Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 3651244 - รีวิวหนังสือ "Leave your old success law behind ฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ทิ้งเป็น

รีวิวหนังสือ "Leave your old success law behind ฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ทิ้งเป็น - ชิราอะ ทากาชิ"

หนังสือที่ทำให้เราเลิกยึดติดกับวิธีการเดิมๆที่ทำแล้วเคยได้ผลมาตลอด และให้เราได้ลองทบทวนชีวิตตัวเองว่าตอนนี้เราอยู่ในภาวะไหน และถ้าอยากให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปเราควรทำอย่างไร เพราะชีวิตทุกคนย่อมมาถึงจุดเปลี่ยนเสมอและความคิด ความต้องการก็ย่อมเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและการเติบโตของตัวเราเพราะ "สมการความสำเร็จ" ของคนเรานั้นแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงชีวิต

ซึ่งหนังสือมีบทนำ และเนื้อหาอีกห้าบทด้วยกัน โดยบทนำจะพูดถึงการไม่มองข้ามสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของชีวิตเช่น การที่ชีวิตเริ่มหยุดนิ่ง และการละทิ้งสิ่งต่างๆเพราะ พอ"ทิ้ง"สิ่งหนึ่งไปก็จะมีสิ่งใหม่เข้ามา ยิ่งทิ้งไปเท่าไหร่ก็จะมีที่ว่างให้สิ่งใหม่ๆเข้ามามากขึ้นเท่านั้น รวมถึงการลองเลือกสี ทรงผม เส้นทางการเดินทางที่ไม่เคยเลือกมาก่อน ซึ่งเราจะยกเอาข้อความบางส่วนที่เราชอบในแต่ละบทมาให้ได้ลองอ่านกันค่ะ

บทที่ ๑ "ฝึกทิ้งกันเถอะ" - "สิ่งที่พาคุณมาถึงจุดนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะพาคุณไปสู่จุดหมายข้างหน้า ต่อเมื่อทิ้งตัวเองในอดีตไป คุณจึงจะพบว่าตัวเองสามารถไปยังที่ที่แม้แต่ตัวเองก็ยังจินตนาการไม่ถึงเลยทีเดียว, ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิตหรือเรื่องธุรกิจ ต่างก็มีกฎเกณฑ์ที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆอยู่ หากคุณรู้สึกว่าชีวิตเริ่มหยุดนิ่ง เริ่มรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้มันไม่ใช่ ผมอยากให้ลองถามตัวเองดูว่า "สิ่งที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้คือสิ่งที่ฉันควรเป็นจริงๆในตอนนี้หรือเปล่า", "อย่าขายเวลา แต่ให้ขายคุณค่าของตัวคุณ เงินทองที่คุณได้มาคือ เครื่องหมายของความรู้สึกขอบคุณจากคนบนโลกใบนี้ สิ่งที่เราทำเป็นประโยชน์กับใครสักคน มีคนที่รู้สึกขอบคุณงานนี้อยู่ การคิดแบบนี้ทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นในขณะที่ทำงาน ความสุขและความภาคภูมิใจก็จะแสดงออกมาทางสีหน้าแววตา แล้วการทำงานก็จะราบรื่นมากขึ้น โอกาสทางการเงินการงานก็จะดีขึ้น

บทที่ ๒ "ฝึกให้รู้ว่าอะไรคือ "สิ่งที่คุณต้องการ" - ความสามารถของคนเราจริงๆ แทบไม่ต่างกันหรอก แต่ผลที่ได้น่ะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนโฟกัสที่จุดไหน และหากเราโฟกัสกับอะไรสักอย่าง และโฟกัสอย่างต่อเนื่อง ชีวิตและผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เคล็ดลับคือ ไม่ใช่แค่คิดว่า "จะทำอะไร" แต่ต้องคิดด้วยว่า "จะไม่ทำอะไร"

บทที่ ๓ ใช้ "ความเป็นตัวเอง" ให้เป็นอาวุธ - ไม่ว่างานของคุณจะเป็นอะไร หากคุณอยากประสบความสำเร็จในงานที่ทำอยู่ ก็ต้องทำให้คนคิดว่า "อยากซื้อของจากคุณ!" หรือ "อยากให้คุณเป็นคนรับผิดชอบงานนี้!" ในการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ จุดเริ่มต้นก็คือ "การยอมรับในคุณค่าของตัวเอง" ใช่แล้วในโลกธุรกิจนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า "สินค้าหรือบริการนั้นคืออะไร" แต่คือ "ใครเป็นผู้เสนอสินค้าหรือบริการนั้น" ต่างหาก อาวุธสำคัญก็คือ "การเป็นตัวเอง" ,ผมเคยได้ยินที่เขาพูดกันว่าโชคก็คือ "อารมณ์" มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ การทำ "อารมณ์" ให้ดีเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณให้ไปในทิศทางที่ดี ,ในชีวิตคนเรานั้นมีโอกาสมากมายให้ได้เรียนรู้ และในบางครั้งก็มีสถานการณ์ที่ทำให้เราได้เริ่มทำอะไรบางอย่าง ในเวลาเช่นนั้น หากเราไม่เอาแต่รับสารเข้า (input) แต่ยังรู้จักเอาต์พุตสิ่งที่เราได้ฟูมฟักและความนึกคิดของเราออกไปบ้าง การเรียนรู้และการเติบโตของเราจะแตกต่างจากการเอาแต่อินพุตเข้าอย่างเดียวอย่างเทียบไม่ติดเลยละ ,เอาพต์พุตอย่างต่อเนื่อง แล้ววันหนึ่งชีวิตของเราก็จะก้าวสู่บทถัดไป

บทที่ ๔ "รับให้มากเพื่อความสุข" - การสื่อสารให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณทำไป "ทำไม" นั้นสำคัญกว่าการบอกว่าคุณทำ "อะไร" หลายเท่า, ลองบอกตัวเองแบบนี้ "ฉันจะคอยดูแลเธอเอง",มนุษย์เราถ้ารู้จักเลื่อนไหวไปตามกระแสของชีวิตและความสัมพันธ์กับผู้คน สุดท้ายก็จะไหลเลื่อนไปถึงจุดที่เหมาะสมกับตัวเองในที่สุด" ,ตำหนิตัวเองเมื่อทำไม่สำเร็จ ส่วนเรื่องที่ทำสำเร็จก็ไม่ให้ค่ากับมัน...แบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการกลั่นแกล้งตัวเองที่พยายามทำเพื่อตัวเองอยู่เลย ผมเชื่อว่าภายในจิตใจของคุณคงมีตัวตนที่กำลังกู่ร้องอยู่แน่ๆว่า "ฉันกำลังพยายามเพื่อเธออยู่นะ!" เพราะฉะนั้น อย่าลืมเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำมาจนถึงตอนนี้ด้วย

บทที่ ๕ "กฎลับๆที่ถ้ารู้แล้วชีวิตจะเปลี่ยน" - ถ้าตอนนี้คุณกำลังรู้สึกว่าชีวิตได้เข้าสู่บทใหม่แล้ว แต่ยังรู้สึกได้ถึงความหยุดนิ่งของชีวิตละก็ ให้คิดไว้เลยว่า นี่คือช่วงเวลาที่ต้องปล่อยมือจากวิธีการเก่าๆที่เคยใช้มาแล้ว สิ่งที่พาคุณมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะพาคุณไปสู่จุดที่อยู่เหนือขึ้นไป

เป็นหนังสือมือสองที่เราซื้อมาเพราะเข้าใจผิดจากชื่อปกที่คิดว่าเกี่ยวกับชีวิตแบบมินิมอล อารมณ์เหมือนของคนโด มาริเอะ พอได้หนังสือมาสภาพมอมแมมนิดหน่อย ลองเปิดอ่านดูคร่าวๆ...นี่มันหนังสือที่เราว่าจะไม่ซื้อหนิ

มันเกี่ยวกับการทิ้งวิธีการเดิมๆที่เคยทำแล้วได้ผลอะไรปะมาณนี้หนิ ไม่เกี่ยวกับจัดบ้านอะไรเลย พลาดแล้วเรา ด้วยสภาพน้องและเนื้อหาซึ่งไม่ได้ตรงกับชื่อปกภาษาไทย ก็เลยทำให้เราหยิบมาอ่านในเวลาไม่นานหลังจากที่ซื้อเพราะกะว่าจะได้ส่งต่อไปเลย ที่ไหนได้พอเข้าบทนำ...

หนังสือนี่มันดีมากเลยนะ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ชีวิตเรากำลังเหมือนจะถึงจุดเปลี่ยนอย่างที่หนังสือว่าไว้จริงๆ และดูเหมือนจะถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งความคิดและการกระทำเข้าบ้างแล้ว อ่านแล้วมันสร้างแรงใจได้มากจริงๆโดยเฉพาะประโยคที่ให้ลองบอกตัวเองว่า "ฉันจะคอยดูแลเธอเอง" ซึ่งเราไม่เคยคิดมาก่อน แต่พอลองบอกตัวเองแล้วมันรู้สึกดี๊ดี ดูรักและเป็นกำลังใจที่ดีให้ตัวเองจริงๆ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"สุดๆ แต่พูดออกมาในแบบนุ่มนวล อ่อนโยน อ่านแล้วรู้สึกว่าถึงเวลาที่เราต้องไหลเลื่อนไปตามกระแสแล้วล่ะ เราหยุดนิ่งกับการทำงานที่เดิมมานานมาก ต้องเจอปัญหา เจออะไรเดิมๆ

ปล.ล่าสุดเราก็คิดเรื่องโชคคืออารมณ์ อารมณ์ดีก็จะโชคดี ซึ่งเรื่องนี้ดีจริงๆเพราะหลายครั้งเราก็จะตั้งใจไปเลยว่าจะอารมณ์ดีแล้วการทำงานมันก็ราบรื่นมาก (แต่ถ้าใครมาทำให้อารมณ์เสียบางทีก็เรียกกลับมาไม่ได้ กลายร่างไปแล้ว555) กับการใช้ความเป็นตัวเองให้เป็นอาวุธ แล้วก็คิดว่าเงินที่เราได้คือคำขอบคุณจากคนบนโลกใบนี้ในช่วงเวลาที่เราไปทำงาน ซึ่งก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามอย่างยิ่งยวด ถ้าได้ผลยังไงชีวิตเราเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ได้ไหลเลื่อนไปตามกระแสสักทีไหมจะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะคะ ...หวังสุดใจว่าจะได้ไหลเลื่อนสักที ชีวิตดราม่ามากเกินไปแล้วช่วงนี้

Create Date : 11 สิงหาคม 2565
Last Update : 14 สิงหาคม 2565 16:18:58 น.
Counter : 338 Pageviews.

0 comments

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244

Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด