นวนิยายไทย

เล่มแรก ตำรับรัก - ชูวงศ์ ฉายะจินดา

ความรัก…คืออะไร…ต้นกำเนิดของความรักอยู่ที่ไหน… ใครเป็นคนรู้จักความรักคนแรก…มีคำถามมากมายถึงความรัก… และก็มีคำตอบมากมายเกี่ยวกับความรักเช่นกัน แต่ไม่ว่าคำตอบของความรักจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อความรักนั้นเกิดขึ้นในใจกับใคร…กว่าจะรู้ตัว ต้นรักนั้นก็หยั่งรากลึกเสียแล้ว… “ประณต” และ “คุณเล็ก”…“พี่ภาส” และ “น้องแต้ว” คือ “ตำรับรัก” ของหนุ่มสาว ที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า ความรักจะมั่นคงและหนักแน่นได้นั้น…ความเชื่อถือระหว่างกันสำคัญยิ่ง…

นี่คือนวนิยายที่พิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือละครโทรทัศน์ที่สร้างออกอากาศครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน พิสูจน์ความตราตรึงของความรัก…ได้จากตำรับรักบทนี้…

นิยายเรื่องดังของคุณชูวงศ์ที่เราอยากซื้อมาอ่านสักพักแล้ว แต่เพราะว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันโดนยกเลิกออเดอร์ ซึ่งเราก็ไม่ยอมแพ้จนซื้อมาได้ในที่สุดเรื่องนี้เขาว่าดีมาก ส่วนตัวเราสาเหตุที่ทำให้อยากอ่านเล่มนี้ก็แน่นอนว่าปกสวยน่ะสิ ทั้งที่ไม่เคยอ่านหนังสือของเขามาก่อนเลยแต่เก็บเรื่องนี้ไว้ในรายการที่อยากได้มานานเป็นปี แถมพอได้รู้ว่าเขาเป็นศิลปินแห่งชาติด้วยยิ่งอยากอ่านงานเขาขึ้นมาอีก

ความรักที่มีต่อ ‘พหล’ คนรักในอดีต ยังจารึกอยู่ในใจของ ‘เมทินี’ ไม่เสื่อมคลาย และการต้องเก็บงำความรู้สึกท่วมท้นด้วยรักที่มีต่อ ‘เมทินี’ เอาไว้ ด้วยเหตุผลส่วนตัวของ ‘วศิน’ นั้น ช่างไม่ต่างจากช่อรักที่ถูกบังไว้ด้วยใบของมันเอง ด้วยยากจะเปิดเผยถึงความในใจอันแท้จริงได้ กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง ย่อมผ่านอุปสรรคขวากหนามมากมาย ได้แต่หวังว่าผู้อ่านจะเอาใจลุ้นรักบริสุทธิ์ที่ก่อร่างขึ้นช้าๆ ให้นำพาความสมหวังมาสู่คู่รักนี้ได้ในบั้นปลาย
โปรดติดตาม “รักบังใบ นวนิยาย “แหวกขนบ” เรื่องนี้ และเปิดกว้างให้กับความรักของพวกเขา ด้วยการย้อนกลับไปในห้วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว อย่างเข้าอกเข้าใจในยุคสมัยอันล่วงเลย และเนิ่นนาน..

เป็นอีกเรื่องที่เราซื้อเพราะชอบภาพปกที่ดูสวยดี บรรยากาศร่มเงาต้นไม้มันดูน่าสนใจอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรแล้วก็อยู่ช่วงไหนของเรื่อง แล้วถ้าดูไม่ผิดต้นไม้ที่วาดก็น่าจะเป็นต้นหางนกยูงฝรั่ง ส่วนเรื่องราวเราอ่านแล้วก็แอบหวั่นใจตรงที่บอกว่าเป็นนิยายแหวกขนบ กับการที่ความสมหวังมาสู่ได้ในบั้นปลายว่ามันยังไงไม่ใช่ว่ากว่าจะได้คู่กันก็ตอนแก่มากแล้วอย่างนั้นใช่ไหม พยายามหาอ่านรีวิวก็มีแค่ที่เว็บนายอินทร์ที่มีรีวิวสั้นๆไว้แต่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่อยากรู้เท่าไหร่แต่ถึงอย่างนั้นคนก็ให้คะแนนห้าดาวไปเกือบหมดก็เลยตัดสินใจซื้อไว้ก่อน


เล่มที่สาม 

ใครบ้างจะรู้ว่า... แม้ความรักเพียงน้อยนิดที่สุด เสมือนหยดแห่งความปรารถนาเพียงหยดเดียว ก็สามารถก่อเกิดเป็นรักที่แท้จริงได้ ไม่สําคัญว่าความเป็นไปได้จะมีมากน้อยแค่ไหนหรืออุปสรรคจะรายล้อมอยู่สักเท่าใด จงเชื่อมั่นและศรัทธาในรักเถิด เช่นที่ “พิษฐาน” และ “ปวีณา” รู้สึกต่อกัน ด้วยว่าเนื้อแท้อันเกิดจากความเข้าใจย่อมสะสมพลังและคุณค่าแห่งรัก จนเต็มพร้อมถึงความหมายอย่างสมบูรณ์ได้ในปลายทาง…

แน่นอนว่าเราซื้อเล่มนี้เพราะปกสวยอีกแล้ว แล้วก็เป็นเพราะเรากำลังสะสมหนังสือของนักเขียนท่านนี้ไว้อ่านอยู่ แม้ว่าจะยังไม่ได้อ่านสักเล่มและไม่รู้ว่าจะได้อ่านเมื่อไหร่ด้วย แต่เนื้อเรื่องดูน่าอ่านดี ดูแบบเป็นรักแท้ดี

นับจากวันที่ "เขา" ยื่นมือมาฉุดกระชาก "เธอ" ขึ้นจากน้ำพ้นจากหัตถ์มัจจุราช เธอก็รู้ว่าชีวิตของเธอเป็นของเขา หัวใจของเธอก็เป็นของเขานับแต่นั้นมา แต่ทว่าในสายตาของเขาเธอคือน้องสาวคนเล็กของครอบครัว เป็นเพียงเด็กน้อยจอมกวน ซน แก่น ไม่รู้จักโต นั่นเนื่องเพราะสายตาของเขามุ่งมองแต่พี่สาวคนสวยของเธอกระทั่งหัวใจของเขา ก็มอบให้กับพี่สาวของเธอไปแล้วเช่นกัน ส่วนเธอด้วยหัวใจรักที่ภักดี ได้ทุ่มเททุกอย่างช่วยเหลือให้เขาและพี่สาวของเธอสมปรารถนาในรัก เพียงเพราะว่าถ้าเขาเป็นพี่เขยของเธอ เธอก็จะได้ใกล้ชิด ได้ห่วงใย ได้อยู่ใกล้ๆ เขาตลอดไป แต่ทว่า...พระพรหมท่านพยศ!

เพราะว่าเราซื้อหนังสือของเขามาหลายเล่มแล้ว ก็เลยตามเก็บเรื่องอื่นๆที่ร้านมีขายมาด้วย หน้าปกเรื่องนี้ก็สวยดีด้วยเป็นภาพเรือนไทยที่เราชอบก็เลยทำให้ซื้อมาอ่าน แม้จะลังเลใจกับเนื้อเรื่องที่ปกหลังก็ตาม แต่เรื่องราวแนวย้อนยุคกับภาพปกสวยๆก็ทำให้เราอยากซื้อมาอ่านอยู่ดี (แต่สภาพหนังสือที่เราได้มาคือแบบมือหนึ่งนะ แต่มีจุดเหลืองที่ปกหน้าหลัวเยอะมากก สภาพเก่าเก็บมาเลยทีเดียว)

"อย่างแรก 'หมอจูบฉันค่ะ ไม่ใช่ เราจูบกัน'!" อนิลราชกลั้นหัวเราะ หากเขาจูบเธอฝ่ายเดียวแล้วรสชาติหวานล้ำที่ติดอยู่ที่ลิ้นนี่เล่า แต่เอาเถอะ ชายหนุ่มไม่ขัดไม่เบรกเดี๋ยวคนสวยจะยิ่งอาย...ก็เอาที่เธอสบายใจนั่นละ

"อย่างที่สอง หมอจูบฉันเพื่อไล่สิงโตเหรอคะ!?" นั่นไง...สาเหตุที่เธอเคือง คุณหมอโรคจิตก้มหยิบเสื้อตัวเองที่หญิงสาววางไว้บนก้อนหินมาพาดบ่า ก่อนพูดกับเธอด้วยดวงตาซุกซนแสนจะน่าหมั่นไส้

"นั่นก็ด้วย แต่ก็บอกแล้วไงว่าเป็นการลงโทษ...และขอบคุณ" แม่ตัวร้ายหน้าแดงไม่เลิก "หมอ...ใช้วิธีนี้กับลูกน้องทุกคนรึเปล่าคะ"

"ผมไม่ทำแบบนี้กับผู้ใต้บังคับบัญชา" เจ้านายสุดห่ามพูดเข้มๆ เหมือนล่วงรู้สิ่งที่เธอกำลังคิด "ยกเว้น เด็กในปกครอง ที่ดื้อมากๆ"

"ฉัน...ดื้อมากขนาดนั้นเลยหรอคะ" หญิงสาวหน้ามุ่ย อนิลราชมองหญิงสาวที่กำลังพิจารณาความดื้อของตัวเองอยู่เงียบๆ อย่างขบขันสิ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าเธอดื้อ นั่นก็คือ เธอน่ารักมาก...แล้วก็น่าจูบมากด้วย แม่ตุ๊กตาหน้ารถยังนั่งนิ่งหน้าคว่ำ คุณหมอหนุ่มหัวเราะในคอก่อนเอื้อมไปรัดสายเข็มขัดนิรภัยให้เธอ แก้มสากๆ ของเขาเลื่อนมาโดนจมูกน้อยแบบจงใจอ่อยเหยื่อทิ้งทวน

"ขอโทษ...ที่ทำให้จูบแรกของคุณเลอะเทอะมอมแมมไปหน่อย ครั้งหน้า...น่าจะดีกว่านี้" คนถูกอ่อยตาลุกโพลง หน้าแดงเถือกแต่เดี๋ยว..แล้วเขารู้ได้ไงว่านี่คือจูบแรกของเธอแล้วอะไรคือ "ครั้งหน้า !?!?"

ร้านขึ้นว่าเป็นหนังสือมือสอง ซึ่งเราไปดูรีวิวมาคนอื่นๆก็ว่าใหม่เหมือนมือหนึ่งทั้งนั้น สภาพก็ดี ไปดูรีวิวมาก็น่าสนใจเราก็เลยซื้อบ้างทั้งที่ไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้มาก่อน แล้วพอเราได้ของมาบ้าง...มือสองจริงๆเลยนะเล่มที่ฉันได้เนี่ย ตลอดเลย แต่ก็ช่างเถอะ แล้วพออ่านเรื่องราวดูก็...ฉันซื้อมาทำไมนะ สงสัยเป็นเพราะไปอ่านรีวิวมาแล้วเขาเล่าไว้น่าอ่านมากแต่ตอนนี้ดันลืมไปแล้ว จำได้นิดหน่อยว่าเกี่ยวกับการดูแลผืนป่าและสัตว์ป่าซึ่งเราชอบต้นไม้ใบหญ้าเลยอยากอ่าน แล้วรีวิวเขาว่าผสมแฟนตาซีนิดๆด้วย 

 

เล่มที่หก หนึ่งด้าวฟ้าเดียว - วรรณวรรธน์ 

"เจ้ายอมรับแล้วใช่ไหม ว่าเจ้ารักข้าที่เป็นเช่นนี้" เจ้าเนื้อนิ่มไม่ยอมตอบคำ แต่ทำท่าขัดเขินกับคำถาม เท่านี้ก็ทำให้คนที่กอดร่างน้อยนั้นแทบจะรัดร่างเธอเข้าแนบอกตน ร่างสูงซบหน้าลงกับเรือนผมเบาๆ สูดเส้นผมหอมกรุ่นเนิ่นยาว "เจ้าจะหนีไปกับข้าได้ไหม...เจ้าแมงเม่าเอ๋ย" ณ เพลานั้น กรุงศรีอยุธยาระส่ำหนัก ข้าศึกอังวะเข้าประชิดเมือง ล้อมไว้เกือบสิ้นแล้ว! "ฉันมีชีวิตใหม่เพราะพระองค์ท่าน ยามฉันลำบากในชีวิตก็ได้ท่านคุ้มครอง แล้วจะให้ฉันละทิ้งพระองค์ท่านไปในวันที่น่ากลัวเหล่านี้ได้อย่างไร" เขาสูดดมเรือนผมหอมนั้น ลึก ยาว อย่างรับรู้และเข้าใจ น้ำใจเจ้าตัวน้อยช่างกล้านัก เขาเลือกรักไม่ผิดคนแล้ว "หากเจ้าอยู่ ข้าก็อยู่ดูแลเจ้า" "ท่านจะอยู่เป็นเพื่อนข้าจริงๆนะ" "จริงสิจ้ะ" รับรู้ไว้เถิด แมงเม่าเอ๋ย ขอเพียงให้รู้ว่า แค่มีเจ้าไม่ว่านรกหรือสวรรค์ แห่งหนไหนข้าก็ไม่มีกลัว ชีวิตข้างหน้ามันจะทุกข์ยากเท่าใด ยามนี้ หัวใจข้าพร้อมแล้ว เจ้าตัวดี! (เล่ม 1)

"ได้เจ้ามายืนอยู่เคียงข้างและเข้าใจข้าเช่นนี้ทุกวัน ข้าก็ไม่ต้องการยศถา ทรัพย์สินเงินทองอันใดที่ไหนอีกแล้ว แมงเม่าเอ๋ย" เธออมยิ้มในหน้า "เจ้าค่ะ" เขาพึมพำจดจ่อใกล้นัก ข้างแก้มเธอเบา ๆ "ให้บ้านเมืองกลับคืนดีมาเมื่อไหร่ พี่จะสู่ขอเจ้ามาเป็นมิ่งขวัญพี่ตลอดไปนะแมงเม่า" .. "เจ้าค่ะ" ..เธอตอบ แต่หนนี้ในใจกลับคิดว่า บ้านเมืองจะวุ่นวายไปอีกนานเท่าใด จะสงบสุขลงเสียวันนี้วันพรุ่งเลยได้ไหม เธอจะได้ตอบรับคำสู่ขอจากเจ้าแผงอกหนั่นเนื้อหอมคนนี้เสียที
จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน วันศุกร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ นพศก ขุนหลวงตากได้เข้ายึดครองค่ายโพธิ์สามต้นสำเร็จ และขับไล่ทหารอังวะออกจากพระนครศรีอยุธยา นับเวลาที่ใช้ในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมารวม ๗ เดือน! (เล่ม 2)

สำนักพิมพ์ piccolo

 

ปริศนาที่ยากจะคลี่คลาย แกงกะหรี่หอมกรุ่น หนังสือเก่า และวัตถุดิบลับ สี่อย่างที่ไม่เข้ากันกลับผสมผสานอย่างลงตัวก่อเกิดเป็นรสชาติอร่อยล้ำที่จะช่วยไขทุกข้อข้องใจ
ณ มุมหนึ่งของย่านจิมโบโจมีร้าน "คาเฟ่โซเซกิ" ซึ่งดำเนินการโดยเชฟ จิฮารุ ผู้มีความมุ่งมั่น วันหนึ่ง ฮายามะ นักเขียนนิยายหนุ่มหล่อได้ลองชิม "แกงกะหรี่โซเซกิ" เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ และวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงยืนกรานให้เธอปรับสูตรใหม่ให้ได้

ในขณะที่ตัวฮายามะเองก็กำลังหมดอาลัยตายอยากถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย จนกระทั่งเขาได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งในคาเฟ่และช่วยจิฮารุไขปริศนาแสนอร่อยของแกงกะหรี่...

นิยายแนว Cozy mystery ที่รสชาติกลมกล่อมรอให้เหล่านักอ่านมาร่วมกันปรุงแกงกะหรี่สุดพิเศษ และไขปมปัญหาที่ซ่อนอยู่ไปพร้อมๆกัน

เล่มนี้เราก็ไปพรีออเดอร์มาเช่นกันแต่ว่ารอไม่นานก็ได้หนังสือ ซื้อเพราะภาพปกดึงดูดใจอีกแล้วแถมมีคาเฟ่หนังสือด้วยยิ่งทำให้เราอยากอ่านมากกว่าเดิม แล้วก็เป็นเพราะชอบหนังสือเรื่อง "คาเฟ่ลูส เมนูที่รักจากการเดินทาง" ที่เป็นแนวนี้เหมือนกันที่ได้อ่านแล้วชอบเลยทำให้อยากลองอ่านแนวนี้ดูอีก


เล่มที่สาม ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์ - มิจิโกะ อาโอยามะ 

มาร์เบิ้ลคาเฟ่ คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำซึ่งเรียงรายไปด้วยต้นซากุระ

คาเฟ่แห่งนี้เปิดทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ปิดบริการในวันจันทร์ มาสเตอร์เจ้าของร้านจึงหากิจกรรมให้แก่ลูกค้าที่ผ่านไปมาด้วยการปิดมัทฉะคาเฟ่ขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นเรื่องราวสิบสองเรื่อง
ที่ผูกร้อยก้นไว้อย่างลงตัว จากโตเกียวถึงเกียวโต จากมกราคมถึงธันวาคม

• พนักงานร้านโทรศัพท์มือถือที่รู้สึกว่าอะไรก็ไม่เป็นใจให้เธอเลย
• เจ้าของร้านชุดชั้นในที่พยายามทำความเข้าใจลูกค้า คุณย่า
• เจ้าของร้านขนมเก่าแก่ที่คอยตามดูกิจการของตัวเอง และชาย
• หนุ่มจากโตเกียวที่มาตามหาขนมถึงเกียวโต

ถ้าความทรงจำมีกลิ่น จะเป็นกลิ่นอย่างไร ถ้าล่วงรู้ความทรงจำของคนสำคัญได้ คุณอยากรู้อะไร "คุณเองก็มีความทรงจำที่อยากตามหาใช่ไหม - ยินดีต้อนรับสู่ร้านดอกไม้แห่งความทรงจำ" ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในมุมที่ไม่สะดุดตา นอกจากจะขายดอกไม้แล้ว ยังช่วยผู้คนตามหาความทรงจำของผู้วายชนม์ผ่านกลิ่นของความทรงจำ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่แตกสลาย ให้เวลาเดินหน้าต่อไปได้ เพียงแต่ความทรงจำอันลํ้าค่าไม่ใช่เรียกให้มาก็มา เรียกให้ไปก็ไป ผู้คนคิดว่าร้านดอกไม้มียาวิเศษในการรักษาบาดแผลของชีวิต แต่กลับไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเปลี่ยนจุดฟูลสต็อปให้เป็นคอมม่า “พลังของมนุษย์มีขีดจำกัด ถ้ามัวแต่ทุ่มเทให้กับการจดจำความเสียใจ ก็จะลืมเลือนส่วนที่งดงาม”

 หนังสือออกใหม่ล่าสุดอีกเช่นกัน ชอบหน้าปกสวยๆกับสีเหลืองสดใสมาก ผลงานของคนที่เขียนเรื่องศูนย์รับฝากความเสียใจด้วย ถึงว่าชื่อคนเขียนคุ้นๆ อ่านโครงเรื่องแล้วก็คล้ายๆกับเรื่องเก่าเลย ร้านต้องอยู่ในมุมไม่สะดุดตาแล้วก็ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย 


เล่มที่ห้า นักสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงในร้านกาแฟโม่โม่ - หลิวข่ายซี

ปกน่ารักอีกแล้ว สำนักพิมพ์นี้เขาก็ขยันออกหนังสือสารพัดร้านพร้อมหน้าปกสวยๆออกมายั่วใจนักอ่านอย่างเรา แล้วอีกอย่างที่เราซื้อก็เพราะเราเองก็มีน้องหมาแสนน่ารักสองตัวก็เลยอยากลองอ่านหนังสือเล่มนี้ 


เล่มที่หก ที่บริษัทแห่งนี้มีตอนจบอย่างที่คุณต้องการ - คัตสึระ โนโซมิ

คนที่ได้ทำตามฝันน่ะมีอยู่น้อยนิด...ชีวิตก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าใครก็มองอนาคตทั้งชีวิตได้ไม่ทะลุปรุโปร่งหรอก...
มัมปูไค บริษัทให้คำปรึกษาการเตรียมตัวตาย ยินดีต้อนรับ! ที่นี่ไม่ใช่แค่บริษัทที่ให้คำปรึกษาเรื่องงานศพหรือแนะนำหลุมศพ ไม่ใช่แค่การเตรียมให้ลูกค้ามีงานศพแบบที่ต้องการ หรือไม่ใช่บริการให้ลูกค้าได้จบชีวิตสมใจ แต่พนักงานของที่นี่มีหน้าที่สนับสนุนให้ลูกค้าได้ทบทวนชีวิตของตัวเองก่อนจะถึงวันสุดท้ายบนโลกใบนี้ บางคนก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองต้องการสิ่งใด พบเจออะไรมาบ้าง...ไม่ว่าใครก็เตรียมตัวตายได้ทั้งนั้น

---

ชอบภาพปกมากเลย แถมพออ่านเรื่องราวหนังสือแล้วก็ยิ่งอยากอ่าน เผื่อจะได้ทบทวนชีวิตไปตามตัวละครบ้าง พอเจอหนังสือพวกนี้เยอะๆก็เริ่มรู้สึกว่าอยากให้มีร้านมหัศจรรย์พวกนี้อยู่จริงๆเหมือนกันนะ หรือไม่ก็ขอทำงานในนั้นด้วยก็ดี แม้อีกใจจะคิดว่าออกมาแนวนี้อีกแล้วหรอสารพัดเรื่องเยียวยาจิตใจแสดงว่าสังคมเราทุกวันนี้มันคงอึดอัด กดดันมากเลยสินะ ส่วนตัวเรานั้นที่ก็บ้าซื้อมาเกือบหมดเพราะเห็นปกสวยไม่ได้ก็ใช้วิธีอ่านจบส่งต่อเก็บเฉพาะเล่มที่รักไว้พอ


เล่มที่เจ็ด บ้านของหัวใจไม่ได้มีอยู่ทั่วไปบนโลกใบนี้ - อิจิโฮะ มิจิ

เรื่องสั้นหกเรื่องที่มี "ไดนามิก" สะเทือนจิตใต้สำนึกจนหวั่นไหวตาม! เรื่องราวภายในครอบครัวที่เหมือนระลอกคลื่น บางเรื่องพาใจให้พองฟูขึ้นไปจนยิ้มแก้มแตกและขับเน้นความมุ่งมั่นทะยานอยากไปแตะขอบฝัน แต่พริบตาเดียวก็พาใจร่วงดิ่งลงมาโดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้ตระหนักได้ว่า "บ้านไม่ใช่เซฟโซนเสมอไป"
ผลงานเข้าชิงรางวัลเจแปนบุ๊กเซลเลอร์ปี 2022! เชื่อมโยงบทสุดท้ายกับบทแรกได้อย่างงดงาม

• ปลานีออน - คู่สมรสที่ไม่มีลูกไม่ใช่เรื่องแปลก การเป็นแม่คนไม่ใช่ความสุขเพียงหนึ่งเดียวของเพศหญิง
• การกลับมาของจอมมาร - เขารู้สึกขึ้นมาจริงๆว่า ถ้าไม่ทำลายภาพที่อยู่ตรงหน้า ตัวเขาจะเป็นฝ่ายพังทลายไปเสียเอง
• ปิกนิก - ครอบครัวก็คือกล่องดำนั่นละครับ มองจากข้างนอกไม่เห็น และจะให้คนภายนอกมาเข้าใจก็ยากด้วย
• บทเพลงดอกไม้ - ความผิด โทษ การสำนึกผิด การชดใช้ ความเหงา สิ่งเหล่านี้คืออะไรกันแน่ คิดให้ตายก็ไม่ได้คำตอบ
• รักพอประมาณ - คิดว่าต้องพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ต้องหาคำพูดที่จะไม่สร้างบาดแผล คำพูดที่จะเยียวยาจิตใจ 
• วันงาน - ถ้ามีคนไม่รู้จักสักคนมาฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันคงจะดี ไม่ต้องแบกรับอะไร ไม่ต้องเห็นอกเห็นใจ ไม่ต้องสงสาร 

---

หนังสือออกใหม่ที่เราพรีออเดอร์มาอีกแล้ว เพราะอยากได้การ์ดใสของแถมที่ยังไม่เคยมี! แล้วพอดูหนังสืออ่านเจอประโยคว่าเรื่องสั้นหกเรื่องที่ทำให้คุณตระหนักว่า "บ้านไม่ใช่เซฟโซน" เสมอไป...นี่เราซื้อมาแบบไม่ได้ดูให้ดีอีกแล้วสินะ เพราะเราคิดว่ามันออกแนวอบอุ่นหัวใจน่ะสิ แล้วสายตาก็เหลือบไปเจอประโยคบนที่เขามีวงกลมเด่นๆว่า...หนังสือที่พนักงานขายหนังสือทั่วประเทศญี่ปุ่นโหวตว่า อยากอ่านที่สุด... ได้อ่านหนังสือที่พนักงานขายทั่วประเทศญี่ปุ่นอยากอ่านก็ดีเหมือนกันนะ (แต่หลังจากที่มีคนได้อ่านและรีวิวคร่าวๆไว้ ได้ความว่า...ดิ่งหนักมาก)