รีวิวหนังสือ "The moon is down รักระหว่างรบ - John Steinbeck"
เรื่องราวสงครามที่ชาวเยอรมันเข้ามายึดนอร์เวย์ เป็นสงครามของการยึดครองเหมืองถ่านหินอันมีค่าที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งชาวบ้านทุกคนรักอิรสะเสรี และเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขตลอดมา จนกระทั่งวันที่เหล่าทหารมากมายบุกเข้ามาเพื่อทำการยึดเมืองเล็กๆที่มีผู้คนเพียงน้อยนิดที่ไม่มีทีท่าว่าจะทำการต่อสู้ใดๆ จนกระทั่งพวกเขาถูกกดขี่ให้ทำงานในเหมืองถ่านหินอย่างหนัก จำกัดเสบียงอาหารให้ผู้คนอดอยาก แต่ทำอย่างไรชาวบ้าน ชาวเมืองเหล่านี้ก็ยังคงเข้มแข็ง แม้ภายนอกพวกเขาจะยอมทำตามคำสั่ง เพราะเกรงว่าจะถูกลงโทษเช่น การยิงทิ้งกลางลานหมู่บ้าน ที่พวกทหารทำตั้งแต่เริ่มเข้ามาเพื่อให้ทุกคนหวาดกลัวจนต้องทำตามคำสั่งและไม่ทำตัวแตกแถวหรือแข็งข้อ แต่แววตาที่แฝงไว้ซึ่งความโกรธแค้นจากอิสระชนผู้รักความสงบที่ต้องมาทนทำงานหนักตามคำสั่งของผู้รุกราน ก็ยังแฝงด้วยการไม่ยอมแพ้และพร้อมต่อสู้กลับทุกเมื่อ เพราะพวกเขามีนายกเทศมนตรีออร์เด็นที่อยู่เคียงข้างประชาชนและเข้าใจอิสระชนที่เขาเป็นผู้นำมาอย่างยาวนานและพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนของพวกเขาเสมอแม้ว่าในใจหนึ่งเขาเองก็หวาดกลัวต่อสถานการณ์เช่นเดียวกัน
เป็นเรื่องราวที่เขียนให้เราได้เห็นมุมมองความคิดจากทั้งสองฝ่าย คือผู้ที่เข้ามายึดครอง และผู้ถูกยึดครองซึ่งฝ่ายแรกก็ใช้วิธีการในการออกคำสั่งให้ทำตามสิ่งที่ตนต้องการ หากไม่ได้ดังที่ต้องการก็มีการลงโทษอย่างหนักให้เห็นเป็นตัวอย่างเพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ใช้คำสั่งและกำลังในการเอาชนะ และในขณะที่ฝ่ายหลังที่ต้องยอมทำตามคำสั่งเพราะเกรงจะถูกลงโทษ แต่ด้วยความคิดและความเชื่อมั่นที่มีมาแต่เดิมถึงความเป็นอิสระและความเข้มแข็งในชุมชนทำให้แม้จะต้องยอมทำตามคำสั่ง แต่ก็ใช้จิตวิทยาในการไม่ยอมพูดกับฝ่ายตรงข้าม มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรจนทำให้เหล่าทหารมากมายเป็นบ้าจากการหวาดระแวงผู้คนที่พวกเขากดขี่ รู้สึกเหมือนว้าเหว่ เหงาที่ต้องจากบ้านและชาวเมืองไม่ยอมพูดจาด้วย แล้วในเรื่องบทเปิดตัวนายกเทศมนตรีก็ดูบุคลิกไม่ได้ดูดีอะไรมากมาย ดูน่าตลกแต่พอมาเข้าถึงเรื่องที่เขายืนยันว่าไม่อาจออกคำสั่งได้เพราะที่นี่ต้องรับฟังความเห็นของทุกคนและตัดสินใจร่วมกัน รวมถึงการกระทำอีกหลายๆอย่างทำให้หลงรักออร์เด็น มันแสดงความปกติ ธรรมดาของชีวิตคน บุคลิกที่แตกต่างความไม่สมบูรณ์ของแต่ละคน แต่พอเป็นเรื่องหน้าที่ของเขาแล้วเขาทำดีมาก ตัดสินใจดีมาก
และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันก็ทำให้เราเห็นว่าสงครามไม่ทำให้เกิดอะไรที่ดีขึ้นมาเลยทั้งผู้รุกรานเองก็คิดถึงครอบครัวของพวกเขา และผู้ถูกรุกรานก็บอบช้ำอย่างหนัก ซึ่งในเรื่องก็จะมีพันเอกแลนเซอร์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามแต่ผ่านสงครามมาหลายต่อหลายครั้งได้พูดไว้น่าสนใจหลายตอนมากๆเกี่ยวกับสงครามให้ลูกน้องฟังซึ่งเราก็ชอบมาก
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [