BOOK HAUL หนังสือล็อตใหญ่ประจำปี ๒๕๖๕ จากเว็บนายอินทร์ - รวมสำนักพิมพ์
แล้วก็มาถึงหนังสือชุดสุดท้ายนะคะ เป็นหนังสือจากหลายสำนักพิมพ์ และมีน้องใหม่ที่เราไม่เคยอ่านด้วย หรือบางสำนักพิมพ์ก็รู้จักแต่ไม่เคยอุดหนุนกันมาก่อน มารอบนี้เจอหนังสือที่ถูกใจก็เลยได้อุดหนุนกันในที่สุด

 


เล่มแรก หิมาลัยต้องกลับไปฟัง - คัมภีร์ สรวมศิริ
บันทึกการกลับไปค่ายอาสาบนเทือกเขาหิมาลัยของ คัมภีร์ สรวมศิริ หมอฟรีแลนซ์ที่พกเครื่องอัลตร้าซาวนด์ไปฟังเสียงของผู้คนและพกหูฟังกลับไปฟังเสียงของตัวเองบนภูเขา ผลงานจากผู้เขียน หิมาลัยต้องใช้หูฟัง กับการเดินทางที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะว่าเสียงเรียกอันคุ้นเคย

เราชอบหนังสือของหมอเก๋อทุกเล่มที่เขียนมา เขียนสนุกมาก ได้อรรถรสจากการเดินทางอันยากลำบากที่หมอเล่าออกมาแบบไม่เครียด บวกกับประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆที่ได้เจอแล้วเล่าให้เราอ่านแล้วสนุกตามไปด้วย แถมมีความรู้เล็กๆน้อยๆจากคุณหมอ ซึ่งรอบนี้มีคำโปรยว่า บันทึกของหมอชาวไทยในค่ายอาสาที่ใช้หิมาลัยตอบคำถามในชีวิตที่ปกหน้า เราเลยคิดว่าน่าจะได้อารมณ์อีกแบบต่างจากเล่มแรก แล้วก็ได้อุดหนุนหนังสือจากสนพ. SALMON แล้วในที่สุด 


เล่มที่สอง แท็กซี่คันนี้รับส่งความหวัง - คิตางาวะ ยาซุชิ
โอกาดะ ชูอิจิ เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ด้วยความหวังว่าจะมีอนาคตที่สดใส หลายปีผ่านไป เรื่องราวดูจะไม่เป็นอย่างที่คิด เขาขายประกันไม่ได้ตามเป้า แถมปัญหาครอบครัวยังรุมเร้าจนแก้ไม่ตก ในวันที่สิ้นหวังถึงขีดสุด ชูอิจิบังเอิญได้ขึ้นแท็กซี่ประหลาดคันหนึ่ง มิเตอร์เริ่มต้นที่ราคาสูงลิบลิ่ว...ก่อนจะค่อยๆลดลงตามระยะทาง ขณะที่รถแล่นไป บทสนทนาที่คาดไม่ถึงจากคนขับก็ทำให้เขาได้เห็นอะไรบางอย่าง มันไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง...แท็กซี่คันนี้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ฟังดูเหมือนเรื่องปาฏิหาริย์ แต่คุณเองก็อาจได้เป็นผู้โดยสารในบางช่วงบางตอนของชีวิตเข้าสักวัน...

ซื้อเพราะปกสวยก่อนเลย ภาพปกสีดูละมุน อบอุ่นใจ มีแสงแดดสะท้อนดูสื่อถึงความหวังจริงๆ เรื่องราวก็น่าอ่านมาก พอเห็นชื่อสำนักพิมพ์บนปกว่าเป็น WE LEARN ก็อึ้งว่าเดี๋ยวนี้เขาทำหนังสือแนวนี้ออกมาแล้วหรอ ปกติเราเห็นแต่ฮาวทูก็เลยพลิกอ่านหลังปกอย่างตั้งใจว่าไม่ใช่แนวฮาวทูใช่ไหม มันเป็นนิยายใช่ไหมนะ555 เจอปกสวยแล้วอยากอ่านทุกทีเลย 


เล่มที่สาม ทุกวันเป็นวันที่ดี ความสุข 15 ประการที่การชงชาสอนฉัน - โมริชิตะ โนริโกะ
"ถ้าอยากพบใคร ต้องไปพบให้ได้ ถ้ามีคนที่ชอบอยู่ ต้องบอกให้รู้ว่าชอบ เมื่อดอกไม้บาน จงเฉลิมฉลอง เมื่อรู้สึกรัก จงรักให้หมดใจ และเมื่อสุขใจ ให้แบ่งปัน... ในเวลาที่มีความสุข จงโอบกอดความสุขนั้นไว้ และดื่มด่ำกับมันให้เต็มร้อย บางทีนี่อาจเป็นเพียงหนทางเดียวที่คนเราจะทำได้" ทุกวันเป็นวันที่ดี หนังสือที่รวบรวมแง่คิดชีวิตที่โมริชิตะ โนริโกะ ได้เรียนรู้จากการเรียนชงชามานานกว่า 25 ปี ขณะที่โนริโกะกำลังสับสนกับการค้นหาตัวเองระหว่างยังเป็นนักศึกษา และตามหาสิ่งทีอยากทำจริงๆหลังจากเรียนจบ โนริโกะได้ลองไปเรียนชงชาตามคำแนะนำของแม่ แม้ตอนแรกจะไม่ได้สนใจนักก็ตาม และเธอก็ได้พบกับคุณป้าทาเคดะ อาจารย์สอนชงชาผู้ไม่เหมือนคุณป้าทั่วไปที่เคยพบเจอ การชงชาเต็มไปด้วยพิธีรีตรองอันเคร่งครัด คุณป้าทาเคดะเองก็เอาแต่บอกให้ทำตามทุกขั้นตอนอย่างละเอียดโดยไม่บอกเหตุผลกันสักนิด โนริโกะจึงรู้สึกต่อต้านการชงชาอยู่ลึกๆ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปโนริโกะกลับพบว่า ไม่ว่าตนเองจะพบเจอกับความผันผวน หรือเจอเรื่องยากที่จะหาทางออกให้ชีวิตแค่ไหน วันหนึ่งเธอจะปะติดปะต่อมันจนเข้าใจผ่านการเรียนชงชานั่นเอง

เล่มนี้เราเห็นพี่นิ้วกลม นักเขียนที่เราติดตามเขาเอามาเล่าลงช่องในยูทูปเราก็เลยได้รู้จักหนังสือเล่มนี้แต่ยังไม่ได้ฟังอะไรเยอะแยะ ฟังแค่เกริ่นๆช่วงแรก เพราะจะเก็บไว้อ่านก่อนซึ่งมาถึงวันนี้ก็จำอะไรไม่อยู่ดี แต่พอได้อ่านปกหลังแล้วเรารู้สึกคุ้นๆกับเรื่องราวเหมือนจะมีหนังด้วยแต่ที่ยังไม่มั่นใจเพราะยังดูไม่จบ555 จำได้ว่าพยายามดูสองรอบแล้วแต่ยังไปไม่ถึงไหน เอาเป็นว่าจะพยายามอีกรอบละกัน แต่หวังว่าตอนอ่านจะอ่านไหวนะ ปล.ภาพปกหน้าและหลังทำให้เราอยากจิบชาและกินขนมญี่ปุ่นมากๆ คิดถึงหนังสือเรื่องร้านขนมแห่งความลับเลยเจอภาพขนมญี่ปุ่นไปแบบนี้272


 



เล่มแรก ปาฏิหาริย์ร้านอาหาเทพเจ้า - นากามุระ ซัตสึกิ
...เพราะอาหารแต่ละจานนั้นมีรสชาติแห่งความทรงจำ... โคซากะ เท็ตสึชิตัดสินใจว่าจะช่วยน้องสาวสืบทอดร้านเทชิโอยะ ร้านอาหารของครอบครัว แม้ว่าตัวเองจะทำอาหารไม่เป็นเลยก็ตาม วันหนึ่งเขาพลั้งปากเอ่ยขอพรที่ศาลเจ้าว่าอยากให้มีคนสอนทำอาหารให้ โดยไม่คิดว่า เทพเจ้าจะตอบรับคำขอนั้นและนั่นก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันอบอุ่นระหว่างคนและวิญญาณที่เชื่อมโยงกันไว้ด้วยรสชาติอาหารแต่ละเมนู

ปกสวยดึงดูดใจเราอีกแล้ว เรื่องราวก็น่าสนใจดูสนุกดี แถมสนพ.NBLITE เราก็ไม่เคยอ่านมาก่อนเลย 


เล่มที่สอง ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ - โอกาวะ อิโตะ
ที่นี่รับจ้างเขียนข้อความทุกประเภท จดหมายตัดเยื่อใย จดหมายถึงคนรักเก่า หรือ "จดหมายจากสวรรค์" ไม่ว่าเนื้อหาจะซับซ้อนหรือประหลาดเพียงใด ร้านเครื่องเขียนแห่งนี้ก็พูดแทนใจผู้คนเสมอ ทว่าภายใต้ข้อความที่กินใจเหล่านั้น ส่วนลึกในใจของ อาเมมิยะ ฮาโตโกะ กลับว่างเปล่า หลังคุณยายจากไปเมื่อสามปีก่อน เธอก็ตัดสินใจทิ้งร้านและย้ายไปอยู่เมืองอื่น การได้กลับมาที่นี่...ได้พบเจอผู้คนจากอดีตอีกครั้ง ทำให้เธอพบ "คำ" ที่เติมเต็มช่องว่างในใจได้ในที่สุด ณ ร้านเครื่องเขียนเล็กๆเชิงเขาในเมืองคามามุระ... ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ

เป็นหนังสือที่ความเรียบง่ายของสีปกและลายเส้นดึงดูดใจเรามาก แล้วก็ไม่คิดว่าสนพ.น้ำพุจะมีงานแปลญี่ปุ่นละมุนๆแบบนี้ออกมาด้วย มันดูละมุนไปหมดเลย แถมปกหน้ายังบอกว่าเป็นนิยายอบอุ่นหัวใจที่ถูกโหวตโดยร้านหนังสือทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย เราน่าจะซื้อถูกเล่มมากๆอบอุ่นใจตั้งแต่ปกยันเรื่องราว


เล่มที่สาม Letter to Sam จดหมายถึงแซม - Daniel Gottlieb 
เมื่อแซมลืมตาดูโลก คุณตาแดเนียล ก็อตต์ลีบ ก็เริ่มเขียนจดหมายจากใจด้วยหวังให้หลานได้อ่านเมื่อโตขึ้น เขาอยากพูดถึงเรื่องสำคัญของชีวิตโดยมีแรงจูงใจลึกๆคือ เขากลัวว่าตัวเองจะอยู่ไม่ถึงวันที่หลานชายเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จึงอยากฝากบทเรียนที่มีความหมายไว้ และเมื่อแซมอายุ ๑๔ เดือน เขาถูกตรวจพบว่ามีอาการบกพร่องทางสมองแบบรอบด้าน ซึ่งเป็นโรคออทิซึมรูปแบบหนึ่ง ภารกิจการเขียนนี้จึงสำคัญมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายกลายเป็นจดหมาย ๓๒ ฉบับที่งดงามและสะเทือนอารมณ์เล่มนี้ นอกจากเป็นคุณตาผู้ละเอียดอ่อนแล้ว เขายังเป็นนักจิตบำบัดปริญญาเอก และเป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้เขาเกือบเสียชีวิต จดหมายถึงแซม คืองานเขียนที่บริสุทธิ์ ลึกซึ้ง อ่อนไหว ที่ชวนให้ใคร่ครวญว่าการเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร

เป็นหนังสือที่เราอยากซื้อมานานแล้วเจอครั้งแรกที่ร้านซีเอ็ดตอนไปเดินเล่นระหว่างรอ แล้วหน้าปกเรียบๆสีสันนวลๆก็ดึงดูดใจ แล้วพอได้อ่านเรื่องราวจากปกหลังก็รู้สึกชอบมาก แต่เหมือนปีก่อนจะหมดตอนที่เราจะซื้อในเว็บก็เลยรอยาวมาจนปีนี้ และมีอีกหลายเล่มที่เราจะซื้อตั้งแต่ปีก่อนแล้วหมดอีกในรอบนี้ และพอได้อ่านนามสกุลคนเขียนเราก็รู้สึกคุ้นๆ เขาเป็นนามสกุลเดียวกับคนที่เขียนหนังสือ "เพราะนี่คือสิ่งที่นักจิตวิทยา(ไม่)เคยบอก" Lori Gottlieb หนังสือที่เรารักมากเล่มล่าสุดของปีนี้ แล้วก็เป็นนักจิตวิทยาเหมือนกัน เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกันไหม แต่แค่นี้เราก็ดีใจมากแล้วก็อยากอ่านมาก
 

แล้วก็ครบแล้วค่ะ ลากันไปด้วยภาพที่คั่นหนังสือที่รอบนี้ไม่เป็นแบบปฏิทินแล้วเป็นนิยายจีนจากสนพ.แจ่มใสแทน แล้วก็แลกรับที่คั่นมาด้วยโดยไม่ต้องเลือกสีเลยเพราะได้มาหมด(เป็นเนื้อกระดาษที่คั่นธรรมดานะคะ)  รอบนี้ได้หนังสือแปลญี่ปุ่นตั้ง ๒๐ เล่ม กระแสเขามาแรงจริงๆ แล้วเราก็เล่นซื้อเกือบหมดทั้งที่เขาเพิ่งออกเพราะแพ้ให้กับความสวยดึงดูดใจของปก จากตอนแรกที่มีหนังสือที่จะซื้อปีนี้แค่ไม่มากไปๆมาๆก็เยอะเหมือนเดิม แต่การได้อ่านหนังสือก็เป็นความสุขในชีวิตนี้ก็ต้องยอมเสียเงิน และเสียเวลาในการหาที่จัดเก็บและดูแลกันต่อไปค่ะ199

 



Create Date : 10 กรกฎาคม 2565
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 11:06:33 น.
Counter : 466 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด