รีวิวหนังสือ "Big magic พลังวิเศษของคนธรรมดา - Elizabeth Gilbert"

หนังสือเล่าเรื่องราวที่จะทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจอยากที่ใช้ชีวิตในแบบที่ใฝ่ฝันและเป็นตัวเอง รวมถึงกล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆออกมา โดยเธอจะเผยเคล็ดลับที่จะช่วยให้เราดึงพลังวิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมา ซึ่งหนังสือจะแบ่งออกเป็น 6 บทใหญ่ และมีบทย่อยอีกหลายบท ซึ่งเราเลือกเรื่องที่ชอบในแต่ละบทใหญ่มาเป็นตัวอย่างดังนี้ค่ะ 

บทแรก ความกล้า - แจ๊ค กิลเบิร์ต กวีผู้ยิ่งใหญ่และเคยเป็นอาจารย์ที่เคยสอนนักศึกษาวิชาเดียวกับเธอและนามสกุลเดียวกันโดยบังเอิญได้ขอให้นักศึกษาของเขามีความกล้า เพราะถ้าปราศจากความกล้า ก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้างและไม่มีวันรู้จักโลกอย่างลึกซึ้งตามที่ควร และชีวิตของพวกเขาจะด้อยค่ากว่าที่ฝันไว้

บทที่สอง มนตรา - แรงบันดาลใจพยายามร่วมมือกับคุณอย่างเต็มที่ แต่ถ้าคุณไม่พร้อมหรือไม่ว่าง มันก็อาจทิ้งคุณไปหาเพื่อนร่วมงานคนใหม่ ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และวันหนึ่งคุณอาจเปิดหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแล้วพบว่า มีคนทำธุรกิจของคุณไปแล้ว เปิดร้านอาหารของคุณไปแล้ว  พูดง่ายๆว่ามีคนฉกฉวยไอเดียที่เคยแวบเข้ามาในหัวคุณเมื่อหลายปีก่อนแต่คุณไม่เคยลงมือทำจริง แล้วคนอื่นก็กลายเป็นคนทำสิ่งนั้นจนสำเร็จ

บทที่สาม การอนุญาต - ฉันอยากตกแต่งชีวิตที่ไม่คงทนถาวรนี้ให้สนุกสนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันไม่ได้หมายถึงแค่ทางร่างกายเท่านั้น แต่รวมถึงทางอารมณ์ จิตใจ และปัญญาด้วย ฉันไม่อยากเป็นคนที่กลัวสีสันฉูดฉาด ความรักครั้งยิ่งใหญ่ การตัดสินใจที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด ประสบการณ์ที่แปลกประหลาด การเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน หรือแม้แต่ความล้มเหลว แต่ฉันจะทุ่มเวลาทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่ เพราะมันกระตุ้นให้ฉันตื่นตัวและมีชีวิตชีวา มันเริ่มมาจากความคิดที่ว่า ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อทุกอย่างไม่ได้คงทงถาวรอยู่แล้ว, เริ่มจากสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำ ยืดอกแล้วประกาศไปเลยไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร แต่ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำเพียงครั้งเดียวแล้วหวังให้เกิดผลลัพธ์มหัศจรรย์ แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องทำทุกวันไปตลอดทั้งชีวิต

บทที่สี่ ไม่ลดละ - จงแสดงสิ่งที่คุณมีออกมาให้โลกเห็น ไม่ว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ลงมือทำไปเถอะ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาห่วยแตกหรือล้ำค่า ลงมือทำไปเถอะ ไม่ว่าคนอื่นจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อาศัยสัญชาตญาณและการทดลอง บวกกับพลังลึกลับอันน่าพิศวงบางอย่าง เริ่มลงมือเถอะ, ส่วนใหญ่คนเราคิดแต่เรื่องของตัวเองกันทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครมีเวลามากังวลถึงเรื่องของคุณหรือคิดว่าคุณทำได้ดีแค่ไหน เพราะใครๆก็วุ่นอยู่กับปัญหาของตัวเองกันทั้งนั้น คนอื่นอาจจะหันมาสนใจคุณชั่วคราว แต่ไม่นานพวกเขาก็จะกลับไปสนใจเรื่องเดิม นั่นคือเรื่องของตัวเอง เพราะฉะนั้นอยากเป็นอะไรก็เป็นเลย อยากทำอะไรก็ทำเถอะ 

บทที่ห้า ความไว้ใจ - ฉันไล่ตามความอยากรู้อยากเห็นไปเรื่อยๆ ฉันเชื่อมั่นในความสนใจใคร่รู้ของตัวเอง เชื่อว่าต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้สนใจพืชพรรณเหล่านี้ แล้วหลังจากนั้นลางสังหรณ์และเรื่องบังเอิญต่างๆก็เริ่มเกิดขึ้นกับฉัน ทุกอย่างโยงใยไปถึงความสนใจใหม่ของฉันเรื่องพฤษศาสตร์ทั้งสิ้น ฉันค้นพบหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ พบคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และพบโอกาสหลายอย่างเข้าโดยบังเอิญ ที่เป็นเช่นนี้เพราะฉันตอบรับทุกอย่างที่อยากรูู้อยากเห็นซึ่งอยู่รอบๆตัวฉันนี่เอง ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม นี่คือ "ชั่วขณะมหัศจรรย์" เช่นกัน คุณเพียงต้องเชื่อใจมัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตอบรับของคุณ, ไม่ว่าคุณกำลังไล่ตามความฝันอะไร ไม่ว่าคุณกำลังค้นหาอะไร อย่าล้มเลิกกลางทางเด็ดขาด อย่างที่บาทหลวงร็อบ เบลล์เคยเตือนไว้ว่า "อย่ารีบวิ่งผ่านประสบการณ์ต่างๆที่อาจเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้" อย่าทิ้งความกล้าเมื่อทุกอย่างเริ่มจะไม่ง่ายหรือไม่รู้สึกดีเหมือนเก่า เพราะช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาสำคัญ มันคือช่วงเวลาที่ความน่าสนใจจะเริ่มต้นขึ้น

บทที่หก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ - เล่าเรื่องระบำศักดิ์สิทธิ์ที่บาหลีซึ่งจัดขึ้นในวัด แล้วหลังจากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวเลยมีการระบำแบบนี้ให้นักท่องเที่ยวดูตามรีสอร์ทต่างๆ แต่ชาวตะวันตกบางส่วนก็เห็นว่าไม่ควรเพราะมันคือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ คนบาหลีจึงคิดท่าระบำขึ้นมาใหม่สำหรับใช้ในการออกแสดงแล้วก็ได้รับการปรับปรุงให้อ่อนช้อย งดงามและเริ่มดูศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น


อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เกิดฮึกเหิมในการทำตามความฝัน ทำสิ่งที่อยากทำ แล้วก็เห็นด้วยมากๆเรื่องที่ถ้าเราไม่ตอบรับเสียงเรียกร้องให้ทำบางสิ่งสักทีคนอื่นก็จะเอาไปทำจนเสร็จ เพราะมันเกิดขึ้นจริงกับตัวเอง แล้วก็ชอบเรื่องความกล้าเพราะท่าทางว่าเราจะขาดไอ้ตัวนี้ไปอีกนิดมันเลยไม่สำเร็จแล้วโดนตัดหน้าไป35 อ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกว่าชีวิตมันไม่ยืนยาวจริงๆนั่นแหละ อย่าไปกลัวที่จะทำอะไร อยากทำอะไรก็ตั้งใจจริง กล้าๆหน่อย แล้วก็ทำไปเลยคนอื่นเขาไม่มาสนใจอะไรกับเรานักหนาหรอก แล้วอะไรที่ผ่านเข้ามาให้เราสนใจในช่วงนั้นก็คว้ามันมาแล้วตามมันไปดูว่ามันจะให้อะไรกับเรา ทำแล้วก็สู้ให้ถึงที่สุดอย่าล้มเลิกกลางทาง มันอาจจะดีหรือผิดหวังก็ได้แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น 

เรื่องที่เราได้ทำตามที่ต้องการและเดินทางมาไกลเรื่องหนึ่งก็คือการรีวิวนี่ล่ะ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ เวลาเขียนออกมาก็คิดเยอะว่ามันยังไม่ดี แต่พอทำๆไปก็คิดเหมือนเขาจริงๆคือ ปล่อยมันออกไปเถอะจะได้เริ่มทำผลงานชิ้นใหม่สักที แล้วก็ทำไปเถอะอย่าคิดมาก แล้วอีกอย่างคืออย่าล้มเลิกกลางทางซึ่งเราก็เกือบเลิกละ! ปีนี้ตั้งใจว่าถ้าไม่ไหวก็เลิกแต่พอลองดูสักตั้งก่อนมันก็ยังคิดออก สมองยังลื่นไหลเลยทำต่อมา (รอบนี้ก็ยังไม่แคล้วว่าขี้เกียจ จะเลิกอีกแล้ว52)

ส่วนการเปิดใจรับความสนใจใหม่ๆก็เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะปีนี้จู่ๆก็เกิดอยากหัดถักโครเชต์ทำเป็นกระเป๋าบ้าง เห็นเพื่อนลงในเฟสขายเป็นรายได้เสริม ก็จัดการซื้อเชือกฝ้ายและอุปกรณ์พร้อมทันทีทันใด แล้วก็ทำตามยูทูปเริ่มตั้งแต่พื้นฐานอย่างการจับเชือกมาพันกับนิ้วยังไง หัดถักโซ่ยังไงจนถักกระเป๋าออกมาสวยงามมินิมอลถูกใจสุดๆมีการเพิ่มในส่วนสายให้หนาตามต้องการด้วยนะ (แต่หลักมันเดี๋ยวลด เดี๋ยวเพิ่มไปเอง555 นับหลักไม่ค่อยจะถูก ดูไม่ค่อยเป็นก็เลยไม่แก้ตอนที่ได้ไม่เท่าเขาเพราะรู้ว่าแก้ไปก็ใช่ว่าจะแก้ถูก ใบแรกปล่อยไปก่อนอีกอย่างไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ อย่างที่หนังสือเขาว่านั่นแหละ! ทำไปเถอะแล้วปล่อยผลงานออกมา) ส่วนที่คิดไว้ว่าจะเป็นรายได้เสริมบ้างก็ได้ผลว่า ไม่เอาละ! นิ้วที่ด้านเป็นเดือนยังไม่หายเลย ปวดมือ คอ บ่า ไหล่ ลามไปหลังโน่นเลย62 เพราะทำแล้วมันอยากรู้ว่าต่อไปทำไงต่อ แล้วก็อยากเห็นมันเป็นรูปเป็นร่างไวๆ แล้วเราก็เป็นคนถักแน่น พยายามจะให้หลวมก็ทำไม่ได้ ขนาดที่ได้คือน้อยกว่าแบบไปนิ้วครึ่ง! แต่ถูกใจมากนะ ภูมิใจในตัวเอง แน่นหนาแข็งแรงไว้แบกหนังสือได้ไม่ย้วย...ส่วนหลังจากนี้จะทำอีกไหม ทำแหละแต่ขอเวลาสักพัก422



Create Date : 08 มิถุนายน 2566
Last Update : 9 มิถุนายน 2566 10:07:18 น.
Counter : 254 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด