข์ผ่านมุมมองต่างๆที่หลากหลายก็ทำให้เราสนใจด้วย ซึ่งตอนแรกเราก็ได้ฟังพอดแคสต์  "ความสุขโดยสังเกต" บ้างแต่พอเห็นมีหนังสือออกมาแล้วบอกว่านำมาจากพอดแคสต์นี้เราก็เลยหยุดฟัง เพราะอยากมาอ่านแทน อ่านให้จบก่อนแล้วค่อยไปฟังย้อนหลัง ส่วนสาเหตุที่เราชอบหนังสือของพี่เขาก็เพราะว่าเขาเขียนอะไรให้อ่านง่ายดี อธิบายเห็นภาพ เรื่องยากๆก็เล่าให้เข้าใจง่าย แล้วเรื่องราวที่เขาเขียนก็มีความหลากหลายตามแต่ประสบการณ์ที่เขาได้ไปทำ หรือไปเจอมา และหลายๆเรื่องก็ทำให้ได้คิดและมองอะไรต่างออกไปจากที่เคย

เล่มที่สอง Untamed อย่ายอม - แกลนน็อน ดอยล์
"หนังสือเล่มนี้จะเขย่าสมอง และทำให้วิญญาณของคุณกรีดร้อง อ่านซะ ใช้ซะ ฝึกซะ" - Adele
เราไม่รู้ว่ากำลังถูกขัง จนกว่าจะใช้หัวใจมองไปรอบๆ คุกแห่งความสมบูรณ์แบบ ความกลัวผิดพลาด กลัวล้มเหลว ประกอบกลายเป็นลูกกรงทีละซี่...ทีละซี่... ดาวมหา'ลัย แต่งงาน สามีรวย ลูกดี มีชื่อเสียง มีเงินทอง ประกอบกลายเป็นโซ่ล่ามเท้าไว้ทีละข้อ ทีละข้อ... เกลนน็อน ดอยล์ ผู้เขียน เคยมีทั้งหมดนั้น เคยยิ้มร่าอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น เธอเป็นทุกสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน ยกเว้นอย่างเดียวคือเป็นตัวเอง
และนี่คือเรื่องราวการแหกกรงขัง กลับคืนสู่ป่าบริสุทธิ์ของใจตัวเอง ไร้กรอบ ไร้เพศ ไร้การตัดสิน ไร้คำอธิบาย สิ่งเดียวที่จำเป็นต้องใช้คือ "ความรู้สึก"
"ชีวิตนี้เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว ฉันจึงเลิกถามหาหนทางชีวิตจากคนอื่น เพราะพวกเขาไม่เคยมาที่นี่"

อยากซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะหน้าปกสีสันสะดุดตามาก แถมชื่อหนังสือก็ดึงดูดใจโดยที่ไม่รู้หรอกว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร แล้วพอได้อ่านเนื้อหาปกหลังก็รู็สึกว่าต้องไม่พลาด แล้วก็อยากรู้ว่าที่เขียนบนหน้าปกว่า ขายไปแล้วกว่าหนึ่งล้านเล่มเนี่ยมันน่าสนใจยังไง ซึ่งเนื้อหาในเล่มเป็นเหมือนการเล่าเรื่องมีตัวละครและเรื่องราวทำให้เรารู้สึกว่าอ่านง่าย เห็นภาพได้ชัด

เล่มที่สาม Leave your success law behind ฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ทิ้งเป็น -ชิราฮะ ทากาชิ
คุณเคยรู้สึกแปลกๆแบบนี้ไหม "ทำไมสิ่งที่ฉันเคยทำแล้วได้ผลมาตลอดตอนนี้กลับไม่ได้ผลแล้ว" "ทำไมงานที่เราเคยสนุกไปกับมัน กลับไม่ค่อยสนุกแล้ว" "ทำไมเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานด้วยกันได้ดี ตอนนี้อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอึดอัด" ถ้าคุณเคยรู้สึกแบบนี้ คุณไม่ได้ผิดปกติ แต่เป็นเพราะ "ช่วงชีวิต" ของคุณได้มาถึงจุดเปลี่ยนผ่านแล้ว และหากคุณต้องการให้ชีวิตเติบโตมากขึ้น คุณไม่อาจทำแบบเดิมๆได้อีกต่อไป เพราะวิธีคิดและวิธีการที่พาเรามาถึงจุดนี้ไม่มีทางพาเราไปสู่ "เป้าหมายที่สูงกว่า" ได้ คุณต้อง"ทิ้ง" วิธีการเก่าที่เมื่อก่อนเคยใช้ได้ผลไปเสีย

เล่มนี้บอกตามตรงว่าเราเข้าใจผิดจากชื่อหนังสือ ซึ่งเราคิดว่าเป็นการทิ้งข้าวของ แต่จริงๆมันไม่ใช่เลยและเราก็เคยรู้แล้วตอนที่อ่านรีวิวจากที่ไหนสักแห่งแล้วก็คิดว่าจะไม่ซื้อ แต่...เราดันลืม แล้วก็ไปซื้อมาจนได้ ซื้อมาแล้วก็คงต้องลองอ่านดูเผื่อจะถูกใจอย่างไม่น่าเชื่อก็ได้


เล่มที่สี่ Because of Mr. Terupt ห้องเรียนมิสเตอร์ทีกับปีต้องมนตร์ - ร็อบ บูเย
เด็กห้องผมแต่ละคนนี่ใช้ได้เลย ผมต้องรับมือกับอะเล็กเซียอีกครั้งพร้อมพู่ขนนก เสื้อผ้าลายเสือและกระเป๋าถือติงต๊องของเธอ ผมสงสัยว่าปีนี้เธอจะใช้เครื่องสำอางชนิดไหนแต่งหน้า เธอโง่ชะมัด คิดว่าตัวเองเป็นดาราฮอลลีวู้ดหรืออะไรสักอย่าง แล้วก็ลูค ผมไม่ถือเขาหรอก เขาก็แค่ฉลาดและจริงจังเรื่องโรงเรียน แดเนียลก็อยู่ห้องเดียวกับผม เธออ้วนน่ะ แล้วยังมีปีเตอร์ เด็กฉลาด แสนรู้ทุกเรื่อง ผมอยากฟ้องแทรัปต์ว่าปีเตอร์ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในห้องน้ำ เพราะเขาก่อกวนคนอื่นไปทั่ว แต่แทรัปต์อ่านเกมออก ถึงเขาจะเพิ่งมาใหม่ แต่ก็ดูฉลาดใช้ได้เลยละ ผมไม่อยากให้เขาพยายามอ่านผม ผมทำตัวไม่ดีเวลาอยู่โรงเรียน เพราะโรงเรียนน่ะห่วยแตกจะตาย
นี่คือจุดเริ่มต้นของปีการศึกษาใหม่ ณ โรงเรียนสโนว์ฮิลล์ ปีที่ครูคนใหม่ต้องมารับมือกับกลุ่มเด็กแสนเซี้ยวชั้นป.๕ ผู้ไม่เคยมองโรงเรียนในแง่ดีเลยสักครั้ง

เล่มนี้เป็นเล่มที่เราเล็งมานานว่าจะซื้อ เพราะชอบอ่านวรรณกรรมเยาวชนมากอ่านแล้วมันอบอุ่นใจดี เล่มนี้ก็ดูน่าสนใจที่คุณครูคนใหม่จะมารับมือเด็ก ๗ คนแสนเซี้ยวเหล่านี้อย่างไรถึงได้ใจเด็กๆไป เรื่องราวน่าจะสนุก และอบอุ่นใจในคราวเดียวกัน ซึ่งเนื้อหาภายในเล่มจะเล่าเรื่องราวโดยเด็กทั้ง ๗ คนในห้องเรียนทำให้เราคิดถึงหนังสือเรื่องออกัสต์ ซึ่งใช้วิธีให้ตัวละครแต่ละตัวออกมาเล่าเรื่องราวเอง แล้วทำให้เราเห็นมุมมองความคิด และเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขาซึ่งเป็นหนังสือรักของเราเลย ส่วนเล่มนี้ท่าทางว่าจะเป็นน้องรักไปอีกเล่ม


เล่มที่ห้า The witcher II Time of contempt  ช่วงเวลาแห่งการปรามาส - Andrzej Sakowski 
สงครามครั้งใหญ่อุบัติขึ้นแล้ว เกรอลท์ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตของเขาและผู้ที่เขาให้ความสำคัญอย่างไม่อาจคาดถึง เกรอลท์คือวิทเชอร์ผู้แข็งแกร่ง เขาปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งยังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่แสนชั่วร้ายในช่วงเวลาอันมืดมิด หน้าที่ของเขาในตอนนี้คือการปกป้องซิริ บุตรแห่งโชคชะตา ผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นหรือเลวร้ายลงได้
ทว่ากลับเกิดการทรยศในหมู่จอมเวท สงครามแผ่ขยายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เกรอลท์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะทำอย่างไร เมื่อพบว่า ซิริ ผู้กุมชะตากรรมของโลกใบนี้ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...

เป็นเล่มที่เราเห็นว่าเขาเพิ่งวางแผงตามหน้าร้านได้ไม่กี่วันสักพักก็มีคนมาขายเลย เราก็เลยจัดมา ทั้งๆที่เรามีแค่เล่มแรกเล่มเดียวส่วนเล่มนี้เป็นเล่มที่สี่ สำคัญคือไอ้เล่มแรกยังนอนอยู่ในตู้พร้อมซีลอย่างเรียบร้อย ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องราวของหนังสือเลยนอกจากเรื่องราวคร่าวๆที่สำนักพิมพ์ลงให้อ่าน และเราก็ไม่ได้อ่านหมดเพราะไม่รู้เรื่อง555มันดูซับซ้อน ตัวละครเยอะ แต่ก็เสี่ยงซื้อมาอ่านและต้องไปซื้อเก็บเล่มก่อนๆด้วยจะได้อ่านเล่มนี้ได้ และหวังอย่างสุดใจว่าจะสนุกนะ เพราะเราชอบอ่านแนวแฟนตาซีมากแต่ก็เจ็บมาเยอะไม่ค่อยมีเรื่องไหนที่ซื้ออ่านจนจบ จนทำให้เราคิดเยอะเวลาที่จะซื้อเล่มใหม่ๆ 


เล่มที่หก เรือนพะยอม - รอมแพง
แม้จะไม่อยากเชื่อแต่ทุกอย่างก็ทำให้วฤกษ์เชื่อว่า หัวใจของเขาและเธอเป็นของกันและกันมาตั้งแต่อดีตชาติ คำสัญญาและสัตย์สาบานที่หัวใจของเขามั่นคงต่อรักเธอ เป็นสายสัมพันธ์ที่ทำให้เขาและเธอได้กลับมารักกันใหม่อีกครั้ง หากคราวนี้เขาไม่มีวันพรากจากเธออีกต่อไป ความเจ็บปวดครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว เมื่อเธอคือหัวใจของเขา เขาจะปกป้องและรักเธอด้วยหัวใจรักของเขาทั้งหมด

เห็นเป็นรอมแพงเราก็เลยสนใจ เพราะเคยอ่านเล่มพรหมลิขิตที่ยืมเขามาอ่านแล้วรู้สึกชอบแม้ว่าช่วงท้ายของเรื่องที่เล่าที่มาที่ไปจะน่าเบื่อปนน้ำเน่าไปหน่อย แต่เล่มนี้อ่านดูเรื่องราวน่าสนใจ รีวิวที่ดูมาก็ดี ช่วงที่เขาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในเล่มก่อนก็น่าสนใจ มีหลายเรื่องที่เราได้เรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งหนังสือเล่มนี้เราเพิ่งรู้ว่าเขามีทำเป็นละครด้วยตอนมานั่งเขียนรีวิวนี่เอง เหมือนจะได้ดูผ่านๆอยู่แต่ไม่มีผลต่อการอ่านหรอกค่ะ เราเป็นพวกความจำสั้น555 อีกอย่างคือไม่รู้ต้องนอนรอในตู้ไปอีกนานแค่ไหนกว่าเราจะเอามาอ่าน ป่านนั้นน่าจะลืมไปแล้วว่าเคยทำเป็นละครด้วยซ้ำ


เล่มที่เจ็ด The unlikely pilgrimage of Harold Fry ความตายครั้งที่มีความหมายมากที่สุด - เรเชล จอยซ์
วันหนึ่งมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงฮาโรลด์ ฟราย ชายวัยเกษียณผู้อาศัยอยู่กับภรรยาในหมู่บ้านเล็กๆของอังกฤษ บนซองระบุผู้ส่งว่า ควีนนี เฮนเนสซี อดีตเพื่อนร่วมงานที่เขาไม่รู้ข่าวคราวและไม่ได้เจอกันนานกว่ายี่สิบปี เนื้อความในจดหมายบอกว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และเหตุที่เธอเขียนจดหมายหาเขาก็เพื่อที่จะ "บอกลา"
เขาเขียนจดหมายตอบกลับ แต่เปลี่ยนใจขณะยืนอยู่หน้าตู้ไปรษณีย์ก่อนที่จะตัดสินใจออกเดินด้วยระยะทางเกือบหนึ่งพันกิโลเมตร เพื่อนำจดหมายฉบับนั้นไปส่งให้ถึงมือควีนนีด้วยตัวเอง คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ อะไรทำให้ฮาโรลด์คิดว่าตัวเขาจะทำสำเร็จ ไม่มีใครรู้หรอกว่าการเดินทางที่แสนยาวไกลนี้จะจบลงที่จุดหมายปลายทางหรือจะยอมแพ้แล้วกลับไปยังจุดตั้งต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ฮาโรลด์มีคือ "ความศรัทธา" ด้วยความเชื่อที่ว่า หากเดินหน้าไปเรื่อยๆยังไงเขาก็ต้องไปถึงสักวัน

เล่มนี้เราก็สนใจมานานตั้งแต่ยังเป็นปกเก่า พอเปลี่ยนปกใหม่ก็เลยได้ซื้อ ซึ่งสภาพน้องค่อนข้างมอมแมมมาก ตอนที่ดูภาพที่เขาส่งมามันดูไม่แย่ขนาดนี้นะ555 แล้วก็เพิ่งไปดูภาพที่เขาส่งมาอีกทีตอนเขียนรีวิว โอเคเลยไม่มีภาพหน้าปกซึ่งเลอะมากเป็นพิเศษนี่เอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เราสนใจหนังสือเล่มนี้เพราะอย่างแรกคือชื่อเรื่องเลย มันดึงดูดใจมาก พออ่านปกหลังก็อยากรู้ว่าอะไรทำให้ฮาโรลด์ตัดสินใจเดินไปส่งจดหมายด้วยตัวเองแทนที่จะส่งไปรษณีย์ไป และควีนนีมีความสำคัญต่อเขายังไงถึงกับต้องไปหาด้วยตัวเอง และที่สำคัญคือเรื่องราวระหว่างการเดินเท้าคงจะน่าสนใจมาก แล้วก็อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาไปถึงไหมและไปทันเวลาไหม

เล่มที่แปด ร้านขายเวลา - คิมซ็อนย็อง
ขอเชิญทุกท่านเข้าสู่ "ร้านขายเวลา" สถานที่รับฟังคำขอพิเศษจากคุณ เรื่องราวของอนโจ เจ้าของร้านขายเวลาในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ร้านที่เปิดขึ้นเพื่อช่วยสานฝันของพ่อที่จากโลกใบนี้ไปแล้ว ร้านขายเวลาแห่งนี้มีเงื่อนไขสี่ข้อสำคัญคือ หนึ่ง ปฏิเสธสิ่งที่เกินความสามารถของตัวเอง สอง ไม่ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สาม เลือกเรื่องที่ช่วยปลอบประโลมลูกค้าได้แม้แต่น้อยก็ยังดี และสี่ เหนื่อสิ่งอื่นใดคือเลือกงานที่ทำให้เวลากลายเป็นเงินได้จริง เมื่อเวลาไหลไปตามธรรมชาติ และไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไข ร้านขายเวลาจะช่วยให้เราเห็นคุณค่าของเวลา และทุกอย่างที่ทำลงไปอย่างแท้จริง

เล่มนี้เราซื้อเพราะปกสวยเลย ปกดูน่ารัก อบอุ่น เรื่องราวจากปกหลังก็ดูน่าอ่านมาก แต่มีคนออกมารีวิวในช่วงนี้บ่อยๆว่าชื่อเรื่องกับเนื้อเรื่องไม่ตรงปกและไม่น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากบทสัมภาษณ์ที่ท้ายเล่มซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากเป็นนักเขียน พอได้อ่านรีวิวแนวนี้หลายครั้งก็เริ่มหวั่นไหวแต่ถามว่ายังจะซื้อไหมถ้าสมมุติว่ายังไม่ได้ซื้อมา คำตอบคือก็ซื้อแหละเพราะปกสวย ชื่อเรื่องก็น่าสนใจ555 ส่วนผลจะตรงกันกับคนอื่นไหมค่อยว่ากันอีกที




หมวดที่สอง หนังสือมือหนึ่งที่ซื้อจาก shopee ๒ เล่ม


เล่มแรก The human comedy ความสุขแห่งชีวิต – William Saroyan
“ความสุขแห่งชีวิต” The human comedy ทำให้เราได้เห็นความดีงามของมนุษย์ ได้เห็นความเลวร้ายของสงครามที่ก่อให้เกิดความสูญเสียและความตาย ได้เห็นความจริง ความดี ความงาม ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ และความเข้าใจชีวิต
“ความสุขแห่งชีวิต” The human comedy ไม่ได้เหมาะสำหรับเยาวชนเท่านั้น ยังเหมาะกับผู้ใหญ่ด้วย สำหรับผู้ที่ต้องประสบกับความสูญเสีย และความไม่เข้าใจต่อเหตุการณ์หลายๆอย่างในชีวิต เชื่อว่าหนังสือเล่มเล็กๆเรื่องนี้อาจช่วยให้มีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไม่ทุกข์จนเกินไปนัก
สำหรับเยาวชนที่ได้อ่าน จะได้เรียนรู้ทัศนคติอันดีงาม รู้จักการรัก การให้ และการใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข

เป็นหนังสือที่เราสะดุดตากับภาพปกก่อนเพราะปกสวย และน่าสนใจดูสื่อถึงเรื่องราววิถีชีวิตตัวละครภายในเล่ม ซึ่งเราเห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกจากคนที่มาลงขายมือสองแต่บวกลบราคากับค่าส่งแล้วยังไม่ถูกใจเลยไปหาเอาที่อื่นจนเจอที่ช้อปปี้ ซึ่งเป็นปกเก่าสภาพ ๗๐% แต่ราคาถูกกว่าและภาพปกเป็นภาพเดียวกันเราก็เลยซื้อมา ซึ่งเนื้อเรื่องดูน่าสนใจมาก เราชอบอ่านเรื่องที่มีกลิ่นอายสงครามและมีเนื้อหาสะท้อนเรื่องราวต่างๆอย่างที่ปกหลังบอกไว้ อ่านแล้วมันทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการใช้ชีวิตดี แล้วก็ไม่ประมาทกับชีวิต ไม่ฟุ่มเฟือย

เล่มที่สอง Papa you’re crazy ฟ้ากว้างทางไกล - William Saroyan
เรื่องราวระหว่างพ่อนักเขียนกับลูกชายวัย ๑๐ ขวบ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันอยู่ “พีท” วัย ๑๐ ขวบจึงได้ไปอยู่กับพ่อที่บ้านริมหาดมาลีบู เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ลูกชายตั้งคำถามกับพ่อมากมาย พ่อสอนลูกด้วยการสนทนา ด้วยคำถามและคำตอบ...
พ่อรู้ดีว่าบางครั้งผมโกรธพ่อ และบางทีก็ถึงกับเกลียด เพราะพ่อบอกผมเองขณะที่ผมคิดว่ามันเป็นความลับ พ่อพูดถึงมันราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา พ่อบอกว่าเป็นธรรมดาที่บางครั้งลูกชายจะเกลียดพ่อ และอาจจะเกลียดแม่ด้วย และบางทีก็เกลียดคนทั้งโลก
“ถ้าลูกรักได้” พ่อว่า “ลูกก็เกลียดได้” “แน่นอน เวลาส่วนใหญ่ลูกจะรัก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกเกลียดด้วย ความเกลียดเป็นอารมณ์ที่เป็นประโยชน์มากทีเดียว ถ้าคนเราเข้าใจมัน”
“ฟ้ากว้างทางไกล” Papa you’re crazy เป็นหนังสือเล่มเล็กๆบางๆแต่งดงาม พ่อแม่แยกกันอยู่ ลูกชายอยู่กับแม่ และมาพักกับพ่อในช่วงฤดูร้อนทั้งสองได้รู้จักตัวตนจริงๆของพ่อ พ่อวาดภาพชีวิตอนาคตที่สดใสของลูก ลูกชายจะซึมซับสิ่งที่พ่อสอนได้หรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับที่ผู้เขียนได้ให้ข้อคิดแก่ผู้เป็นพ่อแม่หรือกำลังจะเป็นพ่อแม่ว่าควรแนะนำลูกหลานอย่างไรเกี่ยวกับความงดงามและคุณค่าของการใช้ชีวิต

เราซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะอย่างแรกคือปกสวย เนื้อเรื่องน่าสนใจ และอีกอย่างคือเพื่อความคุ้มค่าในการสั่งซื้อ ซื้อทั้งทีจะซื้อเล่มเดียวก็กะไรอยู่เลยหาดูเล่มอื่นๆด้วยแต่ถูกใจแค่เล่มเดียวคือเล่มนี้ ซึ่งคิดว่าสิ่งที่พ่อของพีทสอนในเล่มนี้น่าจะเป็นอะไรที่สนใจดี แล้วเราก็ไม่เคยอ่านหนังสือของนักเขียนคนนี้มาก่อนด้วย

284มีใครได้อ่านเล่มไหนไปบ้างไหมคะ มารีวิวให้ฟังหน่อยว่าสนุกไหม99



 
 



Create Date : 24 มิถุนายน 2565
Last Update : 30 มิถุนายน 2565 17:14:32 น.
Counter : 748 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด