รีวิวหนังสือ"โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ - Durian Sukegawa"

หนังสือเล่าเรื่องราวของร้านโดรายากิที่ชื่อว่า "โดราฮารุ" ซึ่งมี "เซ็นทาโร่" เป็นคนทำขนมที่ร้านแห่งนี้เพียงลำพังเพื่อใช้หนี้ให้กับเจ้าของร้านคนเก่าซึ่งจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำงานที่นี่และจ่ายคืนให้คุณนายซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าของร้านต่อไป แม้ว่าที่จริงเขาเองไม่ได้ชอบงานนี้เลยและอยากเป็นศิลปินเขียนหนังสือมากกว่าแต่ด้วยอายุที่ก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วและยังมีประวัติไม่ดีเคยติดคุกมาก่อน การได้มาทำงานที่นี่โดยความช่วยเหลือของสามีคุณนายก็ถือว่าดีแล้วสำหรับเขา

แล้วบางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อวันหนึ่งมีหญิงชราชื่อ"โยชิอิ โทคุเอะ" มาขอสมัครงานที่ร้านโดราฮารุทั้งที่วัยของเธอก็ไม่เหมาะกับการทำงานหนักภายในร้านขนมแห่งนี้เพราะต้องยืนทำไส้ถั่วแดงหน้าเตาร้อนๆเป็นเวลานานแล้วยังต้องยกหม้อที่หนักมาก แล้วนิ้วมือของเธอก็ยังหงิกงออีกด้วย แต่ด้วยการมาคอยถามไถ่อย่างไม่ลดละบวกกับการเรียกค่าแรงที่แสนถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรายากิที่เธอทำมาให้เขาได้ชิมนั้นมีรสชาติของไส้ถั่วแดงกวนที่อร่อยจนไส้ที่เขาทำเทียบไม่ได้เลย เขาจึงตกลงรับเธอเข้าทำงานแต่ห้ามเธอออกไปพบลูกค้าเด็ดขาดให้ทำงานแต่ด้านหลังร้านเท่านั้นซึ่งเธอก็ตอบตกลงอย่างยินดี

หลังจากที่ได้เธอมาช่วยก็ทำให้ร้านขายดีมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเด็กนักเรียนก็มักมาเข้าคิวซื้อกันจนต่อแถวยาว และหนึ่งในนั้นมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่มักจะมาพูดคุยกับโทคุเอะบ่อยๆก็คือ "วาคานะจัง" เด็กสาวที่มักมาพูดคุยปรึกษากับโทคุเอะ แล้วก็เธอค่อยๆหายหน้าไปในภายหลังแต่เมื่อกลับมาก็พบว่า "โทคุเอะ" หญิงชราที่เป็นที่พึ่งให้เธอได้ออกจากร้านนี้ไปแล้ว และสาเหตุก็น่าจะมาจากข่าวลือที่ได้ยินกันว่าเธอเป็นโรคแฮนเซ็นหรือเรื้อน ถึงได้มีนิ้วมือหงิกงอ ซึ่งเป็นโรคที่ครั้งหนึ่งเคยระบาดในอดีตแต่ปัจจุบันนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นโรคที่รักษาให้หายได้และไม่ติดต่อ แต่คนบางส่วนก็ยังมีอคติกับคนที่เคยเป็นโรคนี้และรับไม่ได้ที่มีคนเป็นโรคนี้มาทำขนมส่งผลให้ยอดขายตกต่ำมาก

แล้ววันหนึ่งเซ็นทาโร่กับวาคานะจังก็ตัดสินใจว่าจะไปพบกับโทคุเอะที่เท็นโชเอ็น อันเป็นสถานที่ที่คนเคยเป็นแฮนเซ็นอาศัยอยู่ แม้ว่าทางการจะออกกฎหมายว่าพวกเขาสามารถออกมาใช้ชีวิตภายนอกได้แล้วก็ตามแต่เกือบทั้งหมดก็ไม่ได้ออกไปไหนเพราะไม่มีที่ให้ไปอีกแล้วหลังจากที่ทั้งชีวิตหลังจากติดโรคก็ถูกกักขังไว้ในที่แห่งนี้ ดังนั้นการมาเยือนของเพื่อนต่างวัยทั้งสองของโทคุเอะจึงทำให้เธอดีใจมาก และเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดนับตั้งแต่วันที่เธอได้รับการตัดสินว่าเป็นโรคแฮนเซ็นและถูกส่งตัวมาที่แห่งนี้ และให้กำลังใจ และช่วยหาทางออกให้กับปัญหาของคนทั้งคู่
 


 

เป็นหนังสือที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร คิดว่าก็เกี่ยวกับโดรายากิและน่าจะเป็นการตั้งใจทำขนมชนิดนี้แบบใส่ใจมากๆ แต่พออ่านแล้วคือแบบน้ำตาคลอ ซึ้ง เรื่องราวของตัวละครสามตัวที่ไม่ได้มีใครสมบูรณ์โดยเฉพาะโทคุเอะหญิงชราที่นิ้วมือหงิกงอจากโรคแต่มีความมุ่งมั่ง พยายามที่จะมีชีวิตต่อไปภายใต้สถานการณ์ที่น่าหดหู่และเจ็บปวดมาก เธอใช้ช่วงเวลานั้นมาเรียนรู้วิธีทำไส้ถั่วแดงให้อร่อยที่สุดแทน เรื่องราวของโทคุเอะอ่านแล้วบีบหัวใจมาก หนังสือสะท้อนให้เราเห็นว่าคนที่เคยป่วยเป็นโรคแฮนเซ็นในสังคมญี่ปุ่นต้องพบเจออะไรบ้าง ซึ่งดูเหมือนกับการถูกกักขังในค่ายกักกันไม่ผิดเลย 

อ่านแล้วรู้สึกว่าเราต้องสู้บ้าง ที่เราเจอนี่เทียบไม่ได้เลย ซึ่งเรารู้สึกว่านี่คือข้อดีของการอ่านหนังสือ เพราะเรื่องราวหรือข้อความจากหนังสือจะบอก สอนหรือเตือนสติเรา เหมือนเพื่อนสนิทที่คอยเตือนเมื่อเราอาจออกนอกลู่นอกทางไปบ้างแล้วทำให้เรากลับสู่ทางที่ถูกที่ควรอีกครั้ง139




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2565 15:26:34 น.
Counter : 642 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด