รีวิวหนังสือ "The paper menagerie and the other stories ในระลอกกาลและเรื่องสั้นอื่นๆ - Ken Liu"

อีก ๗ เรื่องสั้นต่อจากเล่มแรก "สวนสัตว์กระดาษและเรื่องสั้นอื่นๆ" ที่ยังคงความมีเนื้อหาเกี่ยวกับไซไฟ โลกมนุษย์ที่พัฒนาทางวิทยาศาสตร์ไปไกลและมีการส่งยานออกไปหาโลกใหม่ แต่เรื่องราวภายในก็ยังมีเรื่องราวของจิตใจมนุษย์ การเมือง ประวัติศาสตร์ที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้คน รวมถึงคติ ความเชื่อและเทพเจ้ากวนอูของชาวจีน ซึ่งเรื่องที่เราชอบมากที่สุดในเล่มนี้ชื่อว่า "หลากรสลึกล้ำ" เป็นเรื่องราวของชาวจีนที่หนีความยากลำบากมาหาชีวิตใหม่ด้วยการมาทำงานหาทองคำที่อเมริกา แต่ชีวิตไม่ได้เป็นเหมือนที่คิด ตั้งแต่การต้องทนอุดอู้อยู่ใต้ท้องเรือ ภายในห้องระวางที่มืดสนิทและถูกล็อคจากด้านนอกและเตียงนอนคับแคบ ซึ่งนานๆทีกัปตันจะให้ออกมาสูดอากาศภายนอกได้ เมื่อถึงแผ่นดินก็เจอคนจีนที่ใจเป็นต่างชาติไปแล้วกดขี่ค่าแรง และเอาเปรียบจนแทบไม่ต้องหวังที่จะมีเงินเก็บหรือมีโอกาสกลับบ้านได้อีก

แต่ก็มีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า "เหล่ากวน" ที่ชักชวนผู้คนที่อยากออกไปจากงานหนักในการเจาะภูเขาเพื่อวางทางรถไฟ งานที่ทั้งหนักทั้งเหนื่อยด้วยเครื่องมือธรรมดาที่ต้องออกแรงแทบตาย และถูกขึ้นค่าอาหารอาทิตย์ละหลายรอบให้ไปหาทางทำกินกันเอาใหม่จนได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม แม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่อดอยากและมีเงินเก็บอยู่บ้าง เมื่อพวกเขาทุกคนอยู่กันอย่างประหยัด อดออมถึงที่สุด บ้านหลังเล็กๆที่เช่าอยู่ก็อัดกันอยู่มากมาย รวมถึงขยันทำหากิน และได้เจอกับ "ลิลี่" เด็กหญิงข้างบ้านที่คอยมาหาเหล่ากวนและให้เขาเล่าเรื่องราว "เทพเจ้าอวนอู" ให้ฟัง หลังจากที่เขานั่งทำแผลถูกยิงที่แขนอยู่ที่บ้านและอ้างถึงเหตุการณ์ที่กวนอูเจอทำให้เธอสนใจเรื่องนี้และคอยให้เขาเล่าให้ฟังจนกว่าจะจบ และที่สำคัญคือเธอยังได้เป็นพยานในศาลให้เขาในวันที่โดนข้อหาฆ่าคนตาย ในวันที่สองอันธพาลหวนกลับมาที่เมืองอีกหลังจากสร้างเรื่องจนเมืองเก่ามอดไหม้ไปทั้งเมืองและมาหาเรื่องพวกคนจีนระหว่างที่ขุดทองและอ้างสิทธิ์ในทองที่พวกเขาลงแรงหากันมาตลอด ซึ่งตอนนั้นเด็กหญิงแอบหลบอยู่หลังพุ่มไม้ฟังคนจีนข้างบ้านร้องเพลงไป ทำงานกันไปอย่างสนุกสนาน

แต่จากเหตุการณ์นั้นก็ทำให้เธอได้เป็นแขกตัวน้อยที่บ้านของเหล่ากวนเสมอมา และทำให้พ่อของเธอก็พลอยเป็นแขกไปด้วย พวกเขาได้รับรู้ความยากลำบากที่คนจีนเหล่านี้ต้องพบเจอทั้งที่เมืองจีนจนต้องมาหางานทำเอาที่ต่างแดนอันแสนไกล ทึ่งในความขยันขันแข็ง ทรหดอดทนทำงานหนัก ได้ฟังเรื่องราวของเทพเจ้ากวนอูที่คนจีนนับถือ ได้ชิมรสชาติอาหารกลิ่นฉุน ยั่วน้ำลายและเผ็ดร้อนของหม่าล่า และรู้จักเทศกาลตรุษจีนที่ผู้คนจำนวนมากได้มาร่วมงานและลิ้มรสอาหารจีนที่พวกเขาตั้งใจทำแจก และเห็นถึงน้ำใจไมตรีที่เหล่าคนจีนมีให้ไม่ใช่เป็นคนงก ไม่ชอบใช้จ่าย และแย่งงานชาวบ้านโดยการจ่ายค่าแรงถูก เพราะเหล่ากวนมีวิธีการในการจัดการของเขาซึ่งคนจีนรับงานซัก รีดในราคาไม่แพงจนทำให้หลายคนมองว่าเขาไปแย่งงานคนอื่น ในระหว่างฤดูที่พวกเขาไปขุดทองไม่ได้ โดยการปลูกผักสด สะอาด คุณภาพดีในพื้นที่ดินที่ไม่น่าจะปลูกอะไรได้ข้างบ้านซึ่งผู้คนต่างๆล้วนทำไม่ได้และต้องซื้อในราคาแพงไปเร่ขายในราคาถูกถึงหน้าบ้าน 

 

หนังสือเล่มนี้คนแปลบอกว่ามันหนักหน่วงและหม่นเศร้ากว่า แต่สำหรับเรารู้สึกว่าเล่มแรกมันหนักกว่า เล่มนี้มันมีเรื่องที่หม่นๆแต่มันบาดจิตบาดใจเหมือนเล่มแรกสำหรับเรา แต่ก็ยังมีเรื่องที่เชลยถูกทรมานอย่างน่าเวทนาอยู่เช่นกันแต่ที่มันไม่ทำให้เรารู้สึกหนักอึ้งในใจคงเป็นเพราะเขาปูเรื่องมาแต่แรกแล้วว่ามันอยู่ในช่วงสงครามที่ญี่ปุ่นมายึดครอง มันไม่ได้หักมุมมาเจอ รู้สึกว่าเรื่องราวที่ไม่คาดคิด และแต่ละเรื่องอ่านง่ายกว่าเล่มแรกแต่ยังคงได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ต่างๆเช่นเคย



Create Date : 27 พฤษภาคม 2565
Last Update : 5 มิถุนายน 2565 21:35:08 น.
Counter : 337 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด