รีวิวหนังสือ "ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่าง แล้วหายตัวไป - Jonas Jonasson"
อัลลัน คาร์ลซอน ชายที่กำลังจะมีอายุครบร้อยปีหนีออกจากห้องตัวเองในบ้านพักคนชราด้วยการปีนออกทางหน้าต่างเพราะไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆเท่าที่แรงจะมีจนไปถึงสถานีขนส่งและเลือกจุดหมายปลายทางจากการถามพนักงานว่าเงินเท่าที่เขามีอยู่จะไปได้ไกลถึงไหน แล้วตัดสินใจออกเดินทางโดยที่เอากระเป๋าเดินทางที่มีชายร่างกำยำน่าเกรงขามคนหนึ่งฝากไว้หลังจากที่พยายามจะเข้าห้องน้ำพร้อมกระเป๋าเดินทางใบโตแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงเลือกไว้กับชายชราที่ดูไม่น่ามีพิษสง แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าชายชราที่เขาฝากกระเป๋าไว้ได้หายตัวไปพร้อมกระเป๋าเดินทางอันมีค่ามหาศาลกับเที่ยวรถที่เพิ่งออกไปก็ทำให้เขาโมโหมาก และเร่งทำการติดตามหาตัว
ในส่วนของคาร์ลซอนก็ถือกระเป๋าไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าของด้านในคืออะไรจนกระทั่งไปเปิดกับเพื่อนใหม่ที่เป็นชายสูงอายุแต่เมื่อเทียบกับเขาซึ่งกำลังจะร้อยปีก็ดูเด็กกว่าไปมาก ซึ่งอาศัยเพียงลำพังที่สถานีร้างแห่งหนึ่งที่เพิ่งได้พบกันแล้วจัดการเปิดกระเป๋าดูว่าภายในบรรจุสิ่งใดก่อนจะพบเงินจำนวนมหาศาลที่คาดว่าอีกไม่นานต้องมีคนมาติดตามแน่ และก็เป็นดังคาดซึ่งหลังจากที่พวกเขาพักได้เพียงคืนเดียวก็มีคนจากแก๊งค์ "ไม่มีอีกแล้ว" สมาชิกคนที่ฝากกระเป๋าไว้มาทวงถึงที่ ทั้งสองจึงต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้เพราะพวกเขาแก่กว่ามากแต่ด้วยประสบการณ์อันช่ำชองของคาร์ลซอนในการเอาตัวรอดตั้งแต่สมัยสงครามโลกที่ได้พบประธานาธิบดีสหรัฐหลายคน แล้วไหนจะคนดังมากมายที่เขาได้ร่วมงานด้วยในฐานะผู้ที่รู้จักการทำ"ไดมาไมต์" อย่างเก่งกาจหาตัวจับยาก ซึ่งช่วงนั้นต้องการคนที่เก่งด้านนี้มากโดยเฉพาะในการคิดค้นทำระเบิดปรมานู ทำให้ทั้งคู่รอดมาได้แต่สมาชิกรายนั้นกลับไม่รอดเพราะทั้งคู่ลืมเขาไว้ในช่องแช่แข็ง ทำให้ต้องหาทางจัดการกับศพจนทำให้เกิดเรื่องราวมากมายตามมา และดึงเอาผู้คนอีกหลายคนมาเกี่ยวข้องเป็นสมาชิกให้ต้องหารเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆให้ได้ โดยเฉพาะเมื่อข่าวการหายตัวไปของชายร้อยปีออกข่าวทั้งทุกสื่อไปทั่วและตำรวจกับนักข่าวก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาอายุปาเข้าไปร้อยปีแล้ว
เป็นหนังสือที่ตัวละครเยอะมาก....มากจนปวดหัว เรื่องราวแต่ละบทที่ผ่านไปก็จะมีตัวละครใหม่ๆเข้ามาเสมอ แล้วก็มีการเล่าเรื่องราวย้อนไปถึงสมัยที่คาร์ลซอนยังหนุ่มและทำงานให้กับหน่วยงานต่างๆมากมายหลายประเทศโดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกที่เขาได้ไปทำงานและพบคนสำคัญหลายคน เพราะประสบการณ์และความเก่งกาจในการทำไดนาไมต์ของเขา แม้เขาจะไม่ชอบการเมืองและไม่สนใจจะอยากรู้ แต่ก็อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองอันสำคัญเสมอ ซึ่งในเรื่องก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลก และการจิกกัดทางการเมืองเรื่อยๆซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายรวมถึงไม่รู้จักอยู่หลายต่อหลายคน ยิ่งพออ่านๆไปตัวละครเยอะขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งสับสน และต้องทบทวนว่าตกลงไอ้คนชื่อนี้มันเป็นใครและเข้ามาตอนฉากไหน หรือประธานาธิบดีชื่อนี้อยู่ประเทศไหนกันแน่แล้วต้องย้อนอ่านใหม่เพราะจำผิดเลยอ่านแล้วงงว่าทำไมมันเข้าข้างฝ่ายนี้นะ
เป็นการอ่านที่ต้องจำตัวละครในแก๊งค์คุณตาคาร์ลซอนให้ได้จนครบว่าใครเป็นใครแล้วก็ต้องจำตัวละครที่เพิ่มมาเรื่อยทั้งจากอดีตที่เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา แล้วก็สมาชิกใหม่ของแก๊งค์ที่เข้ามา แล้วยังตัวละครอื่นๆอีก ด้วยเหตุนี้ทำให้เราตัดสินใจหลังอ่านจบว่าเล่มสองที่ซื้อมาเราจะขายต่อไปเลยไม่อ่านมันละ ถึงเรื่องราวมันจะมีให้ขำได้เรื่อยๆกับวีรกรรมสุดแสบของพวกนี้ก็เหอะแต่ตัวละครเยอะๆนี่ไม่ใช่แนวเราเลย
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [