รีวิวหนังสือ "INTO THE MAGIC SHOP เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ - ดร.เจมส์ อาร์. โดตี"



เป็นหนังสือที่แบ่งออกเป็นสามตอนใหญ่ สิบสองตอนย่อยเล่าเรื่องจากประสบการณ์ชีวิตของผู้เขียนเองตั้งแต่วัยเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อติดเหล้า แม่เป็นโรคซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง พี่ชายมักโดนรังแกและชอบเก็บตัว พี่สาวก็มีลูกเร็วแยกครอบครัวออกไปแล้ว เหลือเขาที่ต้องคอยประคับประคองครอบครัวและดูแลทุกคน ทั้งตามพ่อจากร้านเหล้าให้กลับบ้าน ดูแลแม่ไม่ให้กินยาเกินขนาด และคอยปกป้องพี่ไม่ให้วัยรุ่นเจ้าถิ่นคอยรังแก แล้ววันหนึ่งเขาก็เจอกับร้านมายากลที่มาเปิดใหม่ และต้องการเพียงเข้าไปดูปลอกนิ้วเล่นมายากลอันใหม่เพราะอันเก่าที่เขารักและหวงแหนหายไปทั้งที่รู้ว่าคงไม่มีเงินซื้อแต่ก็อยากเข้าไปดู

แล้วเขาก็ได้เจอกับ"รูธ" หญิงที่เปี่ยมด้วยเมตตาซึ่งเป็นแม่ของเจ้าของร้าน เธอสอนให้เขาได้รู้จักกับมายากลที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ถ้าเพียงแต่เขาจะยอมมาเรียนกับเธอที่ร้านทุกวันในระหว่างที่เธอมาอยู่ที่เมืองนี้ก่อนจะกลับไปและให้สัญญากับเธอว่าเขาจะสอนกลนี้ให้กับคนอื่นต่อไป โดยเบื้องต้นเธอจะสอนให้เขารู้จักผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน จากนั้นให้อยู่กับปัจจุบันตามลมหายใจของตัวเอง ตามด้วยการเปิดใจซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและเจ็บปวดที่สุด และจากนั้นก็ให้เขาขอพร ด้วยการบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการในชีวิตโดยให้เขานึกถึงสิ่งที่เขาต้องการ และรู้สึกถึงมันประหนึ่งว่าเขามีมันอยู่แล้วในตอนนี้ในทุกรายละเอียด

ซึ่งทุกวันเขาต้องพยายามอย่างหนัก ทำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะสภาพแวดล้อมที่บ้านก็ทำให้เขาไม่อาจฝึกได้อย่างใจตามที่รูธบอกให้เขาฝึกทุกวัน แต่ด้วยมายากลของรูธ มันก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนเพราะเขาได้มากกว่าที่เขาต้องการเสียอีก

 
 

เป็นหนังสือที่อ่านแล้วน่าติดตามมาก เพราะเป็นหนังสือแนวจิตวิทยาที่ไม่ได้มาพูดเรื่องต่างๆเป็นหัวข้อๆไป แต่ว่ามีเรื่องราวต่างๆเล่าประกอบด้วย ซึ่งเรื่องของคุณหมอที่เล่าทำให้เราน้ำตาซึมเป็นระลอกๆ ทั้งสงสาร ทึ่ง และเศร้า ยิ่งอ่านตอนที่คุณหมอจะต่อโรงเรียนแพทย์แต่คะแนนได้ไม่ถึงเกณฑ์แล้วจะโดนตัดสิทธิ์ไม่ให้ได้นัดสัมภาษณ์ เรานี่น้ำตามาคลอหน่วยเลยเพราะตอนที่เขาอธิบายว่าทำไมถึงคะแนนน้อย ลงเรียนไม่ครบ ด้วยเรื่องทางบ้านต่างๆนาๆที่เขาต้องไปทำ ไปคอยดูแลพ่อแม่ แล้วยังต้องทำงานพิเศษอีก อ่านแล้วเรารู้สึกว่าตัวเอง "ใจร้ายมาก" เราเองก็คงตัดสิทธิ์และดูแค่จากผลการเรียน ไม่ถาม ไม่สนใจเบื้องหลังชีวิตเขาเหมือนกัน(มโนว่าถ้าตัวเองเป็นเลขาคนที่อยู่ในหนังสือ)

ตอนแรกก็ต้องใช้เวลามากนิดหนึ่งเพราะหน้าแรกก็เล่าเรื่องการผ่าตัดสมอง เล่าชัดเจนจนภาพมาเต็มชัดระดับfull HD อ่านแล้วมือไม้อ่อนต้องวางพัก (มีหลายช่วงในเล่ม และคงเพราะเราจินตนาการดีเลยเหมือนอยู่หน้าเตียงกับหมอ) กับช่วงที่รูธสอนกลเพราะเรารู้สึกว่าต้องมาอ่านที่บ้าน ต้องให้เวลากับการทำความเข้าใจเลยพักไว้หลายอาทิตย์ พอหยิบมาอ่านอีกทีก็ลากยาวจนจบแบบน้ำตาคลอเบ้า

เล่มนี้ออกแนวเหมือนหนังสือ "The secret" ที่ให้เราร้องขอในสิ่งที่ต้องการ คิดภาพในใจให้ชัดที่สุด ทุกรายละเอียดยิ่งดีประหนึ่งว่าเราได้สิ่งนั้นมาแล้ว แล้วจักรวาลรอบตัวจะนำพาสิ่งต่างๆมาให้เรา แต่เล่มนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเหตุผลว่าทำไม เพราะคุณหมอเป็นหมอผ่าตัดสมองจึงรู้เรื่องการทำงานของสมองเป็นอย่างดีและเหตุผลประกอบอย่างน่าเชื่อถือ และไม่แปลกที่เราจะอ่านแล้วอินกับฉากผ่าตัดเพราะคนแปลเป็นคุณหมอเหมือนกัน

 




Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2564 15:48:41 น.
Counter : 1207 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด